เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว — รวมสถานที่ท่องเที่ยว & กิจกรรมฤดูหนาว ในญี่ปุ่น — TravelDiDi https://traveldidi.com/tag/เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว/ ที่เที่ยว เที่ยวต่างประเทศ ที่พัก รีวิว บัตรเครดิต Sun, 21 Jan 2024 03:09:30 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.5.2 https://traveldidi.com/wp-content/uploads/2023/02/cropped-t-logo-7-32x32.png เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว — รวมสถานที่ท่องเที่ยว & กิจกรรมฤดูหนาว ในญี่ปุ่น — TravelDiDi https://traveldidi.com/tag/เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว/ 32 32 แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b9%81%e0%b8%88%e0%b8%81%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%a5%e0%b8%99-%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%9f%e0%b8%b9%e0%b8%88%e0%b8%b4-1-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99/ https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b9%81%e0%b8%88%e0%b8%81%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%a5%e0%b8%99-%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%9f%e0%b8%b9%e0%b8%88%e0%b8%b4-1-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99/#respond Sat, 30 Dec 2023 10:39:31 +0000 https://traveldidi.com/?p=8415 ไปญี่ปุ่น โตเกียว อยากไปเที่ยวฟูจิ 1 วัน ไปยังไงดี ไปเที่ยวคาวากุจิโกะ ไปเที่ยวที่ไหนดี มีที่เที่ยวที่ไหนแนะนำบ้าง Traveldidi มีแพลนมาฝากกันค่ะ

The post แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี appeared first on TravelDiDi.

]]>

สารบัญเนื้อหา

ไปญี่ปุ่น โตเกียว อยากไปเที่ยวฟูจิ 1 วัน ไปยังไงดี ไปเที่ยวที่ไหนดี Traveldidi.com มีแพลนมาฝากกันค่ะ

ทะเลสาบคาวากุจิโกะในจังหวัดยามานาชิเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่นที่คนไทยนิยมไปเที่ยวเพราะคุณสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ชัดจากที่นี่ สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู และยังสามารถไปเที่ยวแบบ 1 Day Trip ไปเช้าเย็นกลับจากโตเกียวได้อีกด้วย (หรือจะนอนค้างเรียวกัง 1 คืนก็คือเลิศ!) จุดเด่นยังมีทะเลสาบทั้ง 5 รอบ ๆ พร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิให้ได้ชมและมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำโปรแกรมเที่ยวฟูจิ 1 วันแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวรอบ ๆ ทะเลสาบคาวากุจิโกะในหนึ่งวัน โปรแกรมนี้เต็มไปด้วยจุดท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์ตระการตา อาหารที่ต้องกิน แลนด์มาร์กที่ต้องไป ความประทับใจแบบเต็ม 100% มาดูกันเลยว่าแพลนเที่ยวฟูจิ คาวากุจิโกะ 1 วันจะมีที่ไหนน่าไปบ้าง

ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi

วิธีการเดินทางจากโตเกียวไปฟูจิ (คาวากุจิโกะ)

รถไฟ

จากสถานี JR ชินจูกุ ใช้ Limited Express Fuji Excursion โดยตรง  ไปยัง Ōtsuki
(ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) จากนั้นขึ้นรถไฟ Fujikyū ไปยัง Kawaguchiko (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า)

รสบัส

สามารถขึ้นรถบัสทางหลวงจากสถานีต่าง ๆ ทั่วโตเกียว รวมถึงชินจูกุ ชิบุยะ และโตเกียว ไปยังสถานีคาวากุจิโกะ

* ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง โดยแวะที่สวนสนุก FujiQ Highland ระหว่างทาง

คุณสามารถจองการเดินทางไปกลับด้วยรถบัสได้ที่เว็บไซต์ของ Shinjuku Highway Bus และเว็บไซต์ผู้ให้บริการรถบัสสายอื่น ๆ

โปรแกรมเที่ยวฟูจิ คาวากุจิโกะ 1 วัน

1. ชมวิวกระเช้า Mt. Fuji Panoramic Ropeway

แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี

สำหรับโปรแกรม ‘เที่ยวฟูจิ 1 วัน‘ เราอยากแนะนำให้เริ่มต้นทริปด้วยการนั่ง ‘กระเช้าลอยฟ้า Mt. Fuji Panoramic Ropeway‘ ขึ้นไปชมวิวภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวากุจิโกะแบบพาโนราม่า 360 องศา ชมวิวสุดอลังการ! กระเช้าจะขึ้นไปยังสถานีฟูจิมิไดบนยอดเขาเท็นโจ ใช้เวลาประมาณ 3 นาที บนหอชมวิวนี้มีจุดถ่ายรูปมากมายและมีเกมให้ลองเล่นด้วย

ข้อควรทราบ: เนื่องด้วยเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิยอดฮิตและสวยงาม จึงมีคนมาเที่ยวเยอะ ทำให้อาจใช้เวลารอคิวประมาณ 2 ชั่วโมง จึงควรไปเข้าคิวตั้งแต่ช่วงเช้า รับรองว่าวิวงดงามประทับใจแน่นอนค่ะ!

เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 9:00-16:00 น. / เสาร์-อาทิตย์เปิดถึง 17:00 น.

แผนที่: https://bit.ly/4aBjFim

 

2. ชมวิวเจดีย์ Chureito Pagoda

แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี

หากคุณมีเวลาสำหรับเที่ยวฟูจิ 1 วันและอยากไปแลนด์มาร์กยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเราก็ขอแนะนำ เจดีย์ ‘Chureoto Pagoda‘ หรือเจดีย์แดงแห่งฟูจิ! ชมวิวเจดีย์ที่สวยงามอีกแห่งของญี่ปุ่น

ที่นี่เป็นที่เที่ยวยอดฮิตในย่านทะเลสาบคาวากุจิโกะที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง เพราะเป็นจุดชมซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสีนั่นเองค่ะ หากมาถึงแล้ว TravelDiDi.com ก็อยากแนะนำให้ไปให้ถึงยอดจุดชมวิวด้านบนสุด แม้ว่าอาจจะต้องเข้าคิวสำหรับขึ้นไปชม แต่ก็คุ้มสำหรับการรอคอยแน่นอน! ความฟินในการชมดอกซากุระบานที่นี่คือจะได้ชมกลีบดอกซากุระปลิวพริ้วไปกับสายลมในช่วงที่บานเต็มที่ บวกกับฉากหลังที่เป็นวิวภูเขาไฟฟูจิและท้องฟ้าที่สดใสแล้ว ทำให้เกิดภาพงดงามประทับใจ สวยงามจนเกินบรรยายเลยค่ะ

ข้อมูลที่ควรทราบ: ใช้เวลาเที่ยวประมาณ 1 ชั่วโมงถึงชั่วโมงครึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะขึ้นไปจนถึงจุดไหน เป็นที่เที่ยวที่ต้องจอดรถด้านล่างและเดินบันไดขึ้นไป ด้านบนมีจุดแวะพักต่าง ๆ รวมทั้งร้านขายขนมและอาหารสตรีทฟู้ดตามเทศกาลท่องเที่ยวค่ะ

แผนที่: https://bit.ly/3S49FqM

3. เล่นสนุก ที่ Fuji Q Highland (ตัวเลือก)

แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี

สำหรับแพลนเที่ยวฟูจิ 1 วัน เราขอแนะนำสวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ ที่สามารถขึ้นรถจากโตเกียวแบบไปเช้า-เย็นกลับมาเที่ยวได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความหวาดเสียว! สวนสนุก FujiQ Highland เป็นสวนสนุกที่มองเห็นทิวทัศน์ของฟูจิซังและมีเครื่องเล่นที่โดดเด่น คือ รถไฟเหาะหลักๆ แบบโหด ๆ ให้เราได้มาเล่นกันอยู่ 5 เครื่อง นอกจากนี้ยังมีบ้านผีสิงสุดโหดและน่ากลัว และมีโซนเครื่องเล่นหลายโซน สามารถสนุกได้ทั้งวันเลยค่ะ สิ่งที่ควรทราบ: ที่สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์มีจุดจอดรถบัส ซึ่งสามารถขึ้นรถบัสจากโตเกียววิ่งตรงมาลงที่นี่ได้เลยค่ะ หรือถ้าหากสนใจอยากนอนค้างซัก 1 คืน ที่นี่ก็มีโรงแรมที่พักในสวนสนุกเช่นกันค่ะ สามารถเลือกเที่ยวตามความสะดวกได้เลย! หมายเหตุ: สถานที่นี้เป็น Option เสริม สำหรับคนที่ต้องการเที่ยวธรรมชาติหรือจุดแลนด์มาร์กยอดนิยมอื่น ๆ ควรตัดที่อื่นออกเพื่อเผื่อเวลาเล่นที่สวนสนุก บางท่านอาจแบ่งเวลาเพื่อเที่ยวแลนด์มาร์กยอดฮิตในช่วงเช้าและมาเล่นสวนสนุกช่วงบ่ายหากมีเวลาสั้น ๆ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่คุณมี และสามารถจัดเป็น 1 Day Trip จากโตเกียวมาเล่นสวนสนุกที่นี่โดยเฉพาะและนั่งรถบัสกลับช่วงเย็นได้ค่ะ
 

<<เช็กราคา & จองที่พัก Highland Resort Hotel and Spa เรทดีที่สุด!!>>

4. ลิ้มรสอาหารท้องถิ่น Hoto Noodle

แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี

พูดถึงอาหารท้องถิ่นของจังหวัดยามานาชิกันบ้าง ที่นี่มี “โฮโตะ ” (Hoto Noodle) เป็นอาหารท้องถิ่น หากคุณมีแผนที่จะมาเที่ยวฟูจิรอบ ๆ คาวากุจิโกะ เราก็อยากแนะนำให้คุณลิ้มลองเมนูนี้ดูสักครั้ง

บะหมี่โฮโตะเป็นบะหมี่เส้นแบนเหนียวนุ่มในน้ำซุปมิโซะ จะใส่ส่วนผสมของฟักทอง มันฝรั่ง เห็ด และผักอื่นๆ ตามฤดูกาล ได้รสหวานกลมกล่อม มีลักษณะเด่นชัดเจนตรงที่เป็นเส้นแบนกว้างและรสสัมผัสเหนียวนุ่มคล้ายอุด้ง เป็นเมนูอาหารที่มีเสิร์ฟเป็นอาหารเช้าสำหรับแขกที่พักในโรงแรมบางแห่งใกล้ทะเลสาบคาวากุจิโกะด้วยค่ะ อย่างเช่นที่โรงแรมเรียวกัง Hotel Kaneyamaen ที่ทางทีมงานเคยไปพักมา รสชาติน่าลิ้มลอง แต่ก็สามารถหารับประทานที่ร้านอาหารใกล้ ๆ ทะเลสาบคาวากุจิโกะได้เช่นกัน

ร้านอาหารแนะนำในคาวากุจิโกะ

  • ร้านเทมปุระ Fuji Tempura Idaten : เสิร์ฟเทมปุระจัดวางเป็นรูปภูเขาไฟฟูจิ น้ำราดอร่อย เป็นร้านเทมปุระยอดนิยมในคาวากุจิโกะที่นักท่องเที่ยวนิยมไปทาน (แผนที่)
  • ร้าน Makigari: ร้านเนื้อย่างหินภูเขาไฟฟูจิ ที่มีทั้งเนื้อย่างและหมูย่างพร้อมผัก นำมาย่างบนแผ่นหินลาวาร้อน ๆ ทำขึ้นมาพิเศษสำหรับที่ร้านโดยเฉพาะ รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ พูดแล้วก็หิวตามเลยค่ะ! แนะนำให้จองคิวล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของร้านซึ่งเป็นเว็บโรงแรมเรียวกังค่ะ (แผนที่)
  • ร้าน Hoto Fudou: ร้านขายบะหมี่โฮโตะ เมนูท้องถิ่นของจังหวัดยามานาชิ ร้านนี้เป็นร้านที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว หากอยากไปชิมเมนูนี้สักครั้งก็ขอแนะนำร้านนี้ค่ะ (แผนที่)

5. เที่ยว Oishi Park และ Kawaguchiko Natural Living Center

แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี

โปรแกรมเที่ยวฟูจิ 1 วันของคุณสามารถเลือกสถานที่ที่ชอบใส่ลงไปเพิ่มได้จุดละ 30 นาทีไปจนถึง 2 ชั่วโมงเลย โดยที่เที่ยวในฟูจิ-คาวากุจิโกะที่ต่อไปที่เราอยากแนะนำให้ไปชมคือที่ ‘สวนโออิชิ’ (Oishi Park) ชมภูเขาไฟฟูจิจากทุ่งลาเวนเดอร์และบลูเบอร์รี่รวมทั้งดอกไม้ตามฤดูกาลได้ที่นี่เลย และยังมีที่เที่ยว Kawaguchiko Natural Living Center ที่สามารถซื้อของฝากสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่นมากมายได้อีกด้วย

หากคุณอยากไปชมดอกลาเวนเดอร์ที่สวน Oishi Park ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมคือช่วงกลางเดือนมิถุนายน

ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม จะเก็บบลูเบอร์รี่ ในฟาร์มใกล้ ๆ สวน Oishi Park ได้เช่นกันค่ะ เป็นอีกจุดที่น่าเที่ยวในคาวากุจิโกะและเที่ยวชมวิวภูเขาไฟฟูจิค่ะ

สิ่งที่ควรทราบ

  • สวน Oishi Park ตั้งอยู่ทางฝั่งตอนเหนือของทะเลสาบคาวากุจิโกะ หากคุณมาเที่ยวที่นี่ในช่วงฤดูดอกซากุระบานก็อยากแนะนำให้แวะเที่ยวงาน Fuji Kawaguchiko Sakura Festival ด้วยกันเลยเพราะเป็นทางผ่านใกล้ ๆ กัน โปรดเช็กวันที่จัดงานในเว็บไซต์ทางการของผู้จัดงานก่อนเดินทาง (เลียบชายฝั่งทะเลสาบคาวากุจิโกะเซอร์เคิลฮอลล์ – พิกัด)
  • สวนโออิชิพาร์ค เป็นสวนดอกไม้ตามฤดูกาล สามารถชมทัศนียภาพดอกไม้ได้ตามฤดูกาลค่ะ

6. แวะถ่ายรูปที่ Itchiku Kubota Art Museum และ The Maple Corridor (ตัวเลือก)

แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี

อีกจุดที่เที่ยวฟูจิ 1 วันที่เราอยากแนะนำคือที่ พิพิธภัณฑ์ Itchiku Kubota Art Museum และอุโมงค์ใบเมเปิ้ล Momiji Kairo ซึ่งเป็นที่เที่ยวฟูจิ ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ห้ามพลาด ส่วนพิพิธภัณฑ์นั้นสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูเลยค่ะ

พิพิธภัณฑ์ Itchiku Kubota Art Museum มีตัวอย่างผลงานของอิตจิกุ คุโบตะ
ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการย้อมผ้าโบราณที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งรวมถึงชุดกิโมโนที่สวยงามและห้องน้ำชาพร้อมทิวทัศน์อันตระการตาของทะเลสาบภูเขาไฟฟูจิ มีสวนรอบ ๆ พิพิธภัณฑ์ พร้อมด้วยน้ำตกขนาดเล็กและป่าไม้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังอยู่ใกล้กับ Maple Corridor ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดอีกแห่งของคาวากุจิโกะด้วยค่ะ

หมายเหตุ

  • จุดเที่ยวนี้ เป็น Option ใครอยากสลับกับที่เที่ยวในข้ออื่น ๆ เพื่อเที่ยวตามฤดูกาล (เช่น เที่ยวคาวากุจิโกะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ก็สามารถพิจารณาข้อนี้ได้ค่ะ)
  • ที่อุโมงค์ใบเมเปิ้ล Momiji Kairo มีการเปิดไฟ Light Up ช่วงกลางคืนในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี หากคุณต้องการเที่ยวที่จุดนี้ควรวางแผนค้างคืนหรือเช็กเวลารถบัสกลับโตเกียวก่อนเดินทาง (**โปรดเช็กระยะเวลาการจัดงาน Light Up ที่เว็บไซต์ทางการก่อนเดินทางท่องเที่ยว)

7. เที่ยวถ้ำ Ice and Win Cave (ตัวเลือก)

แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี

ถ้ำน้ำแข็ง Narusawa Hyōketsu และถ้ำลม Fugaku Fūketsu เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้คาวากุจิโกะสำหรับผู้รักการผจญภัย! ถ้ำทั้ง 2 แห่งอยู่ห่างจากประมาณไม่เกิน 10 นาที จึงสามารถไปเที่ยวพร้อมกันภายในวันเดียวได้

ถ้ำน้ำแข็ง เป็นสถานที่ที่น่าสนใจ มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยมีน้ำแข็งย้อยออกมาจากเพดาน ทั้งนี้ถ้ำนี้ อยู่ติดกับป่าอาโอกิกาฮาระ เราสามารถชมวิวป่าสวย ๆ ได้อีกด้วย

หมายเหตุ: จุดเที่ยวนี้ เป็น Option ใครอยากสลับกับที่เที่ยวในข้อ ๆ เพื่อเที่ยวสถานที่แนวธรรมชาติ ก็สามารถลองพิจารณาที่เที่ยวแห่งนี้ได้ค่ะ

8. Saiko Iyashi-no-Sato Nenba Healing Village (ตัวเลือก)

แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี

เยี่ยมชมหมู่บ้าน Saiko Iyashi-no-Sato Nenba ซึ่งมีอาคารมุงจาก ซึ่งแต่ละแห่งมีการสาธิตงานฝีมือในท้องถิ่น ที่นี่เราสามารถสวมชุดเกราะซามูไร แต่งตัวเป็นเกอิชา ซื้อกระดิ่งลม และทานอาหารท้องถิ่น เช่น ไอศกรีมวาซาบิ ได้ที่นี่ค่ะ

หมายเหตุ: จุดเที่ยวนี้ เป็น Option ใครอยากสลับกับที่เที่ยวในข้ออื่น ๆ เพื่อเที่ยวสถานที่ตามฤดูกาล ก็สามารถลองพิจารณาที่เที่ยวแห่งนี้ได้ค่ะ

9. หมู่บ้านน้ำใส Oshino Hakkai

แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี

โอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai) หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า ‘หมู่บ้านน้ำใส แห่งฟูจิ’ มีชื่อเสียงจากบ่อน้ำแปดแห่งที่มีน้ำใสสะอาดและบริสุทธิ์ มีกังหันลมที่แปลกตา และทิวทัศน์อันตระการตาของภูเขาไฟฟูจิ

แม้ว่าช่วงฤดูท่องเที่ยวจะมีผู้คนพลุกพล่านค่อนข้างมาก แต่การไปที่นั่นจะทำให้คุณได้ชมทิวทัศน์อันน่าทึ่ง โดยเฉพาะในช่วงปรากฏการณ์ the Diamond Fuji Phenomenon และช่วงฤดูกาลดอกซากุระบาน รวมทั้งช่วงฤดูหนาว ที่มีทิวทัศน์ตระกาลตาแตกต่างไปตามฤดูกาล เป็นที่เที่ยวคาวากุจิโกะที่สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาลเลยค่ะ

คำแนะนำ

  • หมู่บ้านโอชิโนะฮักไกตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบยามานากะ (Yamanaka Lake) สามารถวางแผนเที่ยวใกล้ ๆ กันได้ค่ะ ที่ทะเลสาบยามานากะเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิที่น่าเที่ยวอีกแห่ง มีกิจกรรมทางน้ำ เช่น ตกปลาฤดูหนาว, ให้อาหารปลาและอาหารหงส์ และยังมีรถบัสสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก (Kaba Bus) สามารถไปเที่ยวต่อได้ค่ะ
  • Oshino Hakkai เป็นจุดชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิที่น่าเที่ยวอีกแห่ง ดอกซากุระที่นี่จะบานช้ากว่าซากุระที่บริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะค่ะ
  • มีแผงขายอาหาร ร้านขายของฝากและขายผลไม้ สามารถฝากท้องมื้อเที่ยงแบบหาอะไรทานง่าย ๆ ได้ที่หมู่บ้านโอชิโนะฮักไกเช่นกันนะคะ!

10. Fuji Moss Phlox Festival (ตัวเลือก)

แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี

ชมสวนชิบะซากุระมากกว่า 800,000 ต้น ปกคลุมพื้นดิน มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤษภาคม ทำให้เกิดทิวทัศน์อันน่าทึ่ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งจุดที่สวยงาม สามารถมาเที่ยวตามฤดูกาลได้ค่ะ

หมายเหตุ: จุดเที่ยวนี้ เป็น Option ใครอยากสลับกับที่เที่ยวในข้ออื่น ๆ เพื่อเที่ยวสถานที่ตามฤดูกาล ก็สามารถลองพิจารณาที่เที่ยวแห่งนี้ได้ค่ะ

ตัวอย่าง โปรแกรมเที่ยวฟูจิ 1 วัน ชมซากุระ – เดินทางด้วยรถเช่าพร้อมคนขับ

เวลาท่องเที่ยว 09:00-16:00 น. ** เฉพาะในคาวากุจิโกะ ไม่รวมในโตเกียว

  1. ทานมื้อเช้ารองท้องจากโรงแรมหรือร้านสะดวกซื้อ พักที่เรียวกัง Hotel Kaneyamaen
  2. เที่ยว Oshino Hakkai ใกล้ฝั่งทะเลสาบยามานากะ
  3. แวะศาลเจ้าขอพรการเงิน การงาน ที่ Arayayama Shrine (พิกัด)
  4. แวะชมถนน Fuji-michi เช็กอินชมวิวถ่ายรูปยอดฮิต (พิกัด)
  5. เที่ยวเจดีย์แดง Chureito Pagoda – ถ่ายรูปวิวซากุระกับเจดีย์แดง ทานสตรีทฟู้ดแผงอาหารบริเวณทางเข้ารองท้องก่อนมื้อถัดไปได้
  6. แวะ Fuji Kawaguchiko Sakura Festival ถ่ายรูปซากุระที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะฝั่งเหนือและเดินเที่ยวงานเทศกาลซากุระคาวากุจิโกะ (พิกัด)
  7. แวะถ่ายรูป Oishi Park (ข้อนี้เป็นตัวเลือก บางท่านอาจงดข้าวเที่ยงและทานอาหารทานเล่นแบบรองท้องแทน ค่อยทานหนักช่วงมื้อเย็น)
  8. ตัวเลือก: สามารถให้คนขับรถขับพาชมทะเลสาบทั้ง 5 แบบชมวิวจากในรถและแวะจอดรถถ่ายรูปในจุดสวย ๆ ได้
  9. รับประทานมื้อเที่ยง-บ่ายที่ร้าน Tempura Idaten (**ควรเผื่อเวลารอคิว | พิกัด)
  10. แวะถ่ายรูปร้าน Lawson วิวฟูจิซังด้านหลังใกล้สถานี Kawaguchiko Station
  11. เดินเล่นแถวสถานี Kawaguchiko Station ต่อ
  12. ขึ้นรถบัสกลับโตเกียว เดินเที่ยว Tokyo Station ต่อในช่วงกลางคืน รับประทานอาหารเย็น
  13. กลับที่พัก

คำแนะนำในการวางแผนเที่ยวฟูจิ 1 วัน

การท่องเที่ยวรอบ ๆ ฟูจิ หรือ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีระยะทางห่างไกลกันสำหรับที่เที่ยวแต่ละจุด จึงเหมาะกับการขับรถเที่ยว หรือเช่ารถพร้อมคนขับ แต่สามารถนั่งรถบัสท่องเที่ยวรอบ ๆ ได้ เพียงแต่การรอรอบรถบัสจะทำให้ต้องรอและใช้เวลา ฉะนั้นสำหรับแผนเที่ยวฟูจิ 1 วันนี้ หากอยากเก็บให้ได้ 3-5 ที่ขึ้นไปภายในหนึ่งวัน (ยกเว้นเล่นสวนสนุกด้วย) จึงแนะนำควรเช่ารถขับด้วยตัวเอง หรือจ้าง Sight Seeing Taxi เช่น ของบริษัท FUJIKYU YAMANASHI-HIRE Inc. โดยราคาจะคิดเป็นชั่วโมงหรือตามแพลนเที่ยว คนขับสามารถมารับที่จุดนัดพบและพูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ

นอกจากนี้ ระยะเวลาในการท่องเที่ยวในแต่ละวันจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลที่คุณไปเที่ยว เช่น ฤดูหนาว พระอาทิตย์จะตกดินประมาณ 16:00 น. เร็วกว่าฤดูอื่น ๆ จึงอาจทำให้เที่ยวได้น้อยลง จึงควรวางแผนท่องเที่ยวให้เหมาะสมตามฤดูกาลค่ะ

วางแผนเที่ยวฟูจิแบบนอนค้าง 1-2 คืน

ที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศดีเหมาะสำหรับพักผ่อนและแช่น้ำพุร้อนออนเซ็น หากคุณมีเวลา 2-3 วัน เราแนะนำควรพักที่โรงแรมเรียวกังซักคืนหรือสองคืน ทานอาหารไคเซกิแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม แช่น้ำพุร้อนออนเซ็น ซึ่งโรงแรมเรียวกังบางแห่งอย่าง Hotel Kaneyamaen ที่มีทั้งบ่อแช่ออนเซ็นและรถ Shuttle Bus ฟรี ไปรับ-ส่งที่สถานี Kawaguchiko Station และ Fujisan Station (คนละที่กับ Fuji 5th Station) เหมาะสำหรับคนที่เที่ยวฟูจิโดยไม่ขับรถเอง ก็สามารถวางแผนเที่ยวด้วยรถประจำทางหรือจ้างแท็กซี่โดยมีรถของโรงแรมไปรับ-ส่งที่สถานีดังกล่าวในวันที่มาถึงหรือวันที่ต้องการออกไปเที่ยวค่ะ

<<จองที่พักในฟูจิ คาวากุจิโกะ เรทราคาดีที่สุด>>

▽ บทความที่เกี่ยวข้อง ▽

The post แจกแพลน เที่ยวฟูจิ 1 วัน เที่ยวที่ไหนดี appeared first on TravelDiDi.

]]>
https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b9%81%e0%b8%88%e0%b8%81%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b8%a5%e0%b8%99-%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%9f%e0%b8%b9%e0%b8%88%e0%b8%b4-1-%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%99/feed/ 0
54 จุดชม “งานประดับไฟ ญี่ปุ่น 2023 – 2024” Japan Winter Illumination https://traveldidi.com/things-to-do/%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%84%e0%b8%9f-%e0%b8%8d%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99-2023-2024/ https://traveldidi.com/things-to-do/%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%84%e0%b8%9f-%e0%b8%8d%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99-2023-2024/#respond Thu, 07 Dec 2023 06:29:11 +0000 https://traveldidi.com/?p=7908 รายชื่อ 54 จุดชมงานประดับไฟญี่ปุ่น ปี 2023/2024 ไปเที่ย […]

The post 54 จุดชม “งานประดับไฟ ญี่ปุ่น 2023 – 2024” Japan Winter Illumination appeared first on TravelDiDi.

]]>

รายชื่อ 54 จุดชมงานประดับไฟญี่ปุ่น ปี 2023/2024

ไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวห้ามพลาดงานประดับไฟ! เราได้รวบรวมและเลือก “งานประดับไฟ ญี่ปุ่น ประจำปี 2023 – 2024” (Winter Illumination) และจุดเที่ยวคริสต์มาสและฤดูหนาวในภูมิภาคคันโตและคันไซมาฝากทุกท่าน พบกับรายชื่อกิจกรรมหน้าหนาวต่าง ๆ จากทั่วประเทศ รวมทั้งงานประดับไฟที่ประดับประดาให้ค่ำคืนของโตเกียว และจังหวัดต่าง ๆ ในภูมิภาคคันโตและคันไซเป็นค่ำคืนที่มหัศจรรย์เต็มไปด้วยสีสันของแสงไฟคริสต์มาส มาดูกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เหมาะสำหรับช่วงคริสต์มาสมีที่ไหนบ้าง และการแสดงแสงไฟที่ไหนที่สามารถมองเห็นได้จากใจกลางกรุงโตเกียว ทีมงาน TravelDiDi.com ได้รวบรวมมาให้คุณแล้วที่นี่ค่ะ

ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi

1. งานประดับไฟ “Silver World” Christmas illumination ที่ถนน Keyakizaka – รปปงหงิฮิลส์ โตเกียว

งานประดับไฟ “Silver World” Christmas illumination ที่ถนน Keyakizaka - รปปงหงิฮิลส์ โตเกียว

ประเพณีการจัดงานประดับไฟ คริสต์มาส และฤดูหนาว ประเทศญี่ปุ่น ปี 2023-2024 กลับมาอีกครั้ง ในช่วงงานประดับไฟคริสต์มาสและฤดูหนาวที่รปปงหงิฮิลส์ (Roppongi Hills) บริเวณถนนเคยากิซากะ (Keyakizaka) และลาน 66 Plaza จังหวัดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะถูกปกคลุมไปด้วยแสงไฟที่งดงาม ในธีมโลกแห่งสีเงิน “Silver World” ใช้ไฟ LED ประมาณ 800,000 ดวง นำมาใช้เนรมิตรดับบนถนนเคยากิซากะที่มีต้นไม้เรียงรายเกิดเป็นภาพที่สวยงาม จุดถ่ายรูปที่แนะนำคือบริเวณใกล้กับร้าน Tiffany’s ที่ถนนเคยากิซากะ และบริเวณร้านหนังสือ Tsutaya สาขา Roppongi ซึ่งเป็นจุดที่คุณสามารถถ่ายภาพ Winter Illumination ทั้งหมดพร้อมกับวิวสวย ๆ ได้
งานประดับไฟ “Keyakizaka Illumination” รปปงหงิฮิลส์ โตเกียว ระยะเวลา: 6 พฤศจิกายน (วันจันทร์) – 25 ธันวาคม (วันจันทร์) 2023 เวลา: 17:00 – 23:00 น. *เวลาเริ่มเปิดไฟอาจแตกต่างกันในเฉพาะวันแรกเท่านั้น ที่ตั้ง: ถนน Roppongi Keyakizaka Street
 
 

2. งานประดับไฟและโคมระย้า Baccarat ที่ใหญ่ที่สุดในโลก – Tokyo Ebisu Garden Place

งานประดับไฟและโคมระย้า Baccarat ที่ใหญ่ที่สุดในโลก - Tokyo Ebisu Garden Place

เมื่อพูดถึงงานประดับไฟและกิจกรรมฤดูหนาวที่ญี่ปุ่น ก็จะขาดงานประดับไฟที่ เอบิสึการ์เต้นเพลส (Ebisu Garden Place) ในโตเกียวไปไม่ได้ ที่นี่มีโคมไฟระย้า Baccarat ซึ่งเป็นหนึ่งในโคมไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถูกตกแต่งประดับอย่างสวยงามในฤดูหนาว เมื่อดวงไฟทั้งหมด 250 ดวงและคริสตัลนับไม่ถ้วนส่องแสงระยับระยับ ก็ทำให้พื้นที่ที่จัดงานดูงดงามขึ้นไปอีก นอกจากนี้ ในปี 2023-2024 นี้ จะเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่มีตกประดับตกแต่งต้นคริสมาสต์และบริเวณโดยรอบรอบ Ebisu Garden Place ตื่นตาตื่นใจไปกับแสดงไฟสีทองแชมเปญ นอกจากนี้สถานที่จัดงานประดับไฟแห่งนี้ยังสามารถเดินทางง่ายจากใจจากเมืองในย่านชิบูย่า ดังนั้น หากคุณมีแผนที่จะไปทานอาหารเย็นหรือช็อปปิ้งในย่านชิบูย่า เราก็ขอแนะนำให้แวะไปชมงานประดับไฟที่นี่กันด้วยนะคะ
งานประดับไฟ “Baccarat Eternal Lights – Shape of Joy” ระยะเวลา: 11 พฤศจิกายน 2023 (วันเสาร์) – 8 มกราคม 2024 (วันจันทร์ วันหยุด) สถานที่: Ebisu Garden Place Center Square ที่อยู่: 4-20 Ebisu, Shibuya-ku, Tokyo

3. งานประดับไฟ “Blue Cave SHIBUYA” – ชิบูย่า โตเกียว

งานประดับไฟ "Blue Cave SHIBUYA" - ชิบูย่า โตเกียว

*เหตุการณ์ที่ผ่านมา

งานประดับไฟ “Blue Cave SHIBUYA” สร้างสีสันให้กับทิวทัศน์ฤดูหนาวของชิบูย่า โตเกียว จะจัดขึ้นอีกครั้งในปี 2023 คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันน่าอัศจรรย์อันเป็นเอกลักษณ์ของ “ถ้ำสีน้ำเงิน Blue Cave” ซึ่งรายล้อมไปด้วยแสงสีฟ้า ทอดยาวตั้งแต่ชิบุยะโคเอ็นโดริไปจนถึงต้นเซลโควาในสวนสาธารณะโยโยงิ ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และยังมีงานตลาดคริสต์มาสจัดใกล้ ๆ กันอีกด้วย

4. งานประดับไฟ “Omotesando Fendi Illumination 2023” “Champagne Gold” – โอโมเตะซันโดะ โตเกียว

งานประดับไฟ “Omotesando Fendi Illumination 2023” “Champagne Gold” - โอโมเตะซันโดะ โตเกียว

งานประดับไฟ ญี่ปุ่น ที่น่าไปในโตเกียวปี 2023 – 2024 นี้ อีกที่หนึ่งคือที่ย่านโอโมเตะซันโด การประดับไฟซึ่งกลายเป็นประเพณีฤดูหนาวในโอโมเตะซันโดในโตเกียวไปแล้ว จะจัดขึ้นอีกครั้งในปี 2023 นี้ … เมื่อไฟ LED สีทองแชมเปญสว่างขึ้น ก็ทำให้ถนนในย่านโอโมเตะซันโดะในฤดูหนาวส่องสว่างแพรวพราว แค่เดินไปตามถนนก็ให้ความรู้สึกเย้ายวนใจแล้ว
Omotesando Fendi Illumination 2023 ระยะเวลาการประดับไฟ: 1 ธันวาคม 2023 (วันศุกร์) ถึง 28 ธันวาคม 2023 (วันพฤหัสบดี) เวลา: ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกถึง 22:00 น. *พุ่มไม้จะถูกตกแต่งตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2023 (วันศุกร์) ถึงมกราคม 2024 ถึงวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พิกัด: โอโมเตะซันโด (โซนที่ปลูกต้นเคยากิ: สะพานจิงกุ – แยกโอโมเตะซันโด)

5. งานประดับไฟคริสมาสต์ที่บริเวณ “Forest in the City” ที่ห้าง Tokyu Plaza Omotesando Harajuku โตเกียว

งานประดับไฟคริสมาสต์ที่บริเวณ "Forest in the City" ที่ห้าง Tokyu Plaza Omotesando Harajuku โตเกียว

ปี 2023-2024 นี้ ที่ห้าง Tokyu Plaza Omotesando Harajuku จังหวัดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก็จะมีการจัดงานประดับไฟ “Omohara Christmas Illumination” ในธีม “Forest of Falling Stars” ที่บริเวณดาดฟ้า โซน “Omohara no Mori” หรือที่เรียกกันว่า “Forest in the City” หรือป่าในเมืองที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้และดอกไม้ป่ากว่า 50 ชนิด จะได้รับการตกแต่งด้วยไฟส่องสว่างที่ดูเหมือนดาวตก ตกแต่งด้วยเครื่องประดับรูปสัตว์ต่าง ๆ ทำให้คุณเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่หรูหรามากยิ่งขึ้น
“Omohara Christmas Illumination” ระยะเวลา: 16 พฤศจิกายน 2023 (พฤหัสบดี) – 14 มกราคม 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: Tokyu Plaza Omotesando Harajuku ชั้น 6 ระเบียงดาดฟ้า “Omohara no Mori” ที่อยู่: Shibuya, Tokyo 4-30-3 Ku Jingumae

6. งานประดับไฟที่ Omotesando Hills – พบกับต้นไม้ประดับด้วยเกล็ดหิมะ ประมาณ 500 ต้น ปรากฏขึ้นพร้อมประดับไฟคริสต์มาส

งานประดับไฟที่ Omotesando Hills - พบกับต้นไม้ประดับด้วยเกล็ดหิมะ ประมาณ 500 ต้น ปรากฏขึ้นพร้อมประดับไฟคริสต์มาส

Image Source: fashion-press.net

การประดับไฟภายใน Omotesando Hills Hall ในโตเกียวปี 2023 นี้ มีต้นคริสต์มาสที่ส่องแสงราวกับอัญมณีจากเกล็ดน้ำแข็งให้ได้ชม ส่องแสงแวววาวด้วยเกล็ดหิมะประดับไฟประมาณ 500 จุด ดึงดูดใจ และพบกับเหล่าภูติและสิ่งมีชีวิตในจินตนาการพร้อมกับเกล็ดหิมะบริเวณโดยรอบของต้นไม้ ทำให้เกิดเป็นพื้นที่อันลึกลับน่าดึงดูด และยังมีการแสดงแสงสีเสียงสุดอลังการจัดให้ได้ชมทุก ๆ 20 นาที อีกด้วย
Omotesando Hills Christmas Illumination 2023 ระยะเวลา: 9 พฤศจิกายน 2023 (พฤหัสบดี) ถึง 25 ธันวาคม 2023 (วันจันทร์) สถานที่: Omotesando Hills ที่อยู่: 4-12-10 Jingumae, Shibuya-ku, Tokyo

7. งานประดับไฟ “Marunouchi Illumination 2023” ไฟ LED สีทองแชมเปญประมาณ 1.2 ล้านดวง – Marunouchi โตเกียว

งานประดับไฟ "Marunouchi Illumination 2023" ไฟ LED สีทองแชมเปญประมาณ 1.2 ล้านดวง - Marunouchi โตเกียว

ในช่วงงานประดับไฟ “Marunouchi Illumination 2023” จะมีการประดับไฟส่องสว่างอย่างสวยงามบริเวณ Otemachi, Marunouchi และ Yurakucho ของโตเกียว โดยต้นไม้ริมถนนมากกว่า 360 ต้นในย่านมารุโนอุจิ ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ถนน “Marunouchi Nakadori” ที่เป็นถนนสายหลักยาว 1.2 กิโลเมตรจะถูกส่องสว่างด้วยแสงไฟสีแชมเปญทอง ใช้ไฟ LED ประดับประมาณ 1.2 ล้านดวง นอกจากนี้ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงวันคริสต์มาส ก็จะมีการขยายงานประดับไฟไปยังถนนเกียวโกะโดริ (Gyoko-dori Street) ซึ่งเชื่อมระหว่างสวนพระราชวังอิมพีเรียลและสถานีโตเกียว คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนแสนโรแมนติกได้ในพื้นที่ที่กว้างมากยิ่งขึ้น
“Marunouchi Illumination 2023” ระยะเวลา: 16 พฤศจิกายน 2023 (พฤหัสบดี) – 18 กุมภาพันธ์ 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: บริเวณรอบสถานีโตเกียวและถนน Marunouchi Nakadori

8. ชมต้นคริสต์มาสตกแต่งด้วยดอกกุหลาบปริซึมและ “Light X Art” ที่ Tokyo Garden Terrace Kioicho

ชมต้นคริสต์มาสตกแต่งด้วยดอกกุหลาบปริซึมและ "Light X Art" ที่ Tokyo Garden Terrace Kioicho

ไฮไลท์ของงานประดับไฟฤดูหนาวที่ Tokyo Garden Terrace Kioicho ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น คือ การประดับไฟต้นคริสต์มาสที่มี “ดอกกุหลาบปริซึม” ประมาณ 50 ดอกที่ฐาน ต้นสนสด ๆ ถูกตกแต่งให้ดูแวววาวและระยิบระยับเหมือนเครื่องประดับ นอกจากนี้ การประดับไฟของที่นี่จะใช้แสงไฟสีทองแชมเปญประมาณ 400,000 ดวง คุณสามารถชมบรรยากาศอันน่าอัศจรรย์ “White Deer” ที่สร้างขึ้นโดย Kohei Nawa และงานประดับไฟที่นี่ พร้อมกันกับอาคารสไตล์ตะวันตกที่ส่องสว่างด้วยแสงอันอบอุ่น
“KIOI WINTER ’23/’24” ระยะเวลา: 17 พฤศจิกายน 2023 (วันศุกร์) – 29 กุมภาพันธ์ 2024 (วันพฤหัสบดี) สถานที่: Tokyo Garden Terrace Kioicho ที่อยู่: 1-2 Kioicho, Chiyoda-ku, Tokyo

9. งานประดับไฟที่ Tokyo Skytree Town – การประดับไฟที่ใช้ไฟกว่า 460,000 ดวงและชมการฉายภาพสุดงดงาม

งานประดับไฟที่ Tokyo Skytree Town - การประดับไฟที่ใช้ไฟกว่า 460,000 ดวงและชมการฉายภาพสุดงดงาม

รูปภาพในอดีต ©TOKYO-SKYTREE ©TOKYO-SKYTREETOWN

ที่โตเกียวสกายทรีทาวน์ (Tokyo Skytree Town) จะมีการจัดงานประดับไฟพร้อมกับกิจกรรมคริสต์มาสในปี 2023 นี้เช่นกัน หลอดไฟส่องสว่างประมาณ 460,000 ดวงจะถูกใช้ส่องสว่างตกแต่งงานประดับไฟรอบ ๆ สถานที่ทั้งหมด และจะมีการตกแต่งให้เข้ากันกับจิตวิญญาณคริสต์มาส เช่น ต้นคริสต์มาสและวัตถุที่มีลวดลายของตัวละคร เช่น “โซระการะจัง” นอกจากนี้ อย่าลืมแวะชมการฉายภาพพิเศษพร้อมแสงที่นำเสนอในรูปแบบดนตรีและการส่องไฟแบบพิเศษบนเวทีในการแสดงที่น่าตื่นเต้นของโซระการะจัง
งานประดับไฟที่ Tokyo Skytree Town ■ระยะเวลาการประดับไฟ: 9 พฤศจิกายน 2023 (วันพฤหัสบดี) ถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2023 (วันจันทร์) *การประดับไฟบางส่วนมีกำหนดจะคงอยู่จนถึงวันที่ 10 มีนาคม 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: สถานที่ต่าง ๆ ในบริเวณ Tokyo Skytree Town ■ระยะเวลาการฉายภาพ : 15 ธันวาคม (วันศุกร์) ถึง 25 ธันวาคม (วันจันทร์) 2023 สถานที่: Tokyo Skytree Town ชั้น 4 Sky Arena

10. งานประดับไฟที่ล้อมรอบเมืองฮิบิยะด้วยแสงไฟหลากสี – Tokyo Midtown Hibiya

งานประดับไฟที่ล้อมรอบเมืองฮิบิยะด้วยแสงไฟหลากสี - Tokyo Midtown Hibiya

งานประดับไฟ “Hibiya Magic Time Illumination 2023” ซึ่งจะจัดขึ้นในพื้นที่บริเวณฮิบิยะ (Hibiya) ปี 2023 นี้ มีศูนย์กลางอยู่ที่ Tokyo Midtown Hibiya เป็นงานประดับไฟที่จะทำให้พื้นที่ทั้งหมดสว่างไสวด้วยแสงไฟหลากสี ต้นคริสต์มาส 7 ต้นจะถูกตั้งไว้ที่พลาซ่าหน้า Tokyo Midtown Hibiya เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งคริสต์มาส และต้นไม้ริมถนนก็จะได้รับการประดับประดาด้วยแสงไฟหลากสีสัน อย่าลืมไปเที่ยวฮิบิยะและแวะชมพื้นที่ต่าง ๆ เช่น โรงละคร ช้อปปิ้ง และร้านอาหาร กันนะคะ
“Hibiya Magic Time Illumination 2023” ระยะเวลา: 16 พฤศจิกายน 2023 (พฤหัสบดี) – 14 กุมภาพันธ์ 2024 (วันพุธ) สถานที่: บริเวณฮิบิยะ (Tokyo Midtown Hibiya, Hibiya Nakadori, Hibiya Chante)

11. งานประดับไฟสวนดอกไม้แห่งแสง “Flower Garden of Light” – Ashikaga Flower Park จังหวัดโทจิงิ

งานประดับไฟสวนดอกไม้แห่งแสง “Flower Garden of Light” - Ashikaga Flower Park จังหวัดโทจิงิ

ในงานประดับไฟ “Flower Fantasy 2023” ที่สวนดอกไม้อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park) ในเมืองโทจิงิ คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการประดับไฟดอกไม้และแสงสีอันงดงามและลึกลับ คุณสามารถชมการจัดแสดง “Light and Flower” ที่รวมถึงการประดับไฟ “ดอกวิสทีเรีย” อันเป็นสัญลักษณ์ และ “Flower Castle” พร้อมดอกไม้ไฟ และสวนกุหลาบแห่งแสงไฟ ยังไม่จบ! ยังมีการประดับไฟที่มีธีมตามฤดูกาล เช่น คริสต์มาสและปีใหม่ รวมถึงงานแสดงใหม่ล่าสุด ที่แสดงถึงสี่ฤดูกาลของญี่ปุ่น
“Flower Fantasy 2023” ระยะเวลา: 18 ตุลาคม 2023 (วันพุธ) – 14 กุมภาพันธ์ 2024 (วันพุธ) สถานที่: สวนดอกไม้ Ashikaga Flower Park ที่อยู่: 607 Sakanmacho เมือง Ashikaga จังหวัด Tochigi

12. “Promenade” พบกับทางเดินประดับไฟสีทองและงานประดับไฟคริสต์มาสที่ Tokyo Midtown รปปงหงิ

“Promenade” พบกับทางเดินประดับไฟสีทองและงานประดับไฟคริสต์มาสที่ Tokyo Midtown รปปงหงิ

ในโตเกียวมิดทาวน์ที่รปปงหงิ (Tokyo Midtown Roppongi) มี “ทางเดินแห่งแสง” (Promenade of Light) ที่เปล่งประกายสีทองปรากฏขึ้น นอกจากนี้ยังมี “ต้นไม้สีทอง” ที่จัดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของงานประดับไฟคริสต์มาส ทั้งหมดกว่า 36 ต้น ตกแต่งด้วยแสง เสียง และหมอก … ที่ทางเดินต้นไม้สีทอง หรือ “Gold Tree” นี้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศธรรมชาติอันลึกลับในเวลากลางคืนเสมือนอยู่ในป่าภายในห้องโถงใหญ่
ระยะเวลากิจกรรม “Midtown Winter Lights” วันที่: 16 พฤศจิกายน 2023 (พฤหัสบดี) ถึง 25 ธันวาคม 2023 (วันจันทร์) *เฉพาะ “Promenade of Light” เท่านั้นที่จะจัดขึ้นเป็นการแสดงรอบ ๆ สถานที่จนถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: Tokyo Midtown – Ropponggi ที่อยู่: 9-7-1 Akasaka, Minato-ku, Tokyo

13. “Disney Dreams & Wishes” งานประดับไฟคริสต์มาสในธีมดิสนีย์แอนิเมชั่น – มารุโนะอุจิ โตเกียว

"Disney Dreams & Wishes" งานประดับไฟคริสต์มาสในธีมดิสนีย์แอนิเมชั่น - มารุโนะอุจิ โตเกียว

© 2023 Disney

งานประดับไฟ “Disney Dreams & Wishes” ซึ่งจัดขึ้นในมารุโนะอุจิในโตเกียว เป็นงานคริสต์มาสที่จัดในธีมของแอนิเมชั่นของดิสนีย์ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินได้ ต้นไม้และการประดับไฟจะถูกเนรมิตรออกมาในธีมของการ์ตูนดิสนีย์แอนิเมชั่นทั้งหมดแปดเรื่อง รวมถึง “Beauty and the Beast” และ “Frozen 2” เช่นกัน จะประดับบริเวณย่านมารุโนะอุจิ เปิดโลกมหัศจรรย์ตามเอกลักษณ์ของดิสนีย์ เป็นอีกหนึ่งจุดชมงานประดับไฟที่จะทำให้ฤดูหนาวของคุณมีชีวิตชีวาขึ้น
“Marunouchi Bright Christmas 2023 “Disney Dreams & Wishes”” ระยะเวลา: 16 พฤศจิกายน (พฤหัสบดี) ถึง 25 ธันวาคม (วันจันทร์) 2023 สถานที่: อาคาร Marunouchi, อาคาร Shin-Marunouchi, Marunouchi Oazo, Marunouchi Brick Square ฯลฯ

14. “Yokohama Mirai Light 2023” – Minato Mirai โยโกฮาม่า

"Yokohama Mirai Light 2023" - Minato Mirai โยโกฮาม่า

งานประดับไฟ “Yokohama Mirai Light 2023 ~Lighting up the Future, the City of Lights~” จะจัดขึ้นในพื้นที่ Minato Mirai ของโยโกฮาม่า และจะเป็น “งานประดับไฟที่ใหญ่ที่สุดในโยโกฮาม่า” ที่จะส่องสว่างทั่วทั้งเมือง ไฟ LED สีฟ้าประมาณ 350,000 ดวงจะส่องสว่างตลอดความยาวรวมประมาณ 1.5 กิโลเมตร
“Yokohama Mirai Light 2023 ~Lighting up the Future, the City of Lights~” ระยะเวลา: 9 พฤศจิกายน 2023 (พฤหัสบดี) – 11 กุมภาพันธ์ 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: สถานีโยโกฮาม่า ทางออก East Exit, ทางเดิน Hamamirai Walk, สะพานคนเดิน Minato Mirai Pedestrian Bridge, บล็อก หมายเลข 53 (อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสถานะการก่อสร้างบนถนน Suzukake ของถนน Minato Mirai), Grand Mall Park, เรือใบ Nippon Maru (ไม่รวมระยะเวลาบำรุงรักษาตัวเรือ) ฯลฯ

15. งานประดับไฟ “Jewellumination” – Yomiuri Land โตเกียว

งานประดับไฟ “Jewellumination” - Yomiuri Land โตเกียว

งานประดับไฟยอดนิยม “Jewellumination” ของโยมิอุริแลนด์ในโตเกียว จะจัดขึ้นอีกครั้งในปี 2023 คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับแสงไฟ LED “Jewelly” แห่งแรกของโลกและทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโตเกียวได้ในเวลาเดียวกัน จึงเป็นสถานที่ชมไฟแนะนำสำหรับคู่รัก อย่าลืมแวะชมจุดประดับไฟ “Earth Blue Jewelry Color” และจุดประดับไฟบริเวณชิงช้าสวรรค์และอื่น ๆ
“Yomiuriland Jewellumination 2023 LIGHT is LOVE” ระยะเวลา: 19 ตุลาคม 2023 (พฤหัสบดี) – 7 เมษายน 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: Yomiuriland ที่อยู่: 4015-1 Yanoguchi, Inagi City, Tokyo

16. งานประดับไฟสไตล์ญี่ปุ่น “HANA Akari” – บิโยริ ฮานะ โตเกียว

งานประดับไฟสไตล์ญี่ปุ่น “HANA Akari” - บิโยริ ฮานะ โตเกียว

ที่สวนดอกไม้ “HANA BIYORI” ที่อยู่ติดกับ Yomiuriland ในโตเกียว จะมีการจัดงานอีเวนท์ประดับไฟสไตล์ญี่ปุ่น “HANA BIYORI x bamboo light ‘HANA Akari'” คุณสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงไฟสไตล์ญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นด้วยไฟไม้ไผ่ประมาณ 1,000 ดวงที่ทำโดยการเจาะรูในไม้ไผ่และให้แสงสว่างส่องผ่านต้นไม้ ดอกไม้ และทรัพย์สินทางวัฒนธรรม สิ่งที่ควรสังเกตอีกประการหนึ่งคือการประดับไฟจากร่มญี่ปุ่นสีสันสดใสและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมทาโฮโตะ
HANA・BIYORI×Bamboo Akari “HANA Akari” ระยะเวลา: 28 ตุลาคม 2023 (วันเสาร์) – 25 กุมภาพันธ์ 2024 (อาทิตย์)*รวมทั้งหมด 84 วัน (ตามแผน) ไม่รวมวันปิดทำการ สถานที่: HANA・BIYORI ที่อยู่ : 4015-1 Yanoguchi, เมืองอินางิ โตเกียว (ติดกับสวนสนุกโยมิอุริแลนด์)

17. การแสดงน้ำพุ “Tokyo Mega Illumination” และแสงออโรร่าจำลอง – Tokyo Oi Racecourse

การแสดงน้ำพุ "Tokyo Mega Illumination" และแสงออโรร่าจำลอง - Tokyo Oi Racecourse

“Tokyo Mega Illumination” จัดขึ้นที่สนามม้า ‘โออิ’ ชื่อดังในโตเกียว เป็นงานประดับไฟที่จัดขึ้นเฉพาะในฤดูหนาวที่ได้รับความนิยมจากคนทุกวัย ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ มีการแสดงแสงไฟต่างๆ เช่น การแสดงน้ำพุ การแสดงแสงออโรร่า และอุโมงค์ไฟยาว 100 เมตร และมีจุดถ่ายรูปมากมาย ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับการออกเดทกับคู่รักหรือออกไปเที่ยวกับเพื่อนฝูง นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมที่มีม้าด้วย ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสนามแข่งม้าแห่งนี้

“Tokyo Mega Illumi 2023-2024” ระยะเวลา : 11 พฤศจิกายน 2023 (วันเสาร์) ถึง 8 มกราคม 2024 (วันจันทร์ วันหยุด) *ไม่รวมวันแข่งม้า Oi และวันที่ 1 มกราคม (วันจันทร์ วันหยุด) ที่ตั้ง: Tokyo Oi Racecourse ที่อยู่: 2-1-2 Katsushima, Shinagawa-ku, Tokyo

18. งานประดับไฟ Tokyo German Village – หมู่บ้านเยอรมันโตเกียว จังหวัดชิบะ

งานประดับไฟ Tokyo German Village - หมู่บ้านเยอรมันโตเกียว จังหวัดชิบะ

ที่หมู่บ้านเยอรมันโตเกียว (Tokyo German Village) ในชิบะ มีการประดับไฟภายใต้คอนเสปต์การเดินทางของกัลลิเวอร์ (Gulliver’s Travels) ซึ่งบรรยายถึงดินแดนของยักษ์และของคนแคระ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการประดับไฟที่หลากหลาย รวมถึง “การแสดงแสงและเสียง” พบกับฉากที่น่าประทับใจหลากหลายจากเรื่องราวที่สร้างขึ้นมาใหม่และอีกมากมาย
“Tokyo German Village Winter Illumination 2023-2024” ระยะเวลา: 27 ตุลาคม 2023 (วันศุกร์) ถึง 7 เมษายน 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: หมู่บ้านเยอรมันโตเกียว (Tokyo German Village) ที่อยู่: 419 Nagayoshi เมือง Sodegaura จังหวัดชิบะ

19. งานประดับไฟฤดูหนาวและประดับไฟต้นไม้ประมาณ 200,000 แห่ง – สวนโตเกียวอาริอาเกะ

งานประดับไฟฤดูหนาวและประดับไฟต้นไม้ประมาณ 200,000 แห่ง - สวนโตเกียวอาริอาเกะ

เพลิดเพลินกับการประดับไฟของต้นสนและหลอดไฟประมาณ 200,000 ต้นที่สวนอาริอาเกะ (Ariake Garden) เมืองช้อปปิ้งอสังหาริมทรัพย์ซูมิโตโมในอาริอาเกะ แห่งกรุงโตเกียว แสงอันอบอุ่นที่ปกคลุมพื้นที่อย่างอ่อนโยนสร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา หากคุณมีโอกาสไปช้อปปิ้ง เดินเล่น หรือทำกิจกรรมที่นี่ หรือแม้กระทั่งออกไปเที่ยวช่วงฤดูหนาวก็อย่าลืมแวะชมที่นี่นะคะ
“Ariake Garden Season Illumination” ระยะเวลาจัดแสดงไฟ : 27 ตุลาคม 2023 (วันศุกร์) – 29 กุมภาพันธ์ 2024 (วันพฤหัสบดี) สถานที่: สวน Ariake สวน Ariake Garden, Season Promenade, Garden Promenade ฯลฯ สถานที่: Ariake, Koto-ku, Tokyo 2-1-8

20. คริสต์มาส “Nebuta Santa” และไฟประดับสีแชมเปญทอง – Tokyo Midtown Yaesu

คริสต์มาส “Nebuta Santa” และไฟประดับสีแชมเปญทอง - Tokyo Midtown Yaesu

ที่ Tokyo Midtown Yaesu จะมี “เนบุตะซานต้า” (Nebuta Santa) ขนาดยักษ์ที่มีความสูงกว่า 6 เมตรมาปรากฏตัวพร้อมกับกิจกรรมคริสต์มาสต่าง ๆ วัตถุอันทรงพลังนี้ใช้เวลาในการสร้างถึงประมาณสองเดือนโดยช่างฝีมือที่เนรมิตรเนบุตะในเทศกาลอาโอโมริเนบุตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเทศกาลหลักในภูมิภาคโทโฮคุ จะถูกตกแต่งในโตเกียวมิดทาวน์ยาเอสึ นอกจากนี้ ที่บริเวณ Yaesu Terrace บนชั้น 5 ยังตกแต่งด้วยไฟสีแชมเปญโกลด์อีกด้วย ถ้าหากมีโอกาสไปแถวสถานีโตเกียวก็อย่าลืมแวะที่นี่นะคะ

“Midtown Yaesu Christmas 2023” ระยะเวลา: 22 พฤศจิกายน 2023 (วันพุธ) ถึง 25 ธันวาคม 2023 (วันจันทร์) *การประดับไฟจะจัดขึ้นจนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024 (วันพฤหัสบดี) สถานที่ สถานที่: Tokyo Midtown Yaesu ที่อยู่: Central Tokyo Yaesu 2-2 -1

21. เพลิดเพลินไปกับแสงไฟ ฟีล Comedian และอีกมากมาย – Tokyo Dome City

เพลิดเพลินไปกับแสงไฟ ฟีล Comedian และอีกมากมาย - Tokyo Dome City

งานประดับไฟที่โตเกียวโดมซิตี้ “TOKYO DOME CITY SHOW Illumination” เป็นการประดับไฟที่โรยแก่นแท้ของ “Comedian” ไปทุกที่ ตกแต่งด้วยแสงไฟเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับพื้นที่ และมีพื้นที่ที่จัดแสดงโดย Shohei Nagata จาก Chocolate Planet รอเซอร์ไพรส์คุณอยู่!
“TOKYO DOME CITY SHOW Illumi” ระยะเวลา: 21 พฤศจิกายน 2023 (วันอังคาร) ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2024 (วันพฤหัสบดี) สถานที่: ทั่วโตเกียวโดมซิตี้ ที่อยู่: 1-3 Koraku, Bunkyo-ku, Tokyo 61

22. งานประดับไฟคริสต์มาสที่ประดับประดาด้วยไฟสีม่วง – สวนสาธารณะชิบุยะ มิยาชิตะ โตเกียว

งานประดับไฟคริสต์มาสที่ประดับประดาด้วยไฟสีม่วง - สวนสาธารณะชิบุยะ มิยาชิตะ โตเกียว

สวนสาธารณะมิยาชิตะในย่านชิบูย่า กรุงโตเกียวกำลังจัดงานประดับไฟคริสต์มาสโดยร่วมมือกับ DECORTÉ นอกจากการประดับไฟสีม่วงอันน่าอัศจรรย์แล้ว ยังมีการจัดเตรียมจุดถ่ายภาพรูปทรงโดมที่ส่องประกายระยิบระยับอีกด้วย

“Miyashita Christmas Park 2023” ระยะเวลา: 10 พฤศจิกายน (วันศุกร์) ถึง 25 ธันวาคม (วันจันทร์) 2023 สถานที่: Shibuya Miyashita Park ที่อยู่: 6-20-10 Jingumae, Shibuya-ku, Tokyo

23. งานประดับไฟและทางเดินประดับไฟ “Shinjuku Minamirumi” “Experiential” – บริเวณทางออกทิศใต้ของสถานีชินจูกุ จังหวัดโตเกียว

งานประดับไฟและทางเดินประดับไฟ “Shinjuku Minamirumi” “Experiential” - บริเวณทางออกทิศใต้ของสถานีชินจูกุ จังหวัดโตเกียว

Suica Penguin Square *Suica Penguin เป็นตัวละครจาก Suica ของ JR East *Suica เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ JR East

งานประดับไฟ “ชินจูกุมินามิรุมิ” (Shinjuku Minamirumi) จะจัดขึ้นในบริเวณทางออกทิศใต้ของสถานีชินจูกุในโตเกียว และจะมี “ทางเดินแห่งแสง” ที่เริ่มต้นจากประตูตั๋วทิศใต้ใหม่ของสถานี JR ชินจูกุ และเชื่อมต่อกับทางเดินเล่นของ Shinjuku Southern Terrace, Shinjuku Mines Tower และ Shinjuku Takashimaya Times Square โดยการจัดงานประดับไฟบริเวณวิงนี้เป็นการจัดครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ทั้งต้นคริสต์มาสและประตูหน้า Ticket Gate ที่เต็มไปด้วยผู้คนจะทำให้สถานที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้น อย่าลืมมาแวะชมหากไปเที่ยวแถวนี้กันนะคะ
งานประดับไฟ “Shinjuku Minamirumi” ระยะเวลากิจกรรม “ชินจูกุ มินามิรุมิ”: 17 พฤศจิกายน 2023 (วันศุกร์) ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2024 (วันพุธ) *วันที่สิ้นสุดจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานที่ สถานที่: อาคาร JR Minami-Shinjuku / อาคาร JR Shinjuku Miraina / Suica Penguin Plaza / ชินจูกุทาคาชิมายะไทม์สแควร์ / Shinjuku Mines Tower / ชินจูกุเซาเทิร์นเทอร์เรซ / Odakyu Southern Tower

24. “Yorunoyo 2023” ไฟส่องสว่างที่เชื่อมโยงทั่วทั้งเมือง – Minato Mirai โยโกฮาม่า

"Yorunoyo 2023" ไฟส่องสว่างที่เชื่อมโยงทั่วทั้งเมือง - Minato Mirai โยโกฮาม่า

ที่งานประดับไฟฤดูหนาวของมินาโตะ มิไร ในโยโกฮาม่า งาน “Yorunoyo 2023” เป็นงานแสงสีแห่งโยโกฮาม่าที่ปรากฏในเวลากลางคืน พื้นที่ทั้งหมดจะสว่างไสวด้วยแสงและเสียง เพลิดเพลินกับการเดินเล่นในฤดูหนาวในโยโกฮาม่า พร้อมเพลิดเพลินกับการฉายภาพแผนที่ที่ Shinko Central Square และการแสดงประดับไฟอันน่าอัศจรรย์
“Yorunoyo 2023 แสงที่ปรากฏในโยโกฮาม่าในเวลากลางคืน” ระยะเวลา: 27 พฤศจิกายน 2023 (วันจันทร์) – 4 มกราคม 2024 (วันพฤหัสบดี) สถานที่: บริเวณริมน้ำใจกลางเมืองโยโกฮาม่า

25. สวนประดับในตลาดคริสต์มาส – โกดังอิฐแดง โยโกฮาม่า

สวนประดับในตลาดคริสต์มาส - โกดังอิฐแดง โยโกฮาม่า

โกดังอิฐแดงโยโกฮาม่ากำลังจัดงาน “Illumination Garden” ที่สวนในตลาดคริสต์มาส ด้วยธีม “คริสต์มาสของสัตว์ป่า” จะมีการประดับไฟรูปสัตว์ต่าง ๆ เพื่อสร้างพื้นที่อันน่าอัศจรรย์ เป็นจุดชมแสงไฟที่เยี่ยมยอดควบคู่ไปกับตลาดคริสต์มาสที่รวบรวมอาหารเยอรมันและสินค้าเบ็ดเตล็ดเกี่ยวกับคริสต์มาสเอาไว้ค่ะ

“ตลาดคริสต์มาสในโกดังอิฐแดงโยโกฮาม่า” ระยะเวลา: วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม 2566 รวม 32 วัน

สถานที่: ลานกิจกรรมโกดังอิฐแดงโยโกฮาม่า สวนอิฐแดง ที่อยู่: 1-1 Shinminato, Naka-ku, Yokohama, Kanagawa Prefecture

26. ย้อนอดีตไปกับ “แสงไฟประดับถนนยามพระอาทิตย์ตกดิน” – Seibuen Amusement Park ไซตามะ

งานประดับไฟ ไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น - ย้อนอดีตไปกับ "แสงไฟประดับถนนยามพระอาทิตย์ตกดิน" - Seibuen Amusement Park ไซตามะ

“Sunset Street Lights Illumination” ในสวนสนุกไซตามะ เซบุ เป็นงานประดับไฟที่ชวนให้นึกถึงอดีตซึ่งตั้งอยู่บนถนนช้อปปิ้ง Yuhi no Oka ยาว 150 เมตร นอกเหนือจากการสร้างแสงโทนอุ่นโดยใช้หลอดไฟจำนวนนับไม่ถ้วนที่ปล่อยแสงแอนะล็อกแบบเส้นใยแล้ว ยังมีการเตรียมเอฟเฟกต์แสงที่อบอุ่นใจ เช่น ชั่วโมงมหัศจรรย์ที่แสดงด้วยเลเซอร์ไล่ระดับและลูกบอลแสงที่ลอยอยู่ในอากาศ เหมาะสำหรับไปเที่ยวกับคนรัก เช่น ครอบครัว เพื่อนฝูง และแฟน
“Sunset Streetlight Illumination” ระยะเวลา: 20 ตุลาคม 2023 (วันศุกร์) ถึง 7 เมษายน 2024 (วันอาทิตย์) *วันธรรมดาตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม (วันอังคาร) ถึงวันที่ 15 มีนาคม (วันศุกร์) จัดขึ้นเป็นเวลา 124 วัน สถานที่: สวนสนุก Seibuen (2964 Yamaguchi เมือง Tokorozawa จังหวัดไซตามะ)

27. “Moonlight Rose Garden” สวนกุหลาบประดับไฟยามค่ำคืน – สวนดอกไม้อิบารากิ

"Moonlight Rose Garden" สวนกุหลาบประดับไฟยามค่ำคืน - สวนดอกไม้อิบารากิ

“Moonlight Rose Garden” เป็นงานประดับไฟที่จัดขึ้นที่สวนดอกไม้อิบารากิในจังหวัดอิบารากิ ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับสวนกุหลาบในเวลากลางคืน นอกจากการประดับไฟอันอบอุ่นด้วยดอกกุหลาบในฤดูใบไม้ร่วงและดอกดาวเรือง 20,000 ดอกแล้ว ยังมีบริเวณจัดงานที่มหัศจรรย์อีกมากมาย เช่น “Starry Sky Swing” บน Hill of Light และจุดถ่ายรูป “Stardust Arch” งานนี้เป็นงานประดับไฟที่สามารถเพลิดเพลินได้ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูหนาว คริสต์มาส และปีใหม่
“Moonlight Rose Garden” ระยะเวลา: 1 ตุลาคม 2023 (วันอาทิตย์) – 14 มกราคม 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: สวนดอกไม้อิบารากิ ที่อยู่: 200 Shimo-Aoyagi เมืองอิชิโอกะ จังหวัดอิบารากิ

28. งานประดับไฟบนต้นคริสต์มาสสุดอลังการครั้งแรกในรอบ 4 ปี – Tokyo DisneySea

งานประดับไฟบนต้นคริสต์มาสสุดอลังการครั้งแรกในรอบ 4 ปี - Tokyo DisneySea

สาวกดิสนีย์ห้ามพลาดเป็นอันขาดกับการประดับไฟคริสต์มาสที่โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ต้นคริสต์มาสสูงประมาณ 15 เมตรจะได้รับการฟื้นคืนชีพที่ American Waterfront เป็นครั้งแรกในรอบสี่ปี ในตอนกลางคืนบริเวณนี้จะยิ่งโรแมนติกมากขึ้นด้วยการเพิ่มแสงไฟระยิบระยับ นี่คือจุดที่คุณอยากจะไปเยี่ยมชมร่วมกับงานคริสต์มาสที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์ซีอย่างแน่นอน
“Disney Christmas” ระยะเวลา: 8 พฤศจิกายน 2023 (วันพุธ) – 25 ธันวาคม 2023 (วันจันทร์) สถานที่: โตเกียวดิสนีย์ซี ที่อยู่: 1-1 Maihama เมือง Urayasu จังหวัดชิบะ

29. งานประดับไฟที่ทะเลสาบซากามิ “Doraemon the Movie: Nobita’s Earth Symphony Illumination” – ซากามิฮาระ จังหวัดคานากาว่า

งานประดับไฟที่ทะเลสาบซากามิ "Doraemon the Movie: Nobita's Earth Symphony Illumination'' - ซากามิฮาระ จังหวัดคานากาว่า

งานประดับไฟยอดนิยม “การส่องสว่างทะเลสาบซากามิ” (Sagami Lake Illumination) ที่ “Sagami Lake Resort Pleasure Forest” ในเมืองซากามิฮาระ จังหวัดคานากาว่า ร่วมมือกับ “โดราเอมอนเดอะมูฟวี่: โนบิตะเอิร์ธซิมโฟนี” (Doraemon the Movie: Nobita’s Earth Symphony) นอกจากการประดับไฟที่แสดงใบหน้าของโดราเอมอนแล้ว ยังมีการประดับไฟที่มีอุปกรณ์ลับที่คุ้นเคย เช่น “คอปเตอร์ไม้ไผ่” และ “ประตูไปที่ไหนก็ได้ (หรือประตูทุกหนแห่ง)” รวมไปถึงการประดับไฟที่แสดงฉากจากภาพยนตร์ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินกับการประดับไฟได้ จึงเหมาะสำหรับการออกไปเที่ยวกับครอบครัว
“Doraemon the Movie: Nobita’s Earth Symphony Illumination” ระยะเวลา: 3 พฤศจิกายน 2023 (วันศุกร์/วันหยุดนักขัตฤกษ์) ถึง 12 พฤษภาคม 2024 (วันอาทิตย์) *เปิดทุกวันจนถึงวันที่ 9 มกราคม (วันอังคาร) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สวนสาธารณะจะปิดให้บริการในวันพุธและพฤหัสบดี (เปิดวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และ 13 มีนาคม) *เปิดทุกวันตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม (วันศุกร์) ถึง 7 เมษายน (วันอาทิตย์) ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน (วันจันทร์) เป็นต้นไป จะเปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ที่ตั้ง: Sagami Lake Resort Pleasure Forest ที่อยู่: 1634 Wakayanagi, Midori Ward, เมือง Sagamihara, จังหวัด Kanagawa

30. การประดับไฟฮามัสตะ “Ball Park Fantasia” – สนามกีฬาโยโกฮาม่า

การประดับไฟฮามัสตะ "Ball Park Fantasia" - สนามกีฬาโยโกฮาม่า

สนามกีฬาโยโกฮาม่าหรือที่รู้จักในชื่อ “ฮามาสต้า” จะจัดงานประดับไฟที่เรียกว่า “บอลพาร์ค แฟนตาเซีย” (Ball Park Fantasia) ซึ่งใช้ประโยชน์จากกีฬาเบสบอลมืออาชีพนอกฤดูกาล ในตอนกลางคืน การแสดงประดับไฟจะจัดขึ้นพร้อมดนตรี เช่น เพลงคริสต์มาส เพลงร็อค และเพลงคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ ทำให้เกิดบรรยากาศเหมือนดิสโก้ นอกจากนี้ในระหว่างวันจะมีการจัดเตรียมของเล่นและกิจกรรมที่ชวนให้นึกถึง “กล่องของเล่นยักษ์” เป็นงานประดับไฟที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
“Ball Park Fantasia” ระยะเวลา: วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2023 ถึงวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 2023 สถานที่: สนามกีฬาโยโกฮาม่า/สวนสาธารณะโยโกฮา ม่า ที่อยู่: สวนสาธารณะโยโกฮาม่า เขตนากะ เมืองโยโกฮาม่า จังหวัดคานากาว่า

31. งานประดับไฟที่แม่น้ำเมกุโระ “Meguro River Everyone’s Illumination 2023” และ “Winter Cherry Blossoms” – แม่น้ำเมกุโระ จังหวัดโตเกียว

งานประดับไฟที่แม่น้ำเมกุโระ "Meguro River Everyone's Illumination 2023" และ "Winter Cherry Blossoms" - แม่น้ำเมกุโระ จังหวัดโตเกียวงานประดับไฟที่แม่น้ำเมกุโระ "Meguro River Everyone's Illumination 2023" และ "Winter Cherry Blossoms" - แม่น้ำเมกุโระ จังหวัดโตเกียว

“Meguro River Everyone’s Illumination 2023” เป็นงานประดับไฟที่สร้างสีสันให้กับแม่น้ำเมกุโระในโตเกียว ในฤดูใบไม้ผลิ บริเวณแม่น้ำเมกุโระเป็นจุดชมดอกซากุระบานที่มีดอกซากุระบานพรั่งพรายอย่างสวยงาม แต่ในฤดูหนาวปีนี่จะถูกประดับด้วยไฟ LED ประมาณ 380,000 ดวงเพื่อส่องสว่างเป็นการชมดอกซากุระในฤดูหนาว อย่าลืมแวะเยี่ยมชมบริเวณนากาเมกุโระกันนะคะ
“Meguro River Everyone’s Illumination 2023” ระยะเวลา: 10 พฤศจิกายน 2023 (วันศุกร์) – 8 มกราคม 2024 (วันจันทร์) สถานที่: Shinagawa Ward Gotanda Fureai Waterside Plaza (2-9 Higashigotanda, Shinagawa-ku, Tokyo) ริมถนนริมแม่น้ำ Meguro

32. เทศกาลแห่งแสงสี “Tokyo Lights 2023” – เมจิจิงกูไกเอ็น โตเกียว

เทศกาลแห่งแสงสี “Tokyo Lights 2023” - เมจิจิงกูไกเอ็น โตเกียว

TOKYO LIGHTS 2023 เทศกาลแสงไฟที่จัดขึ้นที่ Meiji Jingu Gaien ในโตเกียว เป็นงานที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับความบันเทิงขั้นสูงโดยใช้แสง เช่น Projection Mapping และศิลปะการใช้แสง นิทรรศการจะจัดขึ้นโดยผู้สร้างที่ชนะการแข่งขัน Projection Mapping ระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งของโลก และคุณสามารถเพลิดเพลินกับศิลปะแสงคุณภาพสูงได้
“Tokyo Lights 2023” ระยะเวลา: 10 พฤศจิกายน (วันศุกร์) ถึง 12 พฤศจิกายน (วันอาทิตย์), 2023 (ต้องจองล่วงหน้า) สถานที่: แกลลอรี่รูปภาพอนุสรณ์ Meiji Jingu Gaien Shotoku (1-1 Kasumigaoka-cho, Shinjuku-ku, Tokyo) ) และสนามซอฟต์บอลเมจิจิงกูไกเอ็น

33. งานฉาย Projection Mapping ประดับไฟ “ฤดูหนาวในหุบเขามูมิน” – สวนมูมินวัลเลย์ จังหวัดไซตามะ

งานฉาย Projection Mapping ประดับไฟ "ฤดูหนาวในหุบเขามูมิน" - สวนมูมินวัลเลย์ จังหวัดไซตามะ

แฟนคลับมูมินที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาวนี้ห้ามพลาด! ที่สวนสนุก “Moominvalley Park” ในเมืองอิโนะ จังหวัดไซตามะ จะมีการจัดอีเว้นท์การฉายภาพลึกลับ โดยจะมีการฉายเรื่องราวจากนวนิยายเรื่อง “Winter in Moominvalley” บนคฤหาสน์มูมิน คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกที่ดำดิ่งลงไปในเรื่องราวในขณะที่แสงออโรร่าก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นงานประดับไฟและฉายแสงที่อลังการน่าติดตามที่สุดงานหนึ่งในญี่ปุ่นเลย ใครไปเที่ยวญี่ปุ่นปี 2023-2024 นี้ห้ามพลาดนะคะ
“Winter Wonderland in Moominvalley Park 2023” ระยะเวลา: 2 พฤศจิกายน 2023 (พฤหัสบดี) ถึง 8 มกราคม 2024 (วันจันทร์) สถานที่: Moominvalley Park ที่อยู่: 327-6 Metsa, Miyazawa, Hanno City, Saitama Province

34. “Osaka – Feast of Lights 2023” งานประดับไฟ Midosuji Illumination & Light Art บนนากาโนะชิมะ – ที่มิโดซูจิ จังหวัดโอซาก้า

"Osaka - Feast of Lights 2023" งานประดับไฟ Midosuji Illumination & Light Art บนนากาโนะชิมะ - ที่มิโดซูจิ จังหวัดโอซาก้า

©Osaka Feast of Lights Executive Committee

งานประดับไฟหน้าหนาว “Osaka Festival of Lights 2023” จะจัดขึ้นที่ Midosuji รอบศาลาว่าการโอซาก้า และสวนสาธารณะ Nakanoshima และจะมีการจัดแสดงแสงไฟและศิลปะแสงที่มีศูนย์กลางอยู่ที่สองโปรแกรม: งาน “Midosuji Illumination 2023” และ “OSAKA Renaissance of Light 2023” งานประดับไฟมิโดสุจิอิลลูมิเนชั่น ปี 2023 เป็นเส้นทางแสงระยิบระยับที่ทอดยาวจากสี่แยก Hanshin-mae ในเมืองอุเมดะไปยังสี่แยก Namba West Exit เป็นไฟส่องสว่างอันน่าอัศจรรย์อีกแห่งที่แนะนำน่าเที่ยวในฤดูหนาวค่ะ
“Osaka Feast of Lights 2023” ระยะเวลา: 3 พฤศจิกายน 2023 (วันศุกร์/วันหยุดนักขัตฤกษ์) – 31 มกราคม 2024 (วันพุธ) *บางพื้นที่จะเปิดให้บริการหลังจากวันที่ 1 มกราคม 2024 (วันจันทร์/วันหยุดนักขัตฤกษ์) เท่านั้น สถานที่: Midosuji, บริเวณ Osaka City Hall, Nakanoshima Park

35. งานประดับไฟ “Kobe Luminarie” ที่จะกลับมาจัดเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี – โกเบ จังหวัดเฮียวโงะ

งานประดับไฟ “Kobe Luminarie” ที่จะกลับมาจัดเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี - โกเบ จังหวัดเฮียวโงะ

©Kobe Luminarie OC

งานประดับไฟ  “Kobe Luminarie” ในเมืองเฮียวโงะและโกเบจะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปี นอกจากสถานที่ที่มีอยู่แล้ว ยังมีการขยายงานไปยัง Meriken Park เพื่อขยายขนาดของงานอีกด้วย ลุ้นชมรูปแบบการจัดไฟประดับใหม่ ๆ ที่จะมีขึ้นในงาน
“29th Kobe Luminarie” ระยะเวลา: 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม (วันศุกร์) ถึงวันที่ 28 มกราคม (วันอาทิตย์) 2024 สถานที่: Higashi Yuenchi (6-4-1 Kano-cho, Chuo-ku, Kobe City, Hyogo Prefecture), Former foreign settlement, Meriken Park (Hatoba-cho, Chuo-ku, Kobe City, Hyogo Prefecture)

36. งานประดับไฟต้นคริสต์มาสสไตล์ม้าหมุน ที่ Grand Front Osaka

งานประดับไฟต้นคริสต์มาสสไตล์ม้าหมุน ที่ Grand Front Osaka

ปี 2023 นี้ ที่ Grand Front Osaka ก็มีการสร้างบรรยากาศคริสต์มาสด้วยการตกแต่งต้นไม้ด้วยธีมคริสต์มาสอันแวววาวที่ให้ความรู้สึกพิเศษแก่คุณ ต้นคริสต์มาสสูงประมาณ 12 เมตรมีลวดลายเป็นม้าหมุน และสามารถเพลิดเพลินได้โดยเข้าไปข้างในหรือชมจากชั้นบน และจะมีการแสดงแสงสีด้วย นอกจากนี้ยังมีการจัด “Champagne Gold Illumination” ขึ้นที่จัตุรัส Umekita เพื่อส่องสว่างพื้นที่ด้านหน้าสถานี JR Osaka ด้วยแสงอันอบอุ่นเช่นกันค่ะ
“Grand Wish Christmas 2023 ~Joyful Winter~” ระยะเวลากิจกรรม: 9 พฤศจิกายน 2023 (พฤหัสบดี) ถึง 25 ธันวาคม 2023 (วันจันทร์) *เนื้อหาบางส่วนอาจไม่รวมอยู่ สถานที่: Grand Front Osaka North Building, South Building, Umekita Plaza, และสถานที่อื่น ๆ Address: 3-1 Ofuka-cho, Kita-ku, Osaka City, Osaka Prefecture

37. งานประดับไฟปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Illuminage) – สวนนิชิโนะมารุปราสาทโอซาก้า

งานประดับไฟปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle Illuminage) - สวนนิชิโนะมารุปราสาทโอซาก้า

ที่สวนนิชิโนะมารุปราสาทโอซาก้า (Nishinomaru Garden) จะมีการจัดงานประดับไฟ “Osaka Castle Illuminage” โดยจะมีการประดับไฟที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยว โดยมีหอคอยปราสาทของปราสาทโอซาก้าเป็นฉากหลัง นอกจากนี้ ยังมีการจัดไฟส่องสว่างแบบมีส่วนร่วม รวมถึงการจัดแสดงที่เคลื่อนไหวตามการเคลื่อนไหวของผู้คนและ “กระดานหกแบบส่องแสง” ที่คุณสามารถขี่เล่นได้ ทำให้เป็นงานประดับไฟที่มีชีวิตชีวาที่คุณสามารถเพลิดเพลินร่วมกับครอบครัวและเพื่อนของคุณ
“Osaka Castle Illuminage” ระยะเวลา: 22 พฤศจิกายน 2023 (วันพุธ) – 25 กุมภาพันธ์ 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: สวนนิชิโนะมารุปราสาทโอซาก้า ที่อยู่: ปราสาทโอซาก้า 2, เขตชูโอ, เมืองโอซาก้า, จังหวัดโอซาก้า

38. เพลิดเพลินกับการประดับไฟที่ “ตลาดคริสต์มาสโกเบ” – Kobe Nunobiki Herb Garden จังหวัดเฮียวโงะ

เพลิดเพลินกับการประดับไฟที่ “ตลาดคริสต์มาสโกเบ” - Kobe Nunobiki Herb Garden จังหวัดเฮียวโงะ

“Kobe Christmas Market 2023” เป็นสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับสินค้าเบ็ดเตล็ดสไตล์เยอรมันและไวน์ร้อนได้ที่สวนสมุนไพรและกระเช้าโกเบ นุโนบิกิ นอกจากตลาดคริสต์มาสแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการประดับไฟที่พลาซ่าที่ระดับความสูง 400 เมตรพร้อมทิวทัศน์อันงดงาม เข้าถึงจิตวิญญาณแห่งคริสต์มาสขณะชมต้นคริสต์มาสที่ประดับประดาด้วยหลอดไฟ 1,600 ดวง หอคอยคริสต์มาสที่ตกแต่งด้วยดวงดาว และเรือนกระจกกระจกที่ส่องสว่าง
“ตลาดคริสต์มาสโกเบ 2023” ระยะเวลา: 11 พฤศจิกายน (วันเสาร์) ถึง 25 ธันวาคม (วันจันทร์) 2023 สถานที่: บริเวณ “Observation Plaza” ที่ Kobe Nunobiki Herb Garden/Ropeway ที่อยู่: Kitano-cho, Chuo-ku, Kobe City, Hyogo Prefecture 1-4-3

39. “Rosan Illumination” – ทาวาดะ จังหวัดชิงะ

"Rosan Illumination" - ทาวาดะ จังหวัดชิงะ

หนึ่งในงานแสดงแสงสีธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในคันไซ “Rosan Illu ~Hikari Playing Hill~ Final” จะจัดขึ้นที่ “English Garden Rosa Berry & Tawada” ในทาวาดะ จังหวัดชิงะ อลังการไปกับงานประดับไฟที่ใช้สวนอันเป็นธรรมชาติและต้นไม้กว่า 100 ต้นและหอนาฬิกาที่ส่องแสงสีเงินลึกลับเป็นฉากหลัง เพลิดเพลิดไปกับโซนเที่ยวและมุมประดับไฟที่หลากหลาย อาทิ “Shaun the Sheep” และ “Galaxy Express Milky Way”
“Rosa Illumi ~Hikari Soderu Oka~ Final” วันที่: 7 ตุลาคม 2023 (วันเสาร์) ถึง 12 กุมภาพันธ์ 2024 (วันจันทร์/วันหยุดนักขัตฤกษ์) *เปิด 90 วัน จัดขึ้นในวันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (ทุกวัน) ในเดือนธันวาคม / ปิดทุกวันอังคารและวันหยุดปีใหม่ สถานที่: สวนอังกฤษ English Garden Rosa & Berry Tawada ที่อยู่: 605-10 Tawada, Maibara City, Shiga Prefecture

40. “Hikari no Mori ~Night art walk~” เพลิดเพลินกับศิลปะแสงสีกับธรรมชาติ – ภูเขาร็อคโค โกเบ

“Hikari no Mori ~Night art walk~” เพลิดเพลินกับศิลปะแสงสีกับธรรมชาติ - ภูเขาร็อคโค โกเบ

Kyota Takahashi《Hikari no Mi in SIKI Garden》ROKKO Forest Sound Museum

ในงานแสดงศิลปะ “Hikari no Mori ~Night Art Walk~” ซึ่งจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์ ROKKO Forest Sound และสวนพฤกษศาสตร์ Rokko Alpine ในภูเขา Rokko โกเบ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการชม “ศิลปะแห่งแสง” ที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เพลิดเพลินกับการเดินเล่นยามค่ำคืนและสร้างพื้นที่ศิลปะที่น่าอัศจรรย์ด้วยงานศิลปะที่มีไฟ LED ขนาดเล็กหลายพันดวงประดับต้นไม้ ดนตรีอันอบอุ่น ดื่มด่ำกับสีสันยามค่ำคืนขณะเดินเล่น
“Hikari no Mori ~Night Art Walk~” ระยะเวลา: วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2023 (วันเสาร์/วันหยุดนักขัตฤกษ์) ถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2023 (วันพฤหัสบดี/วันหยุดนักขัตฤกษ์) สถานที่ : ROKKO Mori Sound Museum (โกเบ จังหวัดเฮียวโงะ) ) 4512-145 Kita-Rokko, Rokkosan-cho, Ichinada-ku), สวนพฤกษศาสตร์ Rokko Alpine (4512-150 Kita-Rokko, Rokkosan-cho, Nada-ku, Kobe, จังหวัดเฮียวโกะ)

41. งานประดับไฟ “Niji no Sato Thanks Illumi ~Rainbow Blooming Garden~” – จังหวัดชิซูโอกะ

งานประดับไฟ "Niji no Sato Thanks Illumi ~Rainbow Blooming Garden~" - จังหวัดชิซูโอกะ

ที่สวนสนุก “Shuzenji Niji no Sato” ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองอิซุ จังหวัดชิซึโอกะ จะมีการจัดอีเว้นท์งานประดับไฟขนาดใหญ่ “Niji no Sato Thanks Illumi ~Rainbow Blooming Garden~” ที่มีดอกกุหลาบส่องไฟระยิบระยับประมาณ 5,000 ดอกและแสงเลเซอร์อันทรงพลังสร้างพื้นที่อันน่าดื่มด่ำในฤดูหนาว เดินชม “การแสดงแสงสีรุ้งยามค่ำคืน” (Night Rainbow Illumination Show) รวมถึง “Constellation Hill” ที่ซึ่ง “รถจักรไอน้ำเรืองแสง” วิ่งผ่าน และลวดลายของดอกไฮเดรนเยียและสายรุ้งคู่จะส่องสว่าง ประทับใจยามค่ำคืน
“Niji no Sato Thanks Illumi – Rainbow Blooming Garden” ระยะเวลา: 20 ตุลาคม 2023 (วันศุกร์) – 31 มีนาคม 2024 (วันอาทิตย์) *วันปิดทำการและเวลาเปิดทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ ที่ตั้ง: Shuzenji Niji no Sato ที่อยู่: 4279-3 Shuzenji, เมือง Izu, จังหวัด Shizuoka

42. งานประดับไฟ “Izu Kogen Grand Illumi” – สวน Izu Granpal Park จังหวัดชิซูโอกะ

งานประดับไฟ “Izu Kogen Grand Illumi” - สวน Izu Granpal Park จังหวัดชิซูโอกะ

รูปภาพจากงานประดับไฟครั้งที่ 8

กิจกรรมประดับไฟเชิงประสบการณ์ “Izu Kogen Grand Illumi ~ฤดูกาลที่ 9~” จะจัดขึ้นที่สวนสาธารณะ Izu Granpal ในจังหวัดชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น และจะดึงดูดทุกคนตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ด้วยความหลากหลายของแสงสีและเอฟเฟกต์ รวมถึง “Walk on the Illumination” ที่คุณ สามารถ “เดินบนแสงไฟ” ได้ งานนี้ได้รับความนิยมจากคนทุกวัย นอกจากนี้ ยังมีเนื้อหาที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการประดับไฟในขณะที่เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ เช่น ซิปไลน์ไปกลับ 400 เมตร “Zipline – Ryusei RYUSEI” ที่คุณสามารถโหนซิปไลน์เหนือแสงไฟได้
“Izu Kogen Gran Illumi ~9th Season~” ระยะเวลา: 11 พฤศจิกายน 2023 (วันเสาร์) ถึง 31 สิงหาคม 2024 (วันเสาร์) * สถานที่ที่กำหนด: Izu Granpal Park (1090 Futo, Ito City, Shizuoka Prefecture)

43. การแสดงแสงเลเซอร์น้ำพุ “Hikari no Sumika” – Gotenba Kogen Tokinosumu จังหวัดชิซูโอกะ

การแสดงแสงเลเซอร์น้ำพุ “Hikari no Sumika” - Gotenba Kogen Tokinosumu จังหวัดชิซูโอกะ

งานประดับไฟฤดูหนาว “ฮิคาริ โนะ ซูมิกะ” (“Hikari no Sumika”) ซึ่งจัดขึ้นที่ Tokinosumika ในโกเท็มบะโคเก็น ชิซูโอกะ ได้พัฒนาขึ้น นอกจากโซนชมฟรีที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับทางเข้าที่รายล้อมไปด้วยโคมไฟมหัศจรรย์ประมาณ 400 ดวงและอุโมงค์ไฟที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นแล้ว ยังมีโซนสัมผัสประสบการณ์แบบชำระเงินอีกด้วย ที่ “การแสดงน้ำพุที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น” ซึ่งมีความสูงถึง 150 เมตร คุณจะเพลิดเพลินไปกับการแสดงน้ำ แสง และเสียงที่ร่วมมือกันแบบไดนามิก
Tokinosu Illumination “Hikari no Sumika” 2023-2024 ระยะเวลา: 6 ตุลาคม 2023 (วันศุกร์) – 10 มีนาคม 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: Gotemba Kogen Tokinosumu : 719 Kamiyama เมือง Gotemba จังหวัด Shizuoka

44. ไฟประดับคริสต์มาสที่ส่องประกายในสี “แชมเปญโกลด์” – อาคาร Dainagoya Building

ไฟประดับคริสต์มาสที่ส่องประกายในสี “แชมเปญโกลด์” - อาคาร Dainagoya Building

งานประดับไฟ “Dainagoya Christmas Illumination” ซึ่งจัดขึ้นที่อาคาร Dainagoya เป็นงานที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับการประดับไฟพร้อมกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนในสวนแขวนที่อยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 30 เมตร ไฟประดับประมาณ 110,000 ดวงจะสร้างพื้นที่ของแสงสีทองแชมเปญ และยังมีจุดถ่ายรูปรูปทรงกล่องที่ประดับประดาด้วยไฟส่องสว่างและจุดถ่ายภาพสไตล์รถม้าอีกด้วย
“Dainagoya Christmas Illumination” ระยะเวลา: 8 พฤศจิกายน (วันพุธ) – 25 ธันวาคม (วันจันทร์) 2023 11:00-23:00 น. (เริ่มเปิดไฟตั้งแต่ 17:00 น.) สถานที่: อาคารไดนาโกย่า สวนลอยฟ้า สวนลอยฟ้า” ที่อยู่: 3-28-12 Meieki, Nakamura-ku, Nagoya, Aichi Prefecture

45. งานประดับไฟในธีมทะเลเมฆและแสงออโรร่า – Laguna Ten Bosch จังหวัดไอจิ

งานประดับไฟในธีมทะเลเมฆและแสงออโรร่า - Laguna Ten Bosch จังหวัดไอจิ

ในงานฤดูหนาว “Laguna Illumination ‘Light of Life’” ที่ Laguna Ten Bosch จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น ชมงานประดับไฟ “ต้นไม้บนท้องฟ้า ~ แสงสว่างแห่งชีวิตที่สถิตอยู่บนท้องฟ้า” พร้อมทะเลเมฆและแสงออโรร่าสุดมหัศจรรย์ที่จะปรากฏขึ้นตระการตา พบกับโลกลึกลับแห่งแสงที่แผ่กระจายไปทั่วต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์จุดเด่นในงาน สูง 10 เมตร … การฉายภาพ Projection Mapping ซึ่งแสดงให้เห็นโลกแห่งน้ำแข็งและบ้านขนมหวานและถนนแลนเทิร์นจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ใต้น้ำ ซึ่งก็เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมเช่นกัน
Laguna Illumination “Light of Life” ระยะเวลา: 3 พฤศจิกายน 2023 (วันศุกร์/วันหยุดนักขัตฤกษ์) – 7 เมษายน 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: Laguna Ten Bosch สถานที่ต่างๆ ภายใน Lagunasia Park ที่อยู่: Kaiyo-cho, Gamagori City, Aichi Prefecture 2-3

46. งานประดับไฟฤดูหนาวในธีม “Promenade of Light” – สวนฮิซายะ โอโดริ จังหวัดไอจิ

งานประดับไฟฤดูหนาวในธีม “Promenade of Light” - สวนฮิซายะ โอโดริ จังหวัดไอจิ

การประดับไฟ “Hisaya-odori Park Winter Illumination” ที่สวนสาธารณะฮิซายะ-โอโดริ ในจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น มีการประดับไฟในธีม “ทางเดินแห่งแสง”  (Promenade of Light) แสงมีศูนย์กลางเป็นสีทองโทนอุ่นพร้อมเน้นสีมรกต รวมถึงวัตถุสัญลักษณ์ที่เปลี่ยนสีได้ “ปราสาทฮิซายะ” จะมีการส่องสว่างและส่วนโค้งของแสงที่เปล่งประกายราวกับดาวตกจะปรากฏขึ้น
“Hisaya Odori Park Winter Illumination” ระยะเวลา: 21 พฤศจิกายน 2023 (วันอังคาร) ถึง 19 เมษายน 2023 (วันศุกร์) สถานที่: สวนฮิซายะ โอโดริ (3-chome Marunouchi, 3-chome Nishiki, Naka-ku, Nagoya, Aichi Prefecture)

47. การประดับไฟคริสต์มาสและต้นสน “ยาโดริกิ” – ย่านโฮชิโนะ ในคารุอิซาวะ จังหวัดนากาโนะ

การประดับไฟคริสต์มาสและต้นสน "ยาโดริกิ" - ย่านโฮชิโนะ ในคารุอิซาวะ จังหวัดนากาโนะ

ที่ Harunire Terrace เมืองเล็กๆ ที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารในย่านโฮชิโนะของคารุอิซาวะ จะมีการประดับไฟด้วยลวดลายของต้นยาโดกิ ซึ่งว่ากันว่าเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตนิรันดร์และความสุข นอกจากนี้ ต้นสนจริงสูง 10 เมตรจะปรากฏที่ลานต้นสนถัดจากบ่อน้ำพุร้อนแบบไปเช้าเย็นกลับ “โฮชิโนะ ออนเซ็น ทอมโบ โนะ ยุ” (Hoshino Onsen Tombo no Yu’) ซึ่งส่องสว่างบริเวณนั้นด้วยแสงอันอบอุ่น
Christmas 2023 in Karuizawa Hoshino Area ระยะเวลา: 1 ธันวาคม (วันศุกร์) ถึง 25 ธันวาคม (วันจันทร์) ปี 2023 สถานที่: พื้นที่คารุอิซาวะโฮชิโนะ จัตุรัสโมมิโนกิ, Harunire Terrace, Cafe Hungry Spot ที่อยู่: เมืองคารุอิซาวะ เขตคิตะซาคุ จังหวัดโฮชิโนะ

48. “2023 Sapporo White Illumination” – ซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด

“2023 Sapporo White Illumination” - ซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด

ในงาน “ซัปโปโรไวท์อิลลูมิเนชั่นปี 2023” ซึ่งจัดขึ้นที่ซัปโปโร ฮอกไกโด คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ฤดูหนาวอันงดงามของการประดับไฟที่ส่องประกายระยิบระยับ ไฟประดับตกแต่งจะถูกติดตั้งทั่วบริเวณกว้าง รวมถึงสถานที่จัดงานโอโดริ, เอกิมาเอะ โดริ, มินามิ 1-โจ โดริ, จัตุรัสคิตะ 3 โจของเมืองซัปโปโร และจัตุรัสทางออกทิศใต้ของสถานีซัปโปโร หากคุณไปเที่ยวฮอกไกโดในช่วงคริสต์มาสและฤดูหนาวก็อย่าลืมแวะเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้นะคะ
2023 Sapporo White Illumination (ครั้งที่ 43) 1. สถานที่จัดงาน: สวนโอโดริ (Odori Nishi 1-chome – Odori Nishi 6-chome วันที่: 22 พฤศจิกายน 2023 (วันพุธ) – 25 ธันวาคม 2023 (วันจันทร์) 2. สถานที่จัดงาน: Ekimae-dori (Kita 4-jo – South 4-jo, แถบกลางซัปโปโร Ekimae-dori) วันที่จัดงาน: 22 พฤศจิกายน 2023 วันอาทิตย์ (วันพุธ) – 11 กุมภาพันธ์ 2024 (วันเสาร์) 3. สถานที่จัดงาน Minami-Ichijo-dori venue (Minami 1-jo-dori Nishi 1-3-chome), Sapporo Kita 3-jo Plaza (Akapla) venue (Kita 2-jo Nishi 4-chome and Kita 3-jo Nishi 4-chome) , Sapporo Station South Exit Square Venue (Kita 5-jo Nishi 3-chome) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2023 (วันพุธ) – 14 มีนาคม 2024 (พฤหัสบดี)

49. งานประดับไฟ ที่ “Shiroi Koibito Park” กลับมาส่องสว่างครั้งแรกในรอบ 4 ปี – ซัปโปโร ฮอกไกโด

งานประดับไฟ ที่ "Shiroi Koibito Park" กลับมาส่องสว่างครั้งแรกในรอบ 4 ปี - ซัปโปโร ฮอกไกโด

ที่สวนสาธารณะชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park) ในเมืองซัปโปโร ฮอกไกโด ลานภายในจะมีการส่องสว่างอย่างสมบูรณ์เป็นครั้งแรกในรอบสี่ปี การประดับไฟสุดโรแมนติกประกอบด้วยการตกแต่งอันงดงามด้วยลวดลายระฆังสีรุ้ง ต้นคริสต์มาสที่สามารถเพลิดเพลินได้ด้วยการกดปุ่มที่เปลี่ยนสี และส่วนโค้งรูปหัวใจ อย่าลืมแวะชมเครื่องดื่มร้อนที่ขายเฉพาะในฤดูหนาว เช่น เครื่องดื่มช็อกโกแลต กันนะคะ

“Shiroi Koibito Park Sweet Illumination 2023” ระยะเวลา: 15 พฤศจิกายน 2023 (วันพุธ) – 31 มีนาคม 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: สวนสาธารณะ Shiroi Koibito

50. งานประดับไฟ “2023 SENDAI Pageant of Lights” บนถนน Jozenji – มิยากิ เซนได ประเทศญี่ปุ่น

งานประดับไฟ “2023 SENDAI Pageant of Lights” บนถนน Jozenji - มิยากิ เซนได ประเทศญี่ปุ่น

Image Source: SENDAI Pageant of Light Executive Committee

ในงานประดับไฟ “2023 SENDAI Pageant of Lights” ที่จะจัดขึ้นที่ถนนโจเซ็นจิในเมืองเซนได จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น ไฟ LED ประมาณ 500,000 ดวงจะส่องสว่างบนต้นเซลโคว่า 129 ต้นบนถนนโจเซ็นจิ เป็นประเพณีฤดูหนาวในเซนได ที่ถนนทั้งสายอาบไปด้วยแสงที่สุกสว่างและพื้นที่อันอบอุ่นแผ่กระจายออกไป
“2023 SENDAI Pageant of Lights” ระยะเวลา: วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2023 ถึงวันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม 2023 บริเวณที่จัด: ถนน Jozenji-dori เมืองเซนได จังหวัดมิยางิ (ฝั่งตะวันออก: Sendai Mitsukoshi-mae – ฝั่งตะวันตก: Jozen Temple Garden Hills Guest House)

51. งานตกแต่งประดับไฟ “Nakasu Hikarino Advent” – Nakasu จังหวัดฟุกุโอกะ

งานตกแต่งประดับไฟ "Nakasu Hikarino Advent" - Nakasu จังหวัดฟุกุโอกะ

Ai Bridge at Fukuhiro

งานประดับไฟ “Nakasu Hikarino Advent” จะจัดขึ้น ซึ่งจะตกแต่งบริเวณพื้นที่ Nakasu ของฟุกุโอกะด้วยแสงไฟอันงดงาม และนอกเหนือจากการประดับไฟอันงดงามตระการตาที่บริเวณของถนนเมจิ, นากาสุ ชูโอ โดริ, นากากาวะ โดริ, สะพานไอ, สะพานฮารุโยชิ และสวนเซริวที่ฟุคุฮิโระแล้ว ต้นไม้สัญลักษณ์คริสต์มาสยังถูกจัดตั้งขึ้นในสถานที่อีกสามแห่งอีกด้วย งานประดับไฟนี้เหมาะสำหรับการเดินเล่นในฤดูหนาวเป็นอย่างยิ่ง
Nakasu Hikarino Advent วันที่: 2 พฤศจิกายน 2023 (พฤหัสบดี) ถึง 8 มกราคม 2024 (วันจันทร์) สถานที่: เขต Nakasu เมืองฟุกุโอกะ

52. งานประดับไฟ “Christmas in the City of Lights” – Huis Ten Bosch จังหวัดนางาซากิ

งานประดับไฟ “Christmas in the City of Lights” - Huis Ten Bosch จังหวัดนางาซากิ

ที่เฮาส์เทนบอช (Huis Ten Bosch) นางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น จะมีงานประดับไฟที่เรียกว่า “Christmas in the City of Light” ปกคลุมทิวทัศน์เมืองสไตล์ยุโรปท่ามกลางแสงที่สาดส่อง นอกจากงานแสดงไฟส่องสว่างที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยไฟ 13 ล้านดวงแล้ว ยังมีม้าหมุน 3 ชั้นแห่งแรกในญี่ปุ่น “Sky Carousel” ก็จะปรากฏขึ้นด้วย การแสดงแสงสีที่มีชีวิตชีวาจะทำให้คริสต์มาสและฤดูหนาวสนุกสนานยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
“Christmas in the City of Lights” ระยะเวลา: 10 พฤศจิกายน 2023 (วันศุกร์) ถึง 8 มกราคม 2024 (วันจันทร์ วันหยุด) สถานที่: Huis Ten Bosch ที่อยู่: 1-1 Huis Ten Bosch-cho เมือง Sasebo จังหวัดนางาซากิ

53. การแสดงแสงสี “Silver World” และการแสดงยามค่ำคืน – Huis Ten Bosch นางาซากิ

การแสดงแสงสี "Silver World" และการแสดงยามค่ำคืน - Huis Ten Bosch นางาซากิ

งานประดับไฟฤดูหนาว “ซิลเวอร์เวิลด์” (Silver World) ที่เฮาส์เทนบอช นางาซากิ เป็นงานประดับไฟที่สมบูรณ์แบบสำหรับฤดูหนาว ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม กุมภาพันธ์ และต้นเดือนมีนาคม การส่องสว่างด้วยดวงไฟ 13 ล้านดวงสร้างโลก “สีขาวบริสุทธิ์” คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงหลักยามค่ำคืนพร้อมบทเพลง การฉายภาพอันน่าทึ่ง และดอกไม้ไฟ รวมถึง “สวนแสงออโรรา” แสงไฟในสวนที่ส่องประกายเป็นสีเงิน เชื่อมโยงกับ “น้ำตกแห่งแสงกว้าง 66 เมตร
งานประดับไฟ “Silver World” ระยะเวลา: วันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2024 ถึงวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2024 สถานที่: Huis Ten Bosch ที่อยู่: 1-1 Huis Ten Bosch เมืองซาเซโบะ จังหวัดนางาซากิ

54. งานประดับไฟที่ใช้หลอดไฟประมาณ 4 ล้านดวง! – Southeast Botanical Garden/Churayashi Park Okinawa จังหวัดโอกินาว่า

งานประดับไฟที่ใช้หลอดไฟประมาณ 4 ล้านดวง! - Southeast Botanical Garden/Churayashi Park Okinawa จังหวัดโอกินาว่า

“Hikari no Lotus”

งานประดับไฟ “Okinawa Tropical Illumination” จัดขึ้นที่ Churayashi Park Okinawa Southeast Botanical Garden ของโอกินาว่า เป็นงานประดับไฟที่ได้รับรางวัลอันดับ 3 ระดับประเทศจาก “Illumination Award” เป็นเวลาสองปีติดต่อกัน และถือว่าเป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ยามค่ำคืนยอดนิยมของโอกินาวา งานประดับไฟประกอบด้วยลวดลายอันงดงาม เช่น ดอกบัว ต้นปาล์ม และต้นพู่ระหง ช่วยเพิ่มสีสันให้กับทิวทัศน์ยามค่ำคืนในฤดูหนาวของโอกินาว่า
“Okinawa Tropical Illumination 2023-2024” ระยะเวลา: 27 ตุลาคม 2023 (วันศุกร์) – 26 พฤษภาคม 2024 (วันอาทิตย์) สถานที่: Churaya Shi Park โอกินาว่า/สวนพฤกษศาสตร์ตะวันออกเฉียงใต้ ที่อยู่: 2146 Chibana เมืองโอกินาว่า จังหวัดโอกินาวา
แหล่งข้อมูล fashion-press.net/news/109098 ข้อมูลและเวลาจัดงานแสดงไฟอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมเงื่อนไขและสภาพอากาศ โปรดเช็กการอัปเดทล่าสุดจากเว็บไซต์ของผู้จัดงานทางการก่อนเข้าชมนะคะ
ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi

The post 54 จุดชม “งานประดับไฟ ญี่ปุ่น 2023 – 2024” Japan Winter Illumination appeared first on TravelDiDi.

]]>
https://traveldidi.com/things-to-do/%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%84%e0%b8%9f-%e0%b8%8d%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99-2023-2024/feed/ 0
เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม – รวม 32 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว! 2024/2567 https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%8d%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99-%e0%b8%a1%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%a1/ https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%8d%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99-%e0%b8%a1%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%a1/#respond Fri, 01 Dec 2023 07:16:01 +0000 https://traveldidi.com/?p=7804 สารบัญเนื้อหา ใครกำลังมีแพลนอยากไป ‘เที่ยวญี่ปุ่น […]

The post เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม – รวม 32 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว! 2024/2567 appeared first on TravelDiDi.

]]>

สารบัญเนื้อหา

ใครกำลังมีแพลนอยากไป ‘เที่ยวญี่ปุ่น 2024 / 2567‘ ห้ามพลาดสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้!

เดือนมกราคมเป็นช่วงฤดูหนาวที่อากาศเย็นจัดในประเทศญี่ปุ่น มีหิมะตก แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นฤดูที่สามารถชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของช่วงหน้าหนาวและหิมะได้ทั่วประเทศ และยังสามารถเพลิดเพลินกับงานประดับไฟฤดูหนาวได้อีกด้วย เดือนมกราคมจึงเป็นอีกเดือนที่หลาย ๆ ท่านเลือกไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ในวันนี้ TravelDiDi.com จึงได้นำมาแนะนำรายชื่อ ที่เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว เหมาะสำหรับเที่ยววันหยุดปีใหม่หรือลาไปเที่ยวช่วงปลายเดือน มาดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง

ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi

แนะนำที่เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม

1. ชิราคาวาโกะ – จังหวัดกิฟุ

เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม - รวม 32 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว! 2024/2567

ที่เที่ยวญี่ปุ่นยอดฮิตในเดือนมกราคม “ชิราคาวาโกะ” … หมู่บ้านชิราคาวาโกะเป็นหมู่บ้านสไตล์กัชโชหรือหลังคาทรงโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1995 หมู่บ้านอันงดงามแห่งนี้ มีอาคารกัสโช-สึคุริมากกว่า 100 หลัง ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก และด้วยความจริงที่ว่าหมู่บ้านชิราคาวาโกะยังคงมีผู้คนจริง ๆ อาศัยอยู่ที่นั่นจนถึงทุกวันนี้ จึงทำให้ที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะแตกต่างจากหมู่บ้านกัสโช-สึคุริแห่งอื่น ๆ

นักท่องเที่ยวจำนานมากมาเยือนหมู่บ้านชิราคาวาโกะตั้งแต่ฤดูร้อน แต่ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมจนถึงต้นเดือนมีนาคม เป็นช่วงที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในชิราคาวาโกะได้

เที่ยวชิราคาวาโกะเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ชมงานประดับไฟ (Light Up)

เที่ยวชิราคาวาโกะเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ชมงานประดับไฟ (Light Up)

และในช่วงฤดูหนาวในเดือนมกราคมจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้เอง จะมีการจัดงานประดับไฟหมู่บ้านชิราคาวาโกะ ทำให้ต้นไม้ในหมู่บ้านส่องสว่างไปด้วยแสงไฟ งดงามราวกับอยู่ในเทพนิยายที่ลอยอยู่ในโลกสีเงินอันเงียบสงบท่ามกลางหิมะ ดังนั้น หากคุณอยากไปเที่ยวช่วงจัดงานประดับไฟพิเศษนี้ ก็อย่าลืมตรวจสอบวันที่ล่วงหน้า และยังสามารถลงชื่อจองที่พักเพื่อนอนพักในหมู่บ้านชิราคาวาโกะได้อีกด้วย

กำหนดการวัน Light Up หมู่บ้าน Shirakawago ปี 2024 / 2567

ครั้งที่วันที่และเวลา Light Up
1อาทิตย์ 14 มกราคม 2024 เวลา 17:30-19:30
2อาทิตย์ 21 มกราคม 2024 เวลา 17:30-19:30
3อาทิตย์ 28 มกราคม 2024 เวลา 17:30-19:30
4อาทิตย์ 4 มกราคม 2024 เวลา 17:30-19:30
5จันทร์ 12 มกราคม 2024 เวลา 17:30-19:30
6อาทิตย์ 18 มกราคม 2024 เวลา 17:30-19:30

※ เฉพาะวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2024 / 2567 เท่านั้นที่จะจัดขึ้นในวันจันทร์ (วันหยุดนักขัตฤกษ์) เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ 3 วัน

วิธีการเดินทางไปหมู่บ้าน Shirakawago
จากโอซาก้าไปชิราคาวาโกะ คุณสามารถนั่งรถไฟ Shinkansen ไปลงที่นาโกย่าแล้ว Transfer เปลี่ยนสายรถไฟไปลงที่ ‘Takayama‘ เมื่อถึงทาคายาม่าแล้วสามารถต่อรถบัสไปยัง Shirakawa-go โดยสถานีรถบัส Takayama Hida Bus Center ตั้งอยู่ข้าง ๆ JR Takayama Station สามารถไปซื้อตั๋วและเดินทางไปยังชิราคาวาโกะต่อได้เลยค่ะเว็บไซต์ทางการ: shirakawa-go.gr.jp/en

2. ทะเลสาบคาวากุจิโกะ – จังหวัดยามานาชิ

เที่ยวทะเลสาบคาวากุจิโกะ - จังหวัดยามานาชิ เดือนมกราคม

หากคุณไปเที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม คาวากุจิโกะก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด โดยกิจกรรมหนึ่งที่น่าเพลิดเพลินในการไปเที่ยวทะเลสาบคาวากุจิโกะในฤดูหนาวคือการ “ชมดอกไม้ไฟฤดูหนาว” ซึ่งโดยปกติจะมีการจุดพลุดอกไม้ไฟในวันเสาร์และวันอาทิตย์ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมกราคมไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันภูเขาไฟฟูจิ หรือ “Mt. Fuji Day”

สถานที่จุดพลุมีสามแห่ง โดยสถานที่หลักคือ ‘สวนโออิเกะ’ (Oike Park) และสถานที่ย่อยอีกสองแห่ง ประกอบด้วย ‘สวนทาตามิอิวะ’ (Tamiiwa Park) และ ‘สวนยากิซากิ’ (Yagizaki Park) ซึ่งจะมีการจุดพลุเป็นเวลาประมาณ 20 นาที เริ่มตั้งแต่เวลา 20:00 น. ชมดอกไม้ที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าในฤดูหนาวที่แจ่มใส สถานที่จัดงานแต่ละแห่งตั้งอยู่ห่างกัน ดังนั้น หากคุณต้องการชมดอกไม้ไฟแบบพาโนราม่าแบบเห็นจากทั้งสามแห่ง ก็สามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าภูเขาคาจิคาจิ (Kachikachi Mountain Ropeway) ซึ่งจากยอดเขาเท็นโจ (Mt. Tenjo) คุณสามารถชมงานแสดงพลุดอกไม้ไฟจากสถานที่ทั้งสามแห่ง

เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม - รวม 32 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว! 2024/2567

แต่หากคุณอยากชมพลุดอกไม้ไฟพร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ก็แนะนำให้ไปชมแถว Kawaguchiko Circular Hall ซึ่งเป็นจุดที่คุณสามารถชมพลุดอกไม้ไฟพร้อมฟูจิซังเป็นฉากหลังสวยงามได้ค่ะ

ตารางการปล่อยดอกไม้ไฟฤดูหนาวคาวากุจิโกะ 2024

งานดอกไม้ไฟฤดูหนาวคาวากุจิโกะประจำปี 2024 จะจัดขึ้นที่ชายฝั่งทะเลสาบคาวากุจิในวันดังต่อไปนี้

  • วันเสาร์และวันอาทิตย์ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 20 มกราคม 2024 ถึงวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2024
  • และในวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2024 (ตรงกับวันหยุด/วันภูเขาไฟฟูจิ)
  • เวลา:  20:00-20:20 น. เป็นเวลา 20 นาที

อย่างไรก็ตาม อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวันและจะมีการประกาศหรือคอนเฟิร์มก่อนเริ่มงานอีกครั้งประมาณ 20 นาทีก่อนเวลาจุดพลุ ประมาณช่วง 19:30 น.

ค้นหาห้องพักพร้อมบ่อน้ำพุร้อนในฟูจิคาวากูจิโกะ

หลังจากเพลิดเพลินกับดอกไม้ไฟในฤดูหนาวแล้ว ก็มาวอร์มร่างกายที่หนาวเย็นในบ่อน้ำพุร้อน ที่ Fujikawaguchiko โรงแรมหลายแห่งในคาวากูจิโกะมีบ่อน้ำพุร้อนส่วนตัวภายในห้องพัก และมีบ่อน้ำพุร้อนที่เปิดให้บริการจนถึง 22.00 . เช่น โรงแรม Fuji Shobo no Yu Yurari ขณะแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่พุ่งออกมาจากหิมะที่ละลายของภูเขาไฟฟูจิ คุณสามารถอบอุ่นร่างกายจากภายในหลังชมดอกไม้ไฟได้

นอกจากนี้ โรงแรมบางแห่งยังมีอ่างอาบน้ำแบบพาโนรามาที่คุณสามารถแช่ไปพร้อมกับชมวิวภูเขาไฟฟูจิอันยิ่งใหญ่ในทุกฤดูกาล ทำให้เป็นสถานที่ที่ต้องไปชมเมื่อมาเยือนทะเลสาบคาวากุจิ

ค้นหาที่พัก โรงแรมเรียวกังในฟูจิคาวากูจิโกะ

   

3. น้ำแข็งย้อย 3 แห่งในเมืองชิชิบุ – จังหวัดไซตามะ

พูดถึงไฮไลท์การท่องเที่ยวจังหวัดไซตามะ ในประเทศญี่ปุ่น ช่วงเดือนมกราคมนั้น ก็คือการชมความงามของ “น้ำแข็งย้อย 3 แห่งในเมืองชิชิบุ” ประกอบด้วย น้ำแข็งย้อยมิโซสึจิ (The Icicles of Misotsuchi)น้ำแข็งย้อยโอโนะอุจิ เฮียคเคอิ (Onouchi Hyakkei Icicles) และ น้ำแข็งย้อยอาชิงาคุโบะ (Ashigakubo Icicles) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในฤดูหนาวที่มีการจัดทัวร์ชมน้ำแข็งย้อยและเหล่าธารน้ำแข็งทุกปี และเป็นที่รู้จักในนามประเพณีฤดูหนาวที่ชิชิบุ

นอกจากน้ำแข็งย้อยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำแร่แล้ว ยังมีน้ำแข็งย้อยแบบเทียมด้วย ซึ่งทั้งสามแห่งก็มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมน้ำแข็งย้อยที่ชิชิบุคือช่วงกลางเดือนมกราคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์

น้ำแข็งย้อย 3 แห่งในเมืองชิชิบุ - จังหวัดไซตามะ

นอกจากนี้ ยังมี “เทศกาลน้ำแข็งโอทากิ” (Otaki Ice Festival) ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมน้ำแข็งย้อยได้สวยงามที่สุด และจะมีช่วงที่จัด Light Up ที่ น้ำแข็งย้อยมิโซสึจิ เช่นกัน โดยมักจะเปิดไฟ Light Up ในช่วงเวลา 17:00-19:00 น. บรรยากาศสวยงามสว่างไสวในช่วงค่ำคืน ความงามทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมฤดูหนาวที่รุนแรงกลายเป็นเอกลักษณ์และนำมาสู่การท่องเที่ยวเฉพาะของโอคุชิชิบุ ภาพทิวทัศน์และงานประดับไฟที่สวยงามเป็นภาพที่หาชมได้ยากซึ่งสามารถพบได้เฉพาะในช่วงเวลานี้ของปีเท่านั้น

4. เที่ยวนาโงะ ชมดอกซากุระญี่ปุ่นเดือนมกราคม – จังหวัดโอกินาว่า

เที่ยวนาโงะ ชมดอกซากุระญี่ปุ่นเดือนมกราคม - จังหวัดโอกินาว่า

ที่เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคมที่สามารถชมดอกซากุระบานได้ คือ ที่จังหวัดโอกินาว่า ฤดูดอกซากุระบานที่โอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อพูดถึงดอกซากุระในฮอนชู หลายคนมักจะนึกถึงดอกซากุระโซเมอิโยชิโนะ แต่ในโอกินาว่า พันธุ์ที่ได้รับความนิยมคือ ‘ฮิคังซากุระ‘ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องกลีบสีชมพูเข้ม และที่ ‘Nago Central Park‘ ซึ่งเป็นสวนรอบ ๆ ซากปราสาทนาโงะ (The Ruins of Nago Castle) ก็เป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระระดับต้น ๆ ของโอกินาว่า โดยมีต้นซากุระฮิคังปลูกไว้ประมาณ 23,000 ต้น ที่นี่ เทศกาลดอกซากุระนาโงะจัดขึ้นในวันเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือนมกราคมทุกๆ ปี โดยมีสโลแกนว่า ‘ฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นเริ่มต้นที่นี่’ และมักมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ จัดขึ้นที่ Nago Central Park เช่น กิจกรรมการแสดงบนเวทีและริมถนน บริเวณ Sakura Park, Nago Fishing Port และ Nago Crossroads Boulevard เป็นต้น

ค้นหาที่พัก โรงแรมและที่พักในโอกินาว่า

8. เที่ยวทะเลสาบซูวะ ชมปรากฏการณ์ “ทางข้ามเทพเจ้าทะเลสาบซูวะ” (โอมิวาตาริ) – จังหวัดนางาโน่

เที่ยวทะเลสาบซูวะ ชมปรากฏการณ์ "ทางข้ามเทพเจ้าทะเลสาบซูวะ" (โอมิวาตาริ) - จังหวัดนางาโน่

ที่ทะเลสาบซูวะ ในจังหวัดนางาโน่ (หรือบางคนอาจเรียกว่านากาโนะ) ซึ่งตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 759 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ทางข้ามเทพเจ้าทะเลสาบซูวะ” (The Gods Crossing on Lake Suwa) หรือ “โอมิวาตาริ” (Omi-Watari) เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่หนาวที่สุด ทำให้น้ำแข็งบนพื้นผิวทะเลสาบซูวะกลายเป็นน้ำแข็งจนหมด ขยายตัวและหดตัวช้า ๆ เนื่องจากอุณหภูมิที่แตกต่างกันในช่วงเช้าและช่วงเย็น ทำให้น้ำแข็งแตกและบวมเป็นเส้น ๆ เรียกได้ว่าเป็นภาพที่หาชมได้ยากซึ่งจะเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขและสภาพอากาศที่เหมาะสมเท่านั้นจึงจะได้เห็น เป็นอีกที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวยอดฮิตในเดือนมกราคมที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชม ถนนน้ำแข็งซึ่งเกิดจากรอยแตกบนน้ำแข็งบนพื้นผิวทะเลสาบ ว่ากันว่าเป็นเส้นทางที่เหล่าทวยเทพพาไปตามชื่อของมัน และได้รับความเคารพนับถือจากคนในท้องถิ่นว่าเป็นปรากฏการณ์อันศักดิ์สิทธ์มาตั้งแต่สมัยโบราณ จะมีการสังเกตการณ์นี้จัดขึ้นทุกปีโดยศาลเจ้าฮักเกน (Hakken Shrine)ในเมืองซูวะ และจะมีการจัดพิธีกรรมเพื่อทำนายลางมงคลประจำปีควบคู่ไปกับการอพยพอันศักดิ์สิทธิ์

เที่ยวทะเลสาบซูวะ ชมปรากฏการณ์ "ทางข้ามเทพเจ้าทะเลสาบซูวะ" (โอมิวาตาริ) - จังหวัดนางาโน่

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการเกิดภาวะโลกร้อน จึงเป็นเหตุให้ปรากฏการทางเข้าเทพเจ้าทะเลสาบซูวะไม่เกิดขึ้น แต่ในปี 2018 The Gods Crossing on Lake Suwa ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเป็นครั้งแรกในรอบห้าปี และมีการจัดพิธีกรรมโอมิวาตาริในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ในปีดังกล่าว

ค้นหาที่พัก โรงแรมและที่พักในนากาโน่

9. ทะเลสาบอินาวาชิโระ – จังหวัดฟุกุชิมะ

เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม ทะเลสาบอินาวาชิโระ - จังหวัดฟุกุชิมะ

ทะเลสาบอินาวาชิโระ (Lake Inawashiro) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในญี่ปุ่น ในช่วงฤดูหนาวคุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของน้ำแข็งที่โปรยลงมาอย่างมีศิลปะ และพบกับหงส์หลายตัวที่บินข้ามน้ำเข้ามาจากแดนไกลจากไซบีเรีย คุณสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามนี้ได้เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม น้ำแข็งกระเซ็น (Splash Ice) คือการที่น้ำในทะเลสาบถูกพัดด้วยลมแรงและแข็งตัวบนต้นไม้ตามแนวชายฝั่ง ลำต้นและกิ่งก้านของต้นไม้ใกล้ทะเลสาบถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งทั้งหมด และมีน้ำแข็งย้อยห้อยลงมาจากปลายกิ่งไม้ เป็นโครงสร้างทางธรรมชาติที่สวยงามที่สามารถมองเห็นได้เฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่หนาวจัดตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์เท่านั้น สถานที่ที่น้ำแข็งก่อตัวอยู่ห่างจากลานจอดรถเท็นจินฮามะ (Tenjinhama parking lot) ของทะเลสาบอินาวาชิโระประมาณ 1 กม. ตามแนวพื้นผิวทะเลสาบไปทางชิดาฮามะ (Shidahama) คุณจะต้องเดินผ่านป่าที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ จึงควรต้องเตรียมอุปกรณ์และการแต่งกายที่เหมาะสม

เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม ทะเลสาบอินาวาชิโระ - จังหวัดฟุกุชิมะ

พบกับหงส์ที่บินไปทั่วชายฝั่งทะเลสาบอินาวาชิโระ แต่จุดชมวิวที่แนะนำคือชายหาดชิราโทริ (Shiratori Beach) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลสาบอินาวาชิโระ (Lake Inawashiro) และชายหาดอาโอมัตสึ (Aomatsu Beach) ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ หากสภาพอากาศแจ่มใส คุณจะเห็นหงส์จำนวนมากยืนอยู่บนทะเลสาบจากชายหาดทั้งสองแห่ง โดยมีภูเขาบันได (Mt. Bandai) อันยิ่งใหญ่เป็นฉากหลัง โดยปกติหงส์จะพบเห็นได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน แต่ถ้าคุณต้องการเห็นทั้งน้ำแข็งและหงส์  ก็สามารถไปในช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำแข็งก่อตัว

ค้นหาที่พัก โรงแรมและที่พักในฟุกุชิมะ

10. ศาลเจ้าคิบุเนะ จังหวัดเกียวโต – เที่ยวญี่ปุ่นหน้าวหนาว ชมการประดับไฟในวันที่หิมะตก

ศาลเจ้าคิบุเนะ จังหวัดเกียวโต - เที่ยวญี่ปุ่นหน้าวหนาว ชมการประดับไฟในวันที่หิมะตก

ศาลเจ้าคิฟุเนะตั้งอยู่บนภูเขาอันเงียบสงบทางตอนเหนือของเกียวโต ซึ่งห่างไกลจากตัวเมือง สถานที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคมที่มีกิจกรรมที่เรียกว่า “Illuminations on Snowy Days” หรือ “การประดับไฟในวันที่หิมะตก” จัดขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์เท่านั้น และคุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันมหัศจรรย์ของแสงหิมะได้ที่นี่ เป็นไปตามชื่อเลยค่ะ งาน “Illuminations on Snowy Days” จะจัดขึ้นเฉพาะใน “วันที่หิมะตกเท่านั้น” นอกจากนี้จะมีการประกาศให้ทราบว่าจะมีการจัดหรือไม่จัดก็ในช่วงเวลาประมาณ 15:00 น. ของวันเดียวกัน และเฉพาะวันที่จะจัดขึ้นเท่านั้น ก็จะมีการประกาศบนเว็บไซต์และโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเป็นทางการ เป็นวิวทิวทัศน์ฤดูหนาวอันงดงามที่คุณจะไม่มีวันรู้จนกว่าจะถึงวันที่ได้เห็น และคุณต้องโชคดีมาก ๆ ที่จะได้เห็นค่ะ

ศาลเจ้าคิบุเนะ จังหวัดเกียวโต - เที่ยวญี่ปุ่นหน้าวหนาว ชมการประดับไฟในวันที่หิมะตก

เวลาจัดแสดงไฟ Light Up คือตั้งแต่ช่วงค่ำจนถึงเวลาประมาณ 20:00 น. โปรดทราบว่าที่จอดรถมีจำนวนจำกัด ดังนั้นหากคุณต้องการมาเที่ยวที่นี่ คุณอาจวางแผนใช้รถขนส่งสาธารณะ ศาลเจ้าคิฟุเนะตั้งอยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 300 เมตร และตอนกลางคืนจะหนาวมาก อย่าลืมพกอุปกรณ์และเสื้อผ้ากันหนาวให้เพียงพอและเหมาะสมเมื่อไปเที่ยวที่นี่นะคะ

ค้นหาที่พัก โรงแรมและที่พักในเกียวโต

11. ทะเลสาบชิคาริเบ็ตสึ – จังหวัดฮอกไกโด

ทะเลสาบชิคาริเบ็ตสึ - จังหวัดฮอกไกโด

Source: Pixta

ทะเลสาบชิคาริเบ็ตสึเป็นทะเลสาบธรรมชาติที่สูงที่สุดในฮอกไกโด ทะเลสาบเริ่มแข็งตัวประมาณกลางเดือนธันวาคมและกลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมดในเดือนมกราคม โดยยังคงปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งประมาณหกเดือน ทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็งจนหมดนั้นถูกปกคลุมไปด้วยโลกสีขาวบริสุทธิ์ และเพียง 60 วันนับจากสิ้นเดือนมกราคม หมู่บ้านลึกลับแห่ง “ทะเลสาบชิคาริเบ็ตสึ โคตัน” (Lake Shikaribetsu Kotan) ก็ปรากฏขึ้นอย่างน่าพิศวงบนทะเลสาบลึกลับแห่งนี้ โดยที่บางท่านอาจรู้จักในชื่อเรียก “หมู่บ้านเอสกิโม”

ทะเลสาบชิคาริเบ็ตสึ - จังหวัดฮอกไกโด

Source: Pixta

อาคารทั้งหมดในหมู่บ้านสร้างจากน้ำแข็งและหิมะทั้งหมด และคุณสามารถเพลิดเพลินกับบาร์น้ำแข็ง บ้านพักน้ำแข็ง โบสถ์น้ำแข็ง ห้องอาบน้ำกลางแจ้งที่ทำจากน้ำแข็ง และอื่นๆ อีกมากมาย

12. เที่ยวภูเขา Zao ชมปีศาจหิมะ – จังหวัดยามากาตะ

เที่ยวภูเขา Zao ชมปีศาจหิมะ - จังหวัดยามากาตะ

ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวเดือนมกราคมในจังหวัดยามากาตะ เนื่องจากต้นไม้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งจึงทำให้พวกมันมีรูปร่างแปลกประหลาด จึงได้รับฉายาว่า “ปีศาจหิมะ” (Snow Monster) ในช่วงฤดูหนาวบนภูเขา Zao คุณสามารถมองเห็นปีศาจหิมะได้จากใกล้ยอดเขาไปจนถึงครึ่งทางของภูเขา โดยปกติต้นไม้จะเริ่มปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะตั้งแต่ประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม และชั้นน้ำแข็งและหิมะจะค่อยๆ หนาขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยปกติจะสามารถชมปีศาจหิมะได้จนถึงต้นเดือนมีนาคม หรือแล้วแต่สภาพอากาศในแต่ละปี

เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม เที่ยวภูเขา Zao ชมปีศาจหิมะ - จังหวัดยามากาตะ

กระเช้าลอยฟ้าซาโอะ (Zao Ropeway) เปิดให้บริการบนภูเขาซาโอะและใครๆ ก็สามารถปีนขึ้นไปบนยอดเขาได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีการประดับไฟยามค่ำคืน จัดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์อีกด้วย คุณสามารถชื่นชมรูปลักษณ์อันน่าอัศจรรย์ของต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งที่โผล่ขึ้นมาในความมืดในช่วงวันประดับไฟ

ค้นหาที่พัก โรงแรมและที่พักในเซนได

13. เที่ยวงานประดับไฟ นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) – จังหวัดมิเอะ

เที่ยวงานประดับไฟ นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) - จังหวัดมิเอะ

นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) สวนดอกไม้ในจังหวัดมิเอะ จัดงานประดับไฟตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคมของปีถัดไป จึงเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคมที่คุณสามารถไปชมความสวยงามได้ และด้วยความอลังการและสวยงามจนได้รับการตอบรับอย่างดีจนได้รับรางวัลกรังด์ปรีซ์ (Grand Prix) เป็นเวลาสามปีติดต่อกันในฐานะงานจัดแสดงไฟ Illumination ในประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการคัดเลือกจากผู้ที่ชื่นชอบทิวทัศน์ยามค่ำคืน

เที่ยวงานประดับไฟ นาบานะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) - จังหวัดมิเอะ

กิจกรรมงานประดับไฟฤดูหนาวที่นาบานะ โนะ ซาโตะ จัดเป็นเวลายาวนานทั้งสิ้นประมาณหกเดือน แต่ช่วงเวลาสำหรับเข้าชมที่แนะนำคือฤดูหนาว เช่นเดือนมกราคม เพราะเป็นช่วงที่การประดับไฟจะสวยงามที่สุดและคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับประกายระยิบระยับแสนโรแมนติกพร้อมอากาศหนาว ๆ ได้

14. เที่ยวกินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen) – จังหวัดยามากาตะ

เที่ยวกินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen) - จังหวัดยามากาตะ เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม

กินซันออนเซ็น (Ginzan Onsen) เป็นเมืองออนเซ็นที่ตั้งอยู่อย่างเงียบสงบบนภูเขาของเมืองโอบานะซาวะ จังหวัดยามากาตะ เป็นเมืองบ่อน้ำพุร้อนที่มีบรรยากาศโรแมนติกแบบไทโช จู่ๆ สถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นที่ฮือฮาเมื่อปรากฏในฉากของละครโทรทัศน์เรื่อง “Oshin” ทางช่อง NHK และชื่อก็แพร่สะพัดไปทั่วประเทศ และเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวเดือนมกราคมที่ชาวต่างชาตินิยมไปเยือน

แม้ว่าจะเป็นเมืองน้ำพุร้อนเล็กๆ แต่โรงแรมไม้หลายชั้นสไตล์ตะวันตกที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยไทโชตอนปลายถึงต้นยุคโชวะก็ตั้งเรียงรายอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกินซังทั้งสองฝั่ง โดยมีสะพานสีแดงก่ำและโรงแรมไม้ย้อนยุคที่สว่างไสวด้วย ตะเกียงแก๊ส กลายเป็นทิวทัศน์เมืองที่ชวนให้นึกถึงบ้านเรือนอดีตนั้นมีเสน่ห์ดึงดูดใจ

Ginzan Onsen เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าวหนาวที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะเที่ยวชมในทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะ และแน่นอน มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากเดินทางมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ฤดูหนาวอันงดงาม เมื่อคุณมาเที่ยวที่นี่แล้ว หากอุณหภูมิร่างกายของคุณเย็นลงหลังจากเดินเล่นและถ่ายรูปรอบ ๆ เมือง ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องอบอุ่นร่างกายด้วยเมนูหม้อไฟแสนอร่อยที่เรียวกัง บ่อน้ำพุร้อน หรือโรงแรม

15. สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park) – จังหวัดนากาโน่

สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park) - จังหวัดนากาโน่

ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว ที่นักท่องเที่ยวทั้งหนุ่มสาว และครอบครัวนิยมไปเที่ยวในเดือนมกราคม สวนลิง Jigokudani Monkey Park เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในเรื่องลิงแสมญี่ปุ่นที่มาอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อน คุณอาจเห็นภาพลิงอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อนมาก่อน แต่ที่สวนลิงจิโกคุดานิเป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่คุณจะได้เห็นลิงอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อนจริง ๆ ภาพลิงที่กำลังผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อนช่างน่ารัก บางตัวมีลูกเล็ก ๆ อยู่ด้วย ทำให้รู้สึกอบอุ่นเมื่อมองดู

แม้ว่าที่นี่จะเปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ลิงแสมญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะอาบน้ำในช่วงเดือนที่อากาศเย็นกว่า แม้ในฤดูหนาว ในวันที่อากาศร้อนก็มักจะไม่มีการอาบน้ำ ดังนั้น ควรตรวจสอบสถานการณ์ปัจจุบันด้วย กล้องถ่ายทอดสดก่อนไปเยี่ยมชม

16. ฮาโกดาเตะ – จังหวัดฮอกไกโด

เที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาว ฮาโกดาเตะ - จังหวัดฮอกไกโด

ฮาโกดาเตะเคยได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสามทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่ดีที่สุดในโลก ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของฮาโกดาเตะที่มองจากภูเขาฮาโกดาเตะซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 334 เมตร ยังคงได้รับความนิยมอย่างมาก และนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาที่ฮาโกดาเตะเพียงเพื่อชมวิวยามค่ำคืน คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้ตลอดทั้งปี แต่ในฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่แสงสะท้อนจากหิมะที่ตกลงมาและทิวทัศน์ยามค่ำคืนจะยิ่งสวยงามยิ่งขึ้น ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคมของทุกปี เทศกาลฤดูหนาวฮาโกดาเตะจะจัดขึ้น ซึ่งทำให้เมืองฮาโกดาเตะเปล่งประกายยิ่งกว่าปกติ ถนนนี้จะปิดให้บริการในฤดูหนาว ดังนั้น ให้ใช้กระเช้าลอยฟ้าเพื่อเข้าถึงยอดเขาฮาโกดาเตะ พระอาทิตย์ตกในเดือนมกราคมคือประมาณ 16:15 น. ถึง 16:50 น. และทิวทัศน์จะเปลี่ยนเป็นกลางคืนหลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาที

ค้นหาที่พัก โรงแรมและที่พักในฮาโกดาเตะ

17. วัดคินคาคุจิ (วัดทอง) – จังหวัดเกียวโต

วัดคินคาคุจิ (วัดทอง) - จังหวัดเกียวโต

ไม่ว่าคุณจะมาเยี่ยมชมเที่ยววัดทอง หรือ วัดคินคาคุจิในช่วงเวลาใดของปี วัดแห่งนี้ก็สวยงามไม่แพ้กัน แต่ภาพวัดคินคะคุจิที่ยืนตระหง่านอยู่ท่ามกลางภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยหิมะในฤดูหนาวกลับสวยงามยิ่งกว่าเดิม ในแต่ละปีมีเพียงไม่กี่วันเท่านั้นที่หิมะจะตกลงมาสะสมมาก แต่ทำไมไม่ลองเยี่ยมชมในช่วงเวลาที่คุณคาดว่าจะมีหิมะตกมากที่สุดเพื่อที่จะได้ชมทิวทัศน์ที่หายาก ซึ่งสามารถชมได้เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น ในการวางแผนเที่ยววัดทอง คินคาคุจิ แม้ว่าหิมะจะตก แต่หากหิมะมีเพียงเล็กน้อยก็มักจะละลายในช่วงเช้า ดังนั้นจึงควรมาเยี่ยมชมให้เร็วที่สุด คุณสามารถตรวจสอบสถานะล่าสุดของวัด Kinkakuji Temple ได้ใน กล้องถ่ายทอดสด

ค้นหาที่พัก โรงแรมและที่พักในเกียวโต

18. สวนดอกไม้อาชิคางะ – จังหวัดโทจิงิ

สวนดอกไม้อาชิคางะ - จังหวัดโทจิงิ

ที่สวนดอกไม้ Ashikaga Flower Park ในจังหวัดโทจิงิ เป็นสวนสาธารณะขนาด 94,000 ตารางเมตร ในฤดูหนาวจะได้รับการตกแต่งด้วยแสงไฟตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี บริเวณอันกว้างใหญ่ได้รับการตกแต่งด้วยไฟส่องสว่างกว่า 4.5 ล้านดวง ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคคันโต และภาพที่เห็นก็ตระการตาอย่างแท้จริง

เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม สวนดอกไม้อาชิคางะ - จังหวัดโทจิงิ

การประดับไฟที่สวนดอกไม้อาชิคางะแบ่งออกเป็น 3 ธีมขึ้นอยู่กับช่วงเวลา และตั้งแต่เดือนมกราคม คุณจะเห็นการประดับไฟในธีมปีใหม่

ค้นหาที่พัก โรงแรมและที่พักในโตเกียว

19. งานประดับไฟที่บ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond เมืองบิเอะ และ น้ำตกหนวดขาว Shirohige – จังหวัดฮอกไกโด

งานประดับไฟที่บ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond เมืองบิเอะ และ น้ำตกหนวดขาว Shirohige - จังหวัดฮอกไกโด

Source: Pixta

ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายนของทุกปี จะมีการจัดงานประดับไฟจะจัดขึ้นที่บ่อน้ำสีน้ำเงินในเมืองบิเอ Blue Pond อยู่ห่างจากสถานี Biei ประมาณ 17 กม. และล้อมรอบด้วยป่าลึก จึงเป็นสถานที่ที่เงียบสงบมาก ในช่วงกลางฤดูหนาว เวลาช่วงกลางวัน ผิวน้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งและมีหิมะปกคลุม คุณจึงมองไม่เห็นผืนน้ำสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของสระน้ำ แต่ในคืนฤดูหนาว สระน้ำจะสว่างไสวด้วยไฟ LED 32 ดวง สะท้อนในป่าอันเงียบสงบ  ทำให้เกิดวิวทิวทัศน์ที่มหัศจรรย์มาก

งานประดับไฟที่บ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond เมืองบิเอะ และ น้ำตกหนวดขาว Shirohige - จังหวัดฮอกไกโด

Source: tripnote.jp

นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานประดับไฟที่บริเวณน้ำตกชิราฮิเงะ (Shirohige Falls) ซึ่งใช้เวลาขับรถประมาณ 10 นาทีจากสระน้ำ Blue Pond ใกล้กับ Biei Shirogane Onsen ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านน้ำพุร้อนธรรมชาติ 100% บริเวณนี้จะมีการประดับไฟตลอดทั้งปี ดังนั้นคุณจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับการประดับไฟไปพร้อมกับสระน้ำสีฟ้าใกล้ ๆ กันได้

ค้นหาที่พัก โรงแรมและที่พักในฟุราโนะ

20. ยูนิชิงาวะออนเซ็น (Yunishigawa Onsen) – จังหวัดโทจิงิ

ยูนิชิงาวะออนเซ็น (Yunishigawa Onsen) - จังหวัดโทจิงิ

เทศกาลคามาคุระ (Kamakura) จัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคมในพื้นที่ยูนิชิกาวะออนเซ็นของเมืองนิกโก จังหวัดโทจิงิ

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือคามาคุระขนาดเล็กประมาณ 1,000 ต้นที่เรียงรายอยู่ริมฝั่งแม่น้ำซาวากุจิ คามาคุระแห่งนี้สร้างขึ้นโดยอาสาสมัคร จะมีการจุดเทียนในตอนกลางคืน ทำให้เกิดบรรยากาศที่อบอุ่นและมหัศจรรย์ที่จะทำให้คุณลืมความหนาวเย็นในฤดูหนาวไปได้เลย

เทศกาลคามาคุระมีสถานที่จัดงานหลายแห่ง และสถานที่หลักคือเฮเกะ โนะ ซาโตะ (Heike no Sato) จะมีการประดับไฟทุกวัน แต่แม่น้ำซาวากุจิจะปิดให้บริการในวันพุธและวันพฤหัสบดี และมีบางวันที่ไฟจะไม่สว่างขึ้นอยู่กับสถานที่จัดงาน กรุณาตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนที่จะเยี่ยมชม

21. อามาโนะฮาชิดาเตะ – จังหวัดเกียวโต

เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว อามาโนะฮาชิดาเตะ - จังหวัดเกียวโต

Source: Pixta

อามาโนะฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) เป็นจุดชมวิวที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในจุดชมวิว 100 อันดับแรกของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในจุดชมวิว 100 อันดับแรกของญี่ปุ่น รวมถึง “Japan’s Top 100 Pines”, “Japan’s Top 100 Roads” และ “ชายหาด 100 อันดับแรกของญี่ปุ่น” เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องหาดทรายสีขาวที่สวยงามและต้นสนสีเขียว แต่เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น เมื่อหิมะตกบนต้นสนที่เรียงรายตามอามาโนะฮาชิดาเตะ ทิวทัศน์จะเปลี่ยนไปดูเหมือนภาพวาดหมึกโบราณ

เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว อามาโนะฮาชิดาเตะ - จังหวัดเกียวโต

22. งานประดับไฟ โยมิอุริแลนด์ – จังหวัดโตเกียว

งานประดับไฟ โยมิอุริแลนด์ - จังหวัดโตเกียว

โยมิอุริแลนด์ เป็นสวนสนุกยอดนิยมในโตเกียว ที่จะมีการจัดงานประดับไฟประจำปี Yomiuriland Jewellumination ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นงานแสดงไฟที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเขตมหานครโตเกียว โดยมีการประดับไฟสีอัญมณีกว่า 6 ล้านดวงที่ส่องสว่างทั่วทั้งสวนสาธารณะ

งานประดับไฟ Jewellumination

Source: tripnote.jp

งานประดับไฟ Jewellumination มีทั้งไฟส่องสว่างที่ดูลึกลับและการแสดงน้ำพุที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ ยังมี Jewelry Slope ซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ในปี 2018 และมีเลื่อนพิเศษที่ให้คุณเลื่อนลงไปตามลานสกีที่เต็มไปด้วยแสงซึ่งแผ่ขยายออกไปบน “Jewelry Mountain” อันกว้างใหญ่ รวมทั้งการแสดง “ภูเขาแห่งแสง” ซึ่งเป็นการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์นี้ต้องดูให้ได้

23. หมู่บ้านนาดะ คุโรอิวะ นาร์ซิสซัส เกาะอาวาจิ – จังหวัดเฮียวโงะ

หมู่บ้านนาดะ คุโรอิวะ นาร์ซิสซัส เกาะอาวาจิ - จังหวัดเฮียวโงะ

Source: Pixta

ที่เที่ยวญี่ปุ่นที่มีทัศนียภาพงดงามในเดือนมกราคม เกาะอาวาจิ (Awaji Island) ได้รับการขนานนามว่าเป็นเกาะแห่งดอกไม้ และยังมี “อาวาจิ ฮานะ เฮนโระ” (Awaji Hana Henro) ที่คุณสามารถเที่ยวชมดอกไม้บนเกาะได้ … นาดะ คุโรอิวะ ซุยเซ็นเกียว (Nada Kuroiwa Suisenkyo) เป็นสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับดอกแดฟโฟดิลสีขาวที่บานสะพรั่ง โดยเฉพาะในฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูที่มีดอกไม้ให้ชมน้อยในประเทศญี่ปุ่น โชคดีที่มีดอกแดฟโฟดิลญี่ปุ่นให้ชมที่นี่ … ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกแดฟโฟดิลที่เกาะอาวาจิคือไม่เกินสองเดือน ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์

ชมดอกแดฟโฟดิลป่าญี่ปุ่น 5 ล้านดอกบานสะพรั่งบนพื้นที่ประมาณ 7 เฮกตาร์ หันหน้าไปทางเนินทางตอนใต้ของภูเขาโยสึรุฮะ (Mt. Yotsuruha) ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 608 เมตร งดงามจับใจ เป็นภาพที่น่าชมอย่างยิ่ง

หมู่บ้านนาดะ คุโรอิวะ นาร์ซิสซัส เกาะอาวาจิ - จังหวัดเฮียวโงะ

Source: Pixta

วิวทิวทัศน์อันสวยงามของทะเลจาก Daffodil Hill ก็สวยงามเป็นพิเศษเช่นกัน อย่าลืมปีนขึ้นไปบนจุดชมวิวและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของทะเลและดอกแดฟโฟดิลค่ะ

24. คุโรคาวะออนเซ็น – จังหวัดคุมาโมโตะ

คุโรคาวะออนเซ็น - จังหวัดคุมาโมโตะ

คุโรคาวะออนเซ็น (Kurokawa Onsen) เป็นรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่ได้การันตีด้วยดาว Michelin Green Guide Japan จำนวนสองดาว ประจำปี 2009 แม้ว่าที่นี่จะเป็นเพียงเมืองรีสอร์ทน้ำพุร้อนขนาดเล็ก ที่มีโรงแรมขนาดเล็กเรียงรายขนาบสองข้างทางบริเวณหุบเขาแม่น้ำทาโนฮาระ (Tanohara River Valley) ที่ระดับความสูง 700 เมตร แต่ภูมิทัศน์ของเมืองนั้นสุดแสนจะมีเสน่ห์ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการการพักผ่อนอย่างแท้จริง

และกิจกรรมไฮไลท์ยอดนิยมของการเที่ยวคุโรคาวาออนเซ็นก็คือ การใช้ “ตั๋วอาบน้ำ” (Bath Ticket) ตั๋วนี้จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับห้องอาบน้ำ รวมทั้งน้ำพุร้อนกลางแจ้ง 28 บ่อในคุโรคาวะออนเซ็นเคียวได้อย่างเต็มที่ และให้คุณแช่บ่อน้ำร้อนกลางแจ้งสุดหรู 3 บ่อในแต่ละโรงแรมได้อีกด้วย

คุโรคาวะออนเซ็น - จังหวัดคุมาโมโตะ

ในช่วงฤดูหนาว ที่คุโรคาวะออนเซ็นจะมีการจัดงาน “คุโรคาวะออนเซ็น ยุอาคาริ” (Kurokawa Onsen Yuakari) เป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนมีนาคม และกลายเป็นประเพณีในฤดูหนาวอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ … เดินเที่ยวชมโคมไฟมาริประมาณ 300 ดวงที่ทำจากไม้ไผ่วางอยู่รอบ ๆ แม่น้ำทาโนฮาระที่ไหลผ่านเมืองน้ำพุร้อน ส่องสว่างด้วยแสงไฟนวล ๆ ทุกคืน

25. น้ำตกฟุคุโรดะ – จังหวัดอิบารากิ

น้ำตกฟุคุโรดะ - จังหวัดอิบารากิ

Source: Pixta

น้ำตกฟุคุโรดะ (Fukuroda Falls) เป็นหนึ่งในสามน้ำตกชั้นนำของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองคุจิกุนไดโกะ (Kujigundaigo Town) เขตคุจิ จังหวัดอิบารากิ มีการประดับไฟในเวลากลางคืนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมของทุกปี โครงการนี้ริเริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 และปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมากจนมีรถทัวร์พานักท่องเที่ยวมาชมแสงไฟ Illuminationในช่วงเวลากลางคืนอีกด้วย

น้ำตกฟุคุโรดะ - จังหวัดอิบารากิ

Source: Tripnote.jp

การจัดงานประดับไฟไม่ได้มีเฉพาะที่บริเวณน้ำตกเท่านั้น แต่เส้นทางไปน้ำตกยังมีการประดับไฟไว้อย่างสวยงามน่าประทับใจอีกด้วย จากบริเวณห้องจำหน่ายตั๋วไปยังจุดชมวิวน้ำตก คุณจะได้เดินผ่านอุโมงค์ยาว 276 เมตร ซึ่งจะมีการประดับไฟในธีมที่แตกต่างกันทุกปี

26. Sagamiko Resort Pleasure Forest – จังหวัดคานากาว่า

Sagamiko Resort Pleasure Forest - จังหวัดคานากาว่า

Source: Tripnote.jp

ที่ Sagamiko Resort Pleasure Forest จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น จะมีการจัดงานประดับไฟที่เรียกว่างาน “Sagamiko Illu Million” จัดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนเมษายนของทุกปี เป็นงานประดับไฟขนาดใหญ่ที่ใช้หลอดไฟ LED 6 ล้านดวง และแต่ละพื้นที่จะประดับไฟด้วยธีมพิเศษในทุกฤดูหนาว

นอกจากนี้ ในช่วงระยะเวลากิจกรรม คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับเครื่องเล่น เช่น ชิงช้าสวรรค์ และม้าหมุนภายใต้แสงไฟส่องสว่างสวยงาม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่น่าไปเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง

27. ทะเลสาบอะคัง – จังหวัดฮอกไกโด

ทะเลสาบอะคัง - จังหวัดฮอกไกโด

Source: Pixta

ที่เที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาวที่เหมาะสำหรับเที่ยวในเดือนมกราคม เราขอแนะนำ “ทะเลสาบอะคัง (Lake Akan)” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นทะเลสาบที่มาริโมะอาศัยอยู่ ซึ่งในช่วงฤดูหนาว สถานที่แห่งนี้ ก็จะเต็มไปด้วย “ดอกไม้น้ำแข็ง” (Frost Flower) เป็นภาพที่สามารถมองเห็นได้เฉพาะในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคมเท่านั้น (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละปี) ซึ่งเป็นช่วงที่ทะเลสาบอะคังถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง นี่เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไอน้ำที่ระเหิดจากพื้นผิวน้ำแข็งกลายเป็นน้ำแข็งและก่อตัวเป็นผลึกคล้ายดอกไม้ และคริสตัลสีขาวที่แผ่กระจายไปทั่ว เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชมดอกไม้น้ำแข็งที่ทะเลสาบอะคัง คือช่วงเช้า ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ -15 องศาหรือต่ำกว่า และแทบไม่มีลมเลย ว่ากันว่าปกติจะพบเห็นได้เฉพาะตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมกราคมเท่านั้น แต่สามารถพบเห็นได้ที่ทะเลสาบอะคังจนถึงต้นเดือนมีนาคม

28. Tokyo German Village – จังหวัดชิบะ

หมู่บ้านเยอรมันโตเกียว (Tokyo German Village)

Source: Pixta

หมู่บ้านเยอรมันโตเกียว (Tokyo German Village) เป็นสวนสนุกที่ตั้งอยู่ในจังหวัดชิบะ ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตชนบทในประเทศเยอรมนี การประดับไฟในฤดูหนาวที่นี่จัดขึ้นทุกปีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนเมษายน และถือว่าเป็นหนึ่งในสามงานประดับไฟหลักในภูมิภาคคันโต

บริเวณนี้ได้รับการตกแต่งอย่างมีสีสันด้วยไฟส่องสว่าง 2.5 ล้านดวง และการแสดงที่ผสมผสานแสงไฟเข้ากับดนตรีกำลังได้รับความนิยม ทุกปีจะมีรถเข็นไฟฟ้าให้เช่าภายในสวนสาธารณะ เพื่อให้คุณสามารถเที่ยวชมการประดับไฟได้อย่างง่ายดาย

29. โนซาวะออนเซ็น – จังหวัดนากาโน่

โนซาวะออนเซ็น - จังหวัดนากาโน่

ใน “โนซาวะออนเซ็น (Nozawa Onsen)” ซึ่งมีหิมะตกจนหนา คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเล่นสกีบนเนินหิมะธรรมชาติ 100% ที่สกีรีสอร์ทท้องถิ่นในฤดูหนาว มีคอร์สและเนินสำหรับเล่นสกีมากถึง 36 คอร์ส โดย 40% เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ดังนั้นแม้แต่ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดก็สามารถเพลิดเพลินกับพื้นที่นี้ได้อย่างมั่นใจ

โนซาวะออนเซ็น - จังหวัดนากาโน่

เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว โนซาวะออนเซ็น - จังหวัดนากาโน่

Source: Pixta

หลังจากเพลิดเพลินกับการเล่นสกีแล้ว คุณสามารถมุ่งหน้าไปยังเมืองโนซาวะออนเซ็น ที่มีบ่ออาบน้ำกลางแจ้ง 13 บ่อ รวมถึงอาคารโรงอาบน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งคุณสามารถอุ่นเครื่องหลังเล่นสกีได้ นอกจากนี้ยังมีอ่างแช่เท้าด้านหน้าบ่อขนาดใหญ่และทางเข้าโรงแรมทั้งห้าแห่งอีกด้วย

ค้นหาที่พัก โรงแรมและที่พักในโนซาวะออนเซ็น

30. รีโอมะรีสอร์ท – จังหวัดคากาวะ

รีโอมะรีสอร์ท - จังหวัดคากาวะ

Source: Pixta

ที่สวนสนุก “เรโอมะรีสอร์ท” (Reoma Resort) ในจังหวัดคากาวะ ประเทศญี่ปุ่น ที่นี่มีการจัดงานประดับไฟ “Reoma Winter Illumination” จัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยมีการใช้ไฟถึง 2.5 ล้านดวง นับเป็นหนึ่งในงานประดับไฟที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ชูโงกุ-ชิโกกุ นอกจากงานประดับไฟที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีตในแต่ละปีแล้ว ก็ยังมีการแสดงดอกไม้ไฟและการฉายภาพสุดตระการตาเป็นไฮไลท์ของงานอีกด้วย

31. มิคุนิออนเซ็น – จังหวัดฟุคุอิ

มิคุนิออนเซ็น - จังหวัดฟุคุอิ

Source: sozai.fuku-e.com

มิคุนิออนเซ็น (Mikuni Onsen) เป็นโรงแรมบ่อน้ำพุร้อนที่ตั้งอยู่ริมทะเลญี่ปุ่น ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของจังหวัดฟุคุอิอย่างโทจินโบ (Tojinbo) โดดเด่นด้วยอ่างอาบน้ำแบบเปิดโล่งหลายแห่งที่คุณสามารถอาบน้ำพร้อมชมพระอาทิตย์ตกเหนือทะเลได้ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มีที่แช่น้ำพุร้อนแบบไปเช้าเย็นกลับชื่อว่า “Mikuni Onsen Yuaport” ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากคุณสามารถอาบน้ำในบ่อน้ำพุร้อนพร้อมกับชมวิวทะเลญี่ปุ่นได้

มิคุนิออนเซ็น - จังหวัดฟุคุอิ

Source: sozai.fuku-e.com

เมื่อพูดถึงมิคุนิ อาหารสุดพิเศษของที่นี่ก็คือปูเอจิเซ็น (Echizen crab) ที่จับได้ที่ท่าเรือมิคุนิ (Mikuni Port) โดยปกติฤดูกาลจะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนมีนาคม และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาชมปูเอจิเซ็นในฤดูหนาว … ในช่วงฤดูกาล คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารที่ใช้ปูเอจิเซ็นเป็นวัตถุดิบอันเลิศรสได้ที่โรงแรมแต่ละแห่ง

32. สวนพลัมอาตามิ – จังหวัดชิซูโอกะ

สวนพลัมอาตามิ (Atami Plum Garden)

อีกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นสุดงดงามในเดือนมกราคม สวนพลัมอาตามิ (Atami Plum Garden) กล่าวกันว่าเป็นสวนที่ดอกพลัมบานเร็วที่สุดในญี่ปุ่น เทศกาลพลัม “Plum Festival” จัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคม และต้นพลัมประมาณ 470 ต้นที่ปลูกภายในสวนสาธารณะจะบานทีละต้นตั้งแต่ต้นถึงปลายดอก ในระหว่างงาน คุณสามารถเพลิดเพลินกับอามาซาเกะ หรือ สาเกหวาน (Amazake) และแช่เท้าได้ฟรี

ค้นหาที่พัก โรงแรมและที่พักในชิซูโอกะ

สภาพอากาศประเทศญี่ปุ่นในเดือนมกราคม

อุณหภูมิโตเกียวเดือนมกราคม

อุณหภูมิฮอกไกโดเดือนมกราคม

แหล่งข้อมูล

tripnote.jp/japan/osusume-destinations-for-january


ลองเที่ยวกับทัวร์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi


The post เที่ยวญี่ปุ่นเดือนมกราคม – รวม 32 ที่เที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาว! 2024/2567 appeared first on TravelDiDi.

]]>
https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%8d%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99-%e0%b8%a1%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%a1/feed/ 0
แนะนำ 10 จุดชม ‘งานประดับไฟ โตเกียว’ ปี 2023 – 2024 สุดประทับใจ! https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%84%e0%b8%9f-%e0%b8%8d%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99/ https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%84%e0%b8%9f-%e0%b8%8d%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99/#respond Fri, 24 Nov 2023 14:29:41 +0000 https://traveldidi.com/?p=7747 จุดชมไฟคริสต์มาสในโตเกียว หากคุณมีแพลนไปเที่ยวโตเกียวหร […]

The post แนะนำ 10 จุดชม ‘งานประดับไฟ โตเกียว’ ปี 2023 – 2024 สุดประทับใจ! appeared first on TravelDiDi.

]]>

จุดชมไฟคริสต์มาสในโตเกียว

หากคุณมีแพลนไปเที่ยวโตเกียวหรือเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงฤดูหนาวและช่วงคริสต์มาส คุณคงไม่อยากพลาดกับการเที่ยวชมงานประดับไฟของญี่ปุ่นที่จะมีการจัดขึ้นอย่างสวยงามเป็นไฮไลท์ของการเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวในช่วงนี้ ซึ่งในโตเกียวเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการจัดไฟคริสมาสต์และไฟฤดูหนาวอย่างสวยงาม แตกต่างกันไปหลากหลายธีมและหลากหลายสีสันทั่วโตเกียว ทำให้คุณสามารถเก็บภาพบรรยากาศอันแสนสวย ระยิบระยับ ที่น่าหลงใหลและจดจำ … วันนี้ TravelDiDi.com จะพาคุณมาดูว่า ‘งานประดับไฟ โตเกียว Winter Illumination ปี 2023 – 2024‘ มีจัดขึ้นที่ไหนบ้าง มาดูลิสต์และพิกัดพร้อมแผนที่การเดินทางจุดจัดงานประดับไฟในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่น่าสนใจกันได้เลย

แนะนำ 10 จุดชม 'งานประดับไฟ โตเกียว' ปี 2023 - 2024

Copyright © East Japan Railway Company

1. ลานเซ้าเธิร์นเทอเรส ชินจูกุ (Shinjuku Southern Terrace)

สถานที่จัดงานประดับไฟคริสมาสต์ย่านชินจูกุ จังหวัดโตเกียว ตั้งอยู่ติดกับทางออกทิศใต้ของสถานีชินจูกุ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ได้อย่างง่ายดายผ่านทางเดินยกระดับใกล้ ๆ ร้าน Tokyu Hands ที่จะมีไฟประดับเรียงรายส่องทาง สามารถเดินเล่นยามราตรีระหว่างทางออกลานเซาเธิร์นเทอเรสของสถานีชินจูกุไปจนเกือบถึงสถานีโยโยกิเลยค่ะ

วันที่จัดแสดง: 17 พฤศจิกายน 2023 ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2024

เวลาจัดแสดง: 17:00 น. – 24:00 น. (ตั้งแต่ 16:30 น. ในเดือนธันวาคม)

แผนที่: https://bit.ly/46JnFu9

การเดินทาง: เดินจากสถานี JR ชินจูกุ ทางออก South Exit

แนะนำ 10 จุดชม 'งานประดับไฟ โตเกียว' ปี 2023 - 2024

© 2023 Mitsui Fudosan Co., Ltd.

2. โตเกียวมิดทาวน์ฮิบิยะ (Tokyo Midtown Hibiya)

อีกสถานที่ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่คุณสามารถชมงานประดับไฟฤดูหนาวได้คือบริเวณ Tokyo Midtown Hibiya ซึ่งในปี 2566 นี้มาในชื่องาน “Hibiya Magic Time Illumination” จัดแสดงให้ชมตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2567 ภายใต้คอนเสปต์ “Magical Moments” หรือช่วงเวลามหัศจรรย์ คุณสามารถชมความสวยงามของไฟประดับหลากสีสันรอบถนน รวมทั้งต้นไม้ สวน และต้นคริสมาสต์บนถนน Hibiyanaka Street และ Tokyo Midtown ถ่ายรูปภาพเก็บเป็นความประทับใจ อบอุ่นหัวใจไปในช่วงฤดูหนาว

แผนที่: https://bit.ly/3m7KaEO

การเดินทาง: ถนน Hibiyanaka Street  และย่าน Tokyo Midtown

วันที่: 16 พฤศจิกายน 2023 ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2024

เวลาจัดแสดง: 17:00~23:00 น.

 
 

แนะนำ 10 จุดชม 'งานประดับไฟ โตเกียว' ปี 2023 - 2024

3. คาเรตต้า ชิโอโดเมะ (Caretta Shiodome Illumination)

หากคุณเป็นแฟนคลับหนังดิสนีย์หรือชอบงานประดับไฟสไตล์โรแมนติกสุดอลังการตราตรึงใจ ที่ญี่ปุ่นก็มีจุดแสดงงานประดับไฟฤดูหนาวที่สวยงามอีกแห่งในโตเกียวที่ไม่ควรพลาดเป็นที่สุด คือที่ “Caretta Shiodome” ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้มีการจัดแสดงไฟในธีมจากภาพยนตร์ยอดนิยมของดิสนีย์ เช่น ‘Beauty and the Beast”, “Frozen”, “Tangled” และ “Aladdin” ถือเป็นงานประดับไฟที่โรแมนติกที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภายในงานประกอบด้วยไฟ LED มากกว่า 250,000 ดวง และมีการเปิดเพลงประกอบจากภาพยนตร์อันเป็นเอกลักษณ์ เข้ากับบรรยากาศและการแสดงแสงสีอันมหัศจรรย์

แผนที่: https://bit.ly/47DNg8y

การเดินทาง: เดินไม่ไกลจากสถานี Shiodome Station หรือเดิน 5 นาทีจากสถานี Shimbashi Station

วันที่: โปรดรอการอัปเดต

เวลาที่จัดแสดง: โปรดรอการอัปเดต

แนะนำ 10 จุดชม 'งานประดับไฟ โตเกียว' ปี 2023 - 2024

4. งานประดับไฟที่ รปปงงิ ฮิลส์ (Roppongi Hills Christmas)

อย่าพลาดชมการจัดแสดงไฟคริสมาสต์ที่ Roppongi Hills ที่มีตึก Tokyo Tower เป็นฉากหลัง งาน Roppongi Hills Christmas จะมีการประดับไฟสวยงามบนถนนเคยากิซากะ (Keyakizaka Street) ที่ทอดยาว 400 เมตรพร้อมด้วยไฟ LED ประมาณ 800,000 ดวงคอยส่องให้ค่ำคืนในโตเกียวสว่างไสว และมีต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ และสวน โมริ การ์เด้น ที่ติดไฟเปลี่ยนสีตลอดสวน ก็อยู่แถวรปปงงิเช่นกัน ทั้งนี้ยังสามารถสนุกกับการช็อปปิ้งหรือรับประทานอาหารเย็นก่อน หรือ หลังการไปชมไฟประดับที่รปปงงิฮิลส์ได้อีกด้วย

แผนที่: https://bit.ly/3SXCqWY

การเดินทาง: มีทางเข้าโดยตรงจากสถานี Roppongi Station ทางออก C1

วันที่จัดแสดง: 6 พ.ย. ถึง 25 ธ.ค. 2023

เวลาทำการ: 17:00~23:00 น.

แนะนำ 10 จุดชม 'งานประดับไฟ โตเกียว' ปี 2023 - 2024

5. โยมิอุริแลนด์ (Yomiuri Land)

เที่ยวสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวและชมงานจัดแสดงไฟฤดูหนาวที่Yomiuriland’ ประเทศญี่ปุ่น สุดตระการตาในงาน “Jewellumination” ซึ่งมีไฟ LED กว่า 6 ล้านดวงทั่วทั้งสวน เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นที่น่าตื่นเต้นและท่องเที่ยวไปในสวนสาธารณะในบรรยากาศไฟหลากสีสัน ชมการแสดงแสงสีพิเศษที่มีเฉพาะช่วงเวลานี้ของปีเท่านั้น โดยมีการจัดแสดงตลอดทศวรรษที่ผ่านมา

Yomiuri Land เป็นสวนสนุกที่เปิดตลอดปี แต่นักท่องเที่ยวจะเยอะเป็นพิเศษในช่วงฤดูหนาว เพื่อเข้าชมไฟประดับอิลลูมิเนชั่นนั่นเอง แม้ว่าตัวสวนสนุกจะอยู่ห่างจากย่านตัวเมืองแต่ด้วยไฟประดับ LED ประมาณ 6.5 ล้านดวงทั่วทั้งสวนสนุก ทำให้เราไม่ควรพลาดที่จะแวะมาที่นี่เลยค่ะ

แผนที่: https://bit.ly/40PtdBT

การเดินทาง: สถานี Keio Yomiuriland Station

วันที่: 9 ตุลาคม 2023 ถึง 7 เมษายน 2024

เวลาทำการ: 16:00~20:30 น.

แนะนำ 10 จุดชม 'งานประดับไฟ โตเกียว' ปี 2023 - 2024

6. Omotesando Street

งานประดับไฟฤดูหนาวยอดนิยมของชาวโตเกียวอีกแห่งตั้งอยู่ในย่านฮาราจูกุและโอโมเตะซันโด ณ ถนนช้อปปิ้งแห่งนี้จะถูกเนรมิตรเรียงรายไปด้วยต้นเซลโคว่าที่สว่างไสวด้วยไฟ LED สีทองแชมเปญกว่า 90,000 ดวง เดินช้อปปิ้งเพลิดเพลินในบรรยากาศไฟฤดูหนาวสุดอบอุ่น มีสเน่ห์ น่าหลงใหลในบรรยากาศเฟสทีฟ

แผนที่: https://bit.ly/40Q7DNz

การเดินทาง: สามารถเดินถึงได้จากสถานี Harajuku Station, สถานี Meiji Jingumae Station หรือสถานี Omotesando Station

วันที่: 1 ธันวาคม 2023 ถึง 5 มกราคม 2024

เวลาทำการ: พระอาทิตย์ตกดินจนถึง 22:00 .

แนะนำ 10 จุดชม 'งานประดับไฟ โตเกียว' ปี 2023 - 2024

‘Wizarding World’ and all related names, characters and indicia are trademarks of and © Warner Bros. Entertainment Inc. – Wizarding World publishing rights © J.K. Rowling

7. Harry Potter Studio Tour Tokyo Christmas Lights Up

Warner Bros. Studio Tour Tokyo – The Making of Harry Potter เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประเภททัวร์ชมสตูดิโอและจุดเช็กอินแห่งใหม่ที่เปิดในช่วงฤดูร้อนปี 2023 ตั้งอยู่ที่บริเวณเดิมของสวนสนุก Toshimaen เขตเนริมะ กรุงโตเกียวสถานที่ท่องเที่ยวแฮร์รี่ พอตเตอร์แบบอินดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ประกอบด้วยโลกแห่งเวทมนตร์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสเบื้องหลังการสร้างภาพยนตร์ซีรีส์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์และสัตว์มหัศจรรย์ในปี 2023 – 2024 นี้ ทาง Studio Tour Tokyo จะจัดงานคริสต์มาสครั้งแรกเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน โดยมีการตกแต่งธีมคริสต์มาสทั่วทั้งสวนสาธารณะ แสงไฟ และเมนูอาหารในบรรยากาศรื่นเริง

แผนที่: https://bit.ly/47DVZHQ

การเดินทาง: เดิน 5 นาทีจากสถานี Toshimaen Station (รถไฟสาย Seibu Ikebukuro/ สาย Oedo)

วันที่: 15 พฤศจิกายน 2023 ถึง 8 มกราคม 2024

แนะนำ 10 จุดชม 'งานประดับไฟ โตเกียว' ปี 2023 - 2024

8. TOKYO DOME CITY

โตเกียวโดมซิตี้เป็นสวนสนุก ศูนย์รวมความบันเทิง และแหล่งรวมร้านช้อปปิ้งที่ตั้งอยู่ติดกับสนามเบสบอลโตเกียวโดมในเขตบุนเคียว กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และงานจัดแสดงไฟฤดูหนาว “Tokyo Dome City Winter Illumination” ก็จะจัดขึ้นในหลายสถานที่ในบริเวณนี้ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า คุณสามารถแวะเที่ยวสวนสนุกโตเกียวโดมและชมการจัดแสดงไฟส่องสว่างตระการตาที่ควรค่าแก่การถ่ายภาพเป็นที่ระลึกสำหรับทริปโตเกียวปีนี้ค่ะ

แผนที่: https://bit.ly/3N0lc7n

การเดินทาง: เดินประมาณ 5 นาทีจากสถานี Korakuen Station หรือสถานี Suidobashi Station

วันที่: 21 พฤศจิกายน 2023 ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2024

เวลาทำการ: 17:00~24:00 น.

แนะนำ 10 จุดชม 'งานประดับไฟ โตเกียว' ปี 2023 - 2024

9. Shibuya Blue Tunnel

งานประดับไฟ Shibuya Blue Tunnel เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่ชาวญี่ปุ่นทั้งวัยรุ่นและวัยทำงานรวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาถ่ายรูปเพลิดเพลินชมไฟสีน้ำเงินเปล่งประกายที่สร้างบรรยากาศ Winter Illumination สุดงดงามใจกลางกรุงโตเกียว เรียกได้ว่าเป็นงานประดับไฟฤดูหนาวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโตเกียวเลยก็ว่าได้ โดยดึงดูดผู้เข้าชมมากกว่า 2 ล้านคนทุกปี ไฟ LED ประมาณ 770,000 ดวงเปลี่ยนถนนให้เป็นดินแดนมหัศจรรย์ฤดูหนาวสีฟ้าเป็นระยะทางยาวประมาณ 800 เมตรระหว่างถนนชิบุยะโคเอ็นโดริไปยังสวนสาธารณะโยโยกิถนนเคยากินามิกิ

แผนที่: https://bit.ly/3SROoBn

พิกัด: ถนน Shibuya Koen Dori ~ สวนสาธารณะ Yoyogi Keyaki Namiki (ประมาณ 800 ม.)

วันที่: 1 ถึง 25 ธันวาคม 2023

เวลาทำการ: 17:00~22:00 น.

แนะนำ 10 จุดชม 'งานประดับไฟ โตเกียว' ปี 2023 - 2024

©TOKYO-SKYTREETOWN ©TOKYO-SKYTREE

10. โตเกียวสกายทรี (TOKYO SKYTREE®)

โตเกียวสกายทรีเป็นอาคารที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและยืนเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของโตเกียว!

งานประดับไฟ ที่โตเกียว ปี 2023-2024 นี้ พลาดไม่ได้กับการประดับไฟอย่างงดงามในช่วงคริสต์มาส ที่ Tokyo Skytree ในงาน “Tokyo Skytree Town Dream Christmas” ซึ่งมีการจัดไฟตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 โดยมีการประดับไฟในฤดูหนาวประดับทั่วทั้งพื้นที่ด้วยไฟ LED ประมาณ 460,000 ดวง นอกจากนี้ยังมีวัตถุสามดาวกระพริบตาสูง 4 เมตร พร้อมด้วยตัวละครอย่างเป็นทางการโซระการะจัง และต้นคริสต์มาสสูง 8 เมตร ภายในงานมีเนื้อหาต่างๆ นอกเหนือจากการประดับไฟ เช่น การฉายภาพ แสงพิเศษของสกายทรี การแสดงดนตรีสด และตลาดคริสต์มาสสไตล์เยอรมัน ให้สามารถเดินเล่น ช้อปปิ้ง เข้ากับบรรยากาศหน้าหนาวและเทศกาลคริสต์มาสอีกด้วย

แผนที่: https://bit.ly/49QCFc3

การเดินทาง: เข้าถึงได้จากสถานี Tokyo Skytree Station หรือสถานี Oshiage Station

วันที่: 1 พฤศจิกายน ถึง 25 ธันวาคม 2023

เวลาทำการ: 16:00~24:00 น.

 

ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi


The post แนะนำ 10 จุดชม ‘งานประดับไฟ โตเกียว’ ปี 2023 – 2024 สุดประทับใจ! appeared first on TravelDiDi.

]]>
https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b9%84%e0%b8%9f-%e0%b8%8d%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%9b%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%99/feed/ 0
แนะนำ 8 ลานสกีใกล้โตเกียว แหล่งท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์ตรีมของประเทศญี่ปุ่น https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b9%82%e0%b8%95%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7/ https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b9%82%e0%b8%95%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7/#respond Wed, 15 Nov 2023 02:48:33 +0000 https://traveldidi.com/?p=7614 เชื่อได้ว่าหลาย ๆ คนนั้นมีความฝันที่อยากจะ “เล่นสกีที่ป […]

The post แนะนำ 8 ลานสกีใกล้โตเกียว แหล่งท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์ตรีมของประเทศญี่ปุ่น appeared first on TravelDiDi.

]]>
เชื่อได้ว่าหลาย ๆ คนนั้นมีความฝันที่อยากจะ “เล่นสกีที่ประเทศญี่ปุ่น” เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีช่วงฤดูหนาวอันสุดพิเศษ มีหิมะปกคลุมทั่วทั้งประเทศ ส่งผลให้มีลานสกีปรากฏขึ้นหลายต่อหลายแห่ง ในบทความนี้เราจะพาทุกคนเดินทางไปยัง 8 ลานสกีที่อยู่ใกล้กับโตเกียว มีวิธีการเดินทางที่สะดวก แต่ละที่ล้วนเป็นลานสกีชื่อดังของญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อว่าควรได้ลองสักครั้งในชีวิต พร้อมด้วยการแนะนำ “บัตร JR Pass” ตัวช่วยที่ทำให้การเดินทางในญี่ปุ่นกลายเป็นเรื่องง่ายไปในพริบตา ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย !!

 

แนะนำ 7 ลานสกี ใกล้โตเกียว - เดินทางง่าย เล่นหิมะฟิน

1. Gala Yuzawa Snow Resort – จังหวัดนีงาตะ

Gala Yuzawa Snow Resort เป็นที่เล่นสกีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนีงาตะ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยความที่เป็นลานสกีใกล้โตเกียว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 77 นาที โดยรถไฟชินคันเซ็นไปลงที่สถานี ‘Gala Yuzawa Station’ ได้โดยตรง ทำให้ลานสกีแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางของนักเล่นสกีทั้งมือใหม่และระดับโปรจากทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ใครมีแพลนหรือกำลังอยากลองเล่นสกีที่ญี่ปุ่น เราก็ขอแนะนำที่นี่เลยเพราะว่าเดินทางไม่ยาก สะดวกมาก ๆ ค่ะ

กาล่ายูซาว่า สโนว์รีสอร์ท เป็นรีสอร์ทสกีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีพื้นที่เล่นสกีและบอร์ดหิมะกว่า 1,000 เฮกเตอร์ มีเส้นทางสกีและบอร์ดหิมะให้เลือกเล่นกว่า 100 เส้นทาง เหมาะสำหรับทุกระดับฝีมือ รีสอร์ทยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ลานสกีสำหรับเด็ก ลานสกีสำหรับผู้เล่นระดับ Advance โรงเรียนสอนสกีและสโนว์บอร์ด รวมไปถึงจุดให้เช่าอุปกรณ์สกี ห้องอาบน้ำ ร้านอาหาร และร้านค้า และอีกมากมาย

ข้อดีของลานสกีที่ Gala Yuzawa Snow Resort

  • สกีรีสอร์ทของที่นี่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟ Gala Yuzawa Station โดยตรง เมื่อเดินออกจากรถไฟไปบริเวณทางออก ก็จะเจอกับสถานที่ขายตั๋วลิฟท์สกี ทำให้เดินทางไป-กลับจากโตเกียวได้สะดวกมาก
  • ด้วยความที่ตั้งอยู่ใกล้กับโตเกียว จึงสามารถเดินทางไปเล่นสกีแบบไปเช้าเย็นกลับได้ หรือใครมีแพลนจะนอนพักที่เมืองยูซาว่าก็มีรีสอร์ทและที่พักให้เลือกอีกมากมายเช่นกัน
  • มีล็อกเกอร์เก็บของและกระเป๋า รวมทั้งมีให้เช่าอุปกรณ์และชุดสำหรับเล่นสกีและสโนบอร์ด สะดวกสำหรับมือใหม่เป็นอย่างยิ่ง
  • มีโรงเรียนสอนสกีทั้งแบบไพรเวทและแบบกลุ่ม และมีครูที่พูดภาษาอังกฤษและภาษาไทยได้ (บางท่าน)
  • มีร้านอาหารและบริเวณสำหรับวางอุปกรณ์เล่นสกี หิวเมื่อไรก็ถอดเก็บวาง ไปทานอาหารได้ และกลับมาเล่นต่อได้
  • มีหลายกิจกรรมให้เล่น ถ้าหากบางคนไม่อยากเล่นสกี แต่แค่อยากไปเล่นหิมะเฉย ๆ หรือเล่นถาดเลื่อน หรือชมวิวก็สามารถทำได้
  • บางฤดูกาล (โดยส่วนใหญ่) จะมีส่วนลดให้เพิ่มเติมหากแสดงบัตร Tokyo Wide Pass

การเดินทาง:

สามารถเดินทางจากโตเกียวไปยัง Gala Yuzawa Snow Resort ได้หลายวิธี วิธีที่ง่ายที่สุดคือรถไฟชินคันเซ็น จากสถานีโตเกียว ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นขบวน Joetsu Shinkansen ไปลงที่สถานี Gala Yuzawa Station (สถานีสุดท้ายปลายทาง) และสามารถเข้าสู่บริเวณที่ขายตั๋วลิฟท์สกี รวมทั้งร้านค้าและจุดเช่าอุปกรณ์สกีได้โดยตรงจากสถานี เรียกได้ว่าสะดวกเป็นอย่างยิ่งแม้ว่าจะไปเล่นสกีเป็นครั้งแรกก็ตาม

แผนที่: https://bit.ly/3QeJDid

คุณอาจสนใจ

ช่วงเวลา: ในการไปเล่นสกีและบอร์ดหิมะที่ Gala Yuzawa Snow Resort คือช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนเมษายนหรือเดือนพฤษภาคมขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละปี ในช่วงนี้หิมะจะตกหนาและอากาศจะหนาวเย็น เหมาะสำหรับการเล่นสกีและบอร์ดหิมะ

กิจกรรมที่ควรทำ: นอกจากการเล่นสกีและบอร์ดหิมะแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถทำได้ที่ Gala Yuzawa Snow Resort เช่น

  • เดินป่าในหิมะ
  • หิมะตก
  • พายเรือแคนูหรือคายัคในทะเลสาบ
  • เยี่ยมชมบ่อน้ำพุร้อน
  • ช้อปปิ้งที่ตลาด
  • รับประทานอาหารญี่ปุ่น

มีที่พักให้เลือกมากมายที่ Gala Yuzawa Snow Resort มีทั้งโรงแรม รีสอร์ท เกสต์เฮาส์ และโฮสเทล ที่พักส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้กับรีสอร์ท ทำให้สามารถเดินทางไปยังรีสอร์ทได้อย่างสะดวก

ที่พักใน Yuzawa: https://bit.ly/3MlMGUB

ราคา: ค่าใช้จ่ายในการเล่นสกีและบอร์ดหิมะที่ Gala Yuzawa Snow Resort แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับฤดูกาลและระยะเวลาที่เล่น โดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 10,000-15,000 เยนต่อวัน และบางช่วงก็สามารถใช้ตั๋ว Tokyo Wide Pass ในการรับส่วนลดต่าง ๆ ในการเช่าอุปกรณ์ได้อีกด้วย สามารถเช็กจากเว็บไซต์ทางการเพื่อตรวจสอบโปรโมชั่นของแต่ละปี

   

แนะนำ 7 ลานสกี ใกล้โตเกียว - เดินทางง่าย เล่นหิมะฟิน

2. Karuizawa Prince Hotel Ski Resort – จังหวัดนากาโน่

Karuizawa Prince Hotel Ski Resort เป็นอีกหนึ่งลานสกีใกล้โตเกียวที่ตั้งอยู่ในเมืองคารุอิซาว่า จังหวัดนางาโนะ เมืองตากอากาศของประเทศญี่ปุ่น รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นและมีชื่อเสียงในด้านสภาพหิมะที่มีคุณภาพสูง รีสอร์ทมีเส้นทางสกีและบอร์ดเดอร์สกีที่หลากหลาย เหมาะสำหรับทุกระดับประสบการณ์ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น โรงเรียนสอนสกี ลานสโนว์บอร์ด ร้านอาหาร และร้านค้า

โดยปกติจะเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคม-เดือนเมษายน รีสอร์ทแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ รีสอร์ทแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและพนักงานที่มีประสบการณ์ จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและสนุกสนานกับการเล่นสกีหรือบอร์ดเดอร์สกี

ข้อมูลการเดินทาง: Karuizawa Prince Hotel Ski Resort ตั้งอยู่ในเมืองคารุอิซาว่า จังหวัดนางาโนะ ประเทศญี่ปุ่น รีสอร์ทแห่งนี้สามารถเดินทางโดยรถไฟจากสถานีโตเกียวได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

ค่าเข้าชม: เริ่มต้นที่ 6,000 เยนสำหรับผู้ใหญ่และ 4,000 เยนสำหรับเด็ก

เวลาเปิดทำการ: เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 9:00 น. ถึง 16:00 น.

แผนที่: https://bit.ly/3QwMepc

ที่พักใน Karuizawa: https://bit.ly/40g3TEB

Karuizawa Prince Hotel Ski Resort มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น

  • เส้นทางสกีและบอร์ดเดอร์สกีที่หลากหลาย
  • โรงเรียนสอนสกี
  • ลานสโนว์บอร์ด
  • ร้านอาหาร
  • ร้านค้า
  • โรงแรม
  • ออนเซ็น

นอกจากการเล่นสกีและบอร์ดเดอร์สกีแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่ Karuizawa Prince Hotel Ski Resort เช่น

  • เดินป่า
  • ตกปลา
  • พายเรือแคนู
  • เยี่ยมชมหมู่บ้านคารุอิซาว่า
  • ช้อปปิ้ง
  • รับประทานอาหาร
  • ผ่อนคลายที่ออนเซ็น

ข้อควรระวัง

  • สภาพอากาศที่ Karuizawa Prince Hotel Ski Resort ค่อนข้างหนาวเย็น นักท่องเที่ยวควรเตรียมเสื้อผ้าที่หนาและอบอุ่น
  • รีสอร์ทแห่งนี้มีเส้นทางสกีและบอร์ดเดอร์สกีที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวควรเลือกเส้นทางที่เหมาะกับระดับประสบการณ์ของตน
  • รีสอร์ทแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย แต่นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านั้นเปิดให้บริการก่อนไป

Karuizawa Prince Hotel Snow Park

และอีกหนึ่งลานสกีใกล้โตเกียวที่ได้รับความนิยมที่อยู่ในจังหวัดนางาโน่ก็คือ Karuizawa Prince Hotel Snow Park เป็นลานสกีและสวนหิมะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในคารุอิซาวะ ประเทศญี่ปุ่น เช่นกัน ห่างจากโตเกียวโดยรถไฟประมาณหนึ่งชั่วโมง ลานสกีแห่งนี้มีสกีรีสอร์ตที่หลากหลายให้เลือกสรร ตั้งแต่สกีรีสอร์ตสำหรับมือใหม่ไปจนถึงสกีรีสอร์ตสำหรับมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายให้ทำในสวนหิมะ เช่น การเล่นสโนว์บอร์ด เลื่อนหิมะ เดินหิมะ และอีกมากมาย

เวลาทำการ

ฤดูสกีที่ Karuizawa Prince Hotel Snow Park เริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนเมษายน ในช่วงฤดูสกี ลานสกีแห่งนี้จะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 17.00 น.

ราคา

ราคาตั๋วเข้าลานสกี Karuizawa Prince Hotel Snow Park ขึ้นอยู่กับอายุและช่วงเวลาที่เดินทาง ผู้ใหญ่จะเสียค่าเข้าชม 5,000 เยนต่อวัน สำหรับเด็กที่มีอายุระหว่าง 6-12 ปีจะเสียค่าเข้าชม 2,500 เยนต่อวัน และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปีเข้าชมฟรี

วิธีการเดินทาง

Karuizawa Prince Hotel Snow Park สามารถเดินทางโดยรถไฟจากสถานีโตเกียวได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยรถไฟสาย JR Chuo Line จากนั้นเปลี่ยนเป็นรถไฟสาย JR Shinano Line ที่สถานี Naganohara-Ōmachi ลงที่สถานี Karuizawa Prince Hotel และเดินต่อไปประมาณ 10 นาที

Karuizawa Prince Hotel Snow Park มีกิจกรรมมากมายให้ทำในช่วงฤดูหนาว กิจกรรมที่ได้รับความนิยม ได้แก่

  • เล่นสกี
  • เล่นสโนว์บอร์ด
  • เลื่อนหิมะ
  • เดินหิมะ
  • นั่งรถลากเทียมสุนัข
  • ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ

มีโรงแรมและที่พักหลายแห่งให้เลือกสรร โรงแรมที่ได้รับความนิยม ได้แก่

ร้านอาหารหลายแห่งให้เลือกสรร ร้านอาหารที่ได้รับความนิยม ได้แก่

  • Karuizawa Prince Hotel Restaurant
  • Prince Karuizawa Resort Restaurant
  • The Westin Resort Karuizawa Restaurant
  • Mount Fuji Prince Hotel Restaurant

ข้อควรระวัง

  • สภาพอากาศในฤดูหนาวที่ Karuizawa Prince Hotel Snow Park ค่อนข้างหนาวเย็น นักท่องเที่ยวควรเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นให้พร้อม
  • ลานสกีแห่งนี้มีเส้นทางลาดชันหลายเส้นทาง นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบเส้นทางก่อนเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด
  • ลานสกีแห่งนี้มีหิมะตกค่อนข้างมาก นักท่องเที่ยวควรระมัดระวังการลื่นล้ม
 
 

แนะนำ 7 ลานสกี ใกล้โตเกียว - เดินทางง่าย เล่นหิมะฟิน

3. Zao Onsen Ski Resort – จังหวัดยามากาตะ

Zao Onsen Ski Resort เป็นอีกลานสกีใกล้โตเกียวยอดนิยม สามารถเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที โดยชินคันเซ็นไปถึงจังหวัดเซนไดและนั่งรถไฟต่อไปยังเมือง Zao Onsen ลานสกีแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดยามากาตะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการเล่นสกีและเที่ยวชม ‘Snow Monster‘ ปรากฏการณ์หิมะตกทับต้นไม้ที่ทับถมกันจนหนาและขาวโพลนมองดูคล้ายกับปีศาจหิมะจึงเป็นที่มาของชื่อนี้ คุณสามารถเล่นสกี เล่นหิมะกับปุยหิมะนุ่มฟูแบบ Snow Powder ได้ที่นี่ หรือเพียงแต่ชมวิวถ่ายรูปปีศาจหิมะเก๋ ๆ ก็ได้

นอกจากนี้ เมือง Zao Onsen ยังเป็นเมืองน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เมืองนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาล้อมรอบด้วยป่าไม้และภูเขา น้ำพุร้อนของ Zao Onsen อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมาย เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม และโซเดียม น้ำพุร้อนเหล่านี้มีสรรพคุณในการบำบัดโรคต่างๆ เช่น โรคผิวหนัง โรคข้ออักเสบ และโรคเกี่ยวกับระบบประสาท

ที่นี่มีบ่อน้ำพุร้อนมากกว่า 200 แห่ง บ่อน้ำพุร้อนเหล่านี้ตั้งอยู่ตามโรงแรม เรียวกัง และสถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง บ่อน้ำพุร้อนบางแห่งตั้งอยู่ในป่าไม้ท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม บ่อน้ำพุร้อนบางแห่งตั้งอยู่บนภูเขาและมีทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองและภูเขา

เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและบำบัดโรค เมืองนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม บ่อน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการแช่น้ำพุร้อน เดินป่าชมธรรมชาติ และเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างเต็มอิ่ม

การเดินทาง: ตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที สามารถเดินทางโดยรถไฟหรือรถบัสจากโตเกียวไปยังเมือง Sendai จากนั้นเดินทางต่อโดยรถไฟหรือรถบัสไปยังเมือง Zao Onsen

ที่พัก: Zao Onsen มีโรงแรม เรียวกัง และที่พักอื่นๆ มากมายให้เลือกสรร นักท่องเที่ยวสามารถเลือกที่พักที่เหมาะกับงบประมาณและความต้องการของตนเองได้

จองที่พักใน Zao Onsen: https://bit.ly/3tWuIBG

กิจกรรมที่สามารถทำได้ใน Zao Onsen

  • แช่น้ำพุร้อน
  • เดินป่าชมธรรมชาติ
  • เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของเมือง
  • ชิมอาหารญี่ปุ่น
  • ช้อปปิ้ง

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับเที่ยวชม Snow Monster ที่ Zao Onsen

ฤดูกาลของปีศาจหิมะเริ่มต้นในเดือนธันวาคม แต่ช่วงที่ดีที่สุดในการชมคือช่วงปลายเดือนมกราคมจนถึงต้นเดือนมีนาคม โดย Snow Monster จะใหญ่ที่สุดในช่วงระหว่างกลางเดือนกุมภาพันธ์

นอกจากนี้ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) ยังเป็นอีกช่วงที่นิยมเที่ยวแช่บ่อน้ำพุร้อนที่ Zao Onsen … โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิเมืองจะเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเมืองจะเต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม

เที่ยวสวนลิงหิมะ Zao Jigokudani Monkey Park

และอีกหนึ่งที่ยอดนิยมเมื่อไปเที่ยว Zao Onsen Ski Resort ก็ยังมี Zao Jigokudani Monkey Park หรือที่รู้จักกันในชื่อ Snow Monkey Park เป็นสวนลิงชื่อดังที่ตั้งอยู่ในหุบเขาลึกของภูเขา Zao ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น สวนแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของลิงญี่ปุ่นหรือลิงหิมะจำนวนกว่า 150 ตัว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในการแช่ตัวในน้ำพุร้อนธรรมชาติเพื่อคลายหนาว

ก่อตั้งขึ้นในปี 1964 โดยนายชินจิ ซูซูกิ

นักสัตววิทยา ชาวญี่ปุ่น ที่ต้องการให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสกับวิถีชีวิตของลิงญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ลิงญี่ปุ่นเป็นสัตว์ที่ปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดี โดยพวกมันจะห่มตัวด้วยขนหนาเพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกาย ในช่วงฤดูหนาว ลิงญี่ปุ่นจะลงมาแช่ตัวในน้ำพุร้อนธรรมชาติเพื่อคลายหนาว ซึ่งถือเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจและหาชมได้ยาก

สวนลิงจิโกคุดานิตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Zao-Kogen ห่างจากเมืองนากาโนะประมาณ 100 กิโลเมตร การเดินทางจากนากาโนะไปยังสวนลิงจิโกคุดานิสามารถทำได้โดยรถไฟหรือรถบัส ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

วันทำการ: เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึง 16.00 น. ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่คือ 800 เยน และสำหรับเด็กคือ 400 เยน

เมื่อมาถึงสวนลิงจิโกคุดานิ จะต้องเดินเท้าประมาณ 10 นาทีเพื่อไปยังจุดชมลิง ลิงญี่ปุ่นจะอาศัยอยู่ในพื้นที่กว้างขวาง จึงมีโอกาสได้เห็นลิงญี่ปุ่นมากมายหลายตัว นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารลิงญี่ปุ่นได้ แต่ควรให้อาหารลิงญี่ปุ่นที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้เท่านั้น ไม่ควรให้อาหารลิงญี่ปุ่นด้วยอาหารของตัวเอง เพราะอาจทำให้ลิงญี่ปุ่นเกิดอาการป่วยได้

 
 

แนะนำ 7 ลานสกี ใกล้โตเกียว - เดินทางง่าย เล่นหิมะฟิน

4. Fujiten Snow Resort – จังหวัดยามานาชิ

สำหรับคนที่มีแพลนอยากไปเที่ยวโตเกียวในหน้าหนาวและอยากเที่ยวเมืองใกล้ ๆ หรือไปเล่นสกี เราก็มีลานสกีของ Fujiten Snow Resort มาแนะนำ เพราะที่นี่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่เล่นสกีใกล้โตเกียว เล่นสโนว์บอร์ด หรือจะเล่นหิมะถาดเลื่อนอย่างเดียวก็ได้ แถมยังมีวิวสวย ๆ เป็นวิวภูเขาไฟฟูจิอยู่ด้านหลัง สามารถถ่ายรูปฟิน ๆ ได้เลย

Fujiten Snow Resort เป็นสกีรีสอร์ทขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณฐานตอนเหนือของภูเขาไฟฟูจิ ตั้งอยู่ในทำเลภูมิภาคของทะเลสาบทั้งห้าของฟูจิ ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นดี เรียกได้ว่าเป็นที่เล่นสกีที่น่าสนใจสำหรับคนที่แพลนอยากไปเล่นสกีที่ญี่ปุ่นสักครั้งในชีวิตเลยค่ะ

พูดถึงลานสกีของที่นี่ จะมีเส้นทางหลักสองเส้นทางสำหรับผู้เล่นสกีมือใหม่ ขนาด 1,300 เมตร และ 500 เมตร และยังมีเส้นทางสูงชันสำหรับนักสกีขั้นสูง พร้อมลานสกีและทางกระโดด ราง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดึงดูดนักเล่นสกีและสโนว์บอร์ดให้มาเล่นที่นี่ ในส่วนของอุปกรณ์เล่นสกีก็มีทั้งขายและให้เช่า เพียงแค่ขับรถไปถึงที่ Fujiten Snow Resort ก็จะเจอกับทางเข้าและแผนกต้อนรับ ขั้นตอนสะดวก ง่ายดาย

Fujiten Snow Resort ยังมีบริเวณพื้นที่เล่นหิมะขนาดใหญ่สำหรับเด็ก ๆ และครอบครัว สามารถเช่าเลื่อนหิมะ รวมทั้งเรียนรู้วิธีการเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด หรือแค่เล่นบนหิมะก็ได้ ค่าเข้าบริเวณที่เล่นหิมะสำหรับเด็กจะอยู่ที่ประมาณ 800 เยนต่อคน แต่ฟรีสำหรับผู้ถือบัตรผ่านลิฟต์แบบเต็มวัน กิจกรรมบางอย่างจำเป็นต้องเช่าหรือจ่ายค่าธรรมเนียมแยกต่างหากในการเข้าร่วม

ที่พักในคาวากูจิโกะ: https://bit.ly/3Si2iMB

เกี่ยวกับ Fujiten Snow Resort

ฟูจิเท็นเป็นรีสอร์ทหิมะขนาดเล็กบริเวณตีนภูเขาไฟฟูจิ แม้ว่ารีสอร์ทจะเล็ก แต่รีสอร์ทก็มีทางลาดให้เลือกมากมาย และมีลานสกีขนาดใหญ่สำหรับเด็กด้วย

ช่วงเวลาที่เปิด: กลางเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนเมษายน (ปี 2565 เปิดตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2565)

* วันที่เปิด Season ให้เข้าเล่น อาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากไม่มีหิมะ โปรดตรวจสอบก่อนไป

ราคาตั๋วลิฟต์สกี

  • เต็มวัน: 4,000 เยน (5,000 เยนในวันหยุดสุดสัปดาห์)
  • ครึ่งวัน: 3,000 เยน (วันหยุดสุดสัปดาห์ 4,000 เยน)
  • กลางคืน: 2,500 เยน (เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

การเดินทาง

เดินทางด้วยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจากสถานีคาวากุจิโกะ

การนั่งแท็กซี่ปกติจากสถานีคาวากุจิโกะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 เยนต่อเที่ยว ในช่วงฤดูเล่นสกีส่วนใหญ่ (25 ธันวาคม 2021 ถึง 3 เมษายน 2022) Fujiten Ski Taxi มีราคา 12,000 เยน สำหรับการเดินทางไปกลับต่อแท็กซี่ 1 คัน และอนุญาตให้ผู้ขับขี่ซื้อบัตรผ่านลิฟต์ 1 วันเพื่อรับส่วนลด 4,000 เยน อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องจอง Fujiten Ski Taxi ล่วงหน้าอย่างน้อยสองวัน ไม่มีรถประจำทางวิ่งไปสกีรีสอร์ท Fujiten ในปี 2022/2023

   

แนะนำ 7 ลานสกี ใกล้โตเกียว - เดินทางง่าย เล่นหิมะฟิน

5. Ishiuchi Maruyama Ski Resort – จังหวัดนีงาตะ

เริ่มต้นกันที่ “Ishiuchi Maruyama Ski Resort” ลานสกีและสโนว์บอร์ดชื่อดังที่อยู่ใกล้โตเกียว เดินทางได้อย่างง่ายดายภายในระยะเวลาประมาณ 90 นาทีเพียงเท่านั้น นี่คือรีสอร์ตที่มีจุดเด่นในด้านของวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม พร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย แม้คุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งหัดเล่นสกีที่ญี่ปุ่น ก็มีพื้นที่ดี ๆ สำหรับเหล่ามือใหม่เอาไว้ให้บริการ และที่ขาดไปไม่ได้คือบริการสอนเล่นสกี รวมไปถึงการให้เช่าอุปกรณ์ต่าง ๆ แบบครบวงจรในที่เดียว กิจกรรมสุดพิเศษของที่นี่ คือการเล่นสกีพร้อมกับชมความสวยงาม ของท้องฟ้าจังหวัดนีงาตะในยามค่ำคืน ซึ่งตลอดทั้งเส้นทางมีแสงส่องสว่าง และการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

  • แนะนำการเดินทาง : การเดินทางแนะนำให้ขึ้นรถไฟในเส้นทาง “โจเอ็ตสึชินคันเซ็น” จากโตเกียว เพื่อไปลงยังสถานี “เอจิโกะ-ยุซาวะ” จากนั้นเดินทางต่อด้วยรถบัส หรือ รถแท็กซี่
  • แนะนำประเภทบัตร JR PASS : แนะนำให้ใช้บัตร JR Tokyo Wide Pass

   

แนะนำ 7 ลานสกี ใกล้โตเกียว - เดินทางง่าย เล่นหิมะฟิน

6. Naeba Ski Resort – จังหวัดนีงาตะ

“Naeba Ski Resort” เป็นอีกหนึ่งสกีรีสอร์ตชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น ได้รับการกล่าวว่าเป็นลานสกีใกล้โตเกียวที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก มีสนามให้เลือกเล่นมากกว่า 20 สนาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการเล่นสกีครบครัน สามารถเล่นสกีในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้วได้ นอกจากเป็นสถานที่เล่นสกีใกล้โตเกียวแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “Naeba Dragondola” กระเช้าลอยฟ้าที่มีระยะทางยาวที่สุดในญี่ปุ่น พร้อมด้วยที่พัก และ บ่อออนเซ็นที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แม้จะไม่ใช้ช่วงเวลาของการเล่นสกีก็ตาม

  • แนะนำการเดินทาง : เดินทางออกจากโตเกียวด้วยรถไฟความเร็วสูงในเส้นทาง “โจเอ็ตสึชินคันเซ็น” ลงที่สถานี “เอจิโกะ-ยูซาวะ” จากนั้นนั่งรถบัสต่ออีกประมาณ 50 นาที ก็จะเดินทางมาถึงรีสอร์ต
  • ประเภทบัตร JR PASS : แนะนำให้ใช้บัตร JR Tokyo Wide Pass

   

แนะนำ 7 ลานสกี ใกล้โตเกียว - เดินทางง่าย เล่นหิมะฟิน

7. Kagura Ski Resort – จังหวัดนีงาตะ

สำหรับผู้ที่ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับการเล่นสกีที่ญี่ปุ่น หากได้เจอข้อมูลเกี่ยวกับ “ภูเขานาเอบะ” อีกหนึ่งชื่อที่ค้นหาเจอก็จะเป็น “Kagura Ski Resort” ซึ่งอยู่ติดกันสามารถเดินทางได้ผ่านกระเช้าลอยฟ้า “Naeba Dragondola” เป็นลานสกีใกล้โตเกียว ที่โดดเด่นในด้านของคุณภาพของหิมะ เพราะว่ากันว่าหิมะของที่นี่นั้นนุ่มนวลกว่าที่อื่น ๆ มีเส้นทางลาดเอียงสำหรับการเล่นสกีที่หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือ มืออาชีพ ก็สามารถเล่นสกีอย่างตื่นเต้นเร้าใจได้ในรีสอร์ตแห่งนี้ และที่ขาดไปไม่ได้คืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มีให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ

  • แนะนำการเดินทาง : เดินทางจากโตเกียวด้วย “โจเอ็ตสึชินคันเซ็น” ลงที่สถานี “เอจิโกะ-ยูซาวะ” จากนั้นนั่งรถบัส หรือ จะเดินทางจากเขาเอบะด้วยกระเช้าลอยฟ้าเส้นทางที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่นก็ได้เช่นกัน
  • แนะนำประเภทบัตร JR PASS : แนะนำให้ใช้บัตร JR Tokyo Wide Pass

   

แนะนำ 7 ลานสกี ใกล้โตเกียว - เดินทางง่าย เล่นหิมะฟิน

8. Hakuba – จังหวัดนากาโน่

ปิดท้ายลานสกีใกล้โตเกียวที่เราภูมิใจนำเสนอด้วย “หุบเขา Hakuba” ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านของการเป็นสถานที่เล่นสกีใกล้โตเกียวที่ดีอันดับต้น ๆ เพราะได้รับการแข่งขันใหญ่ ๆ อยู่หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็น การจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในช่วงปี ค.ศ. 1998 จุดเด่นที่เห็นได้ชัดที่สุด จะเป็นในเรื่องของคุณภาพของหิมะที่ถูกเรียกว่า “พาวเดอร์สโนว์” ซึ่งมีความนุ่มละเอียด ภายในหุบเขานั้นมีรีสอร์ตกว่า 10 แห่ง เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีเส้นทางการเล่นสกีที่โดดเด่น ผู้เล่นที่อยากท้าทายความสามารถด้านการเล่นสกีของตนเอง มักจะเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้เป็นจำนวนมากในทุก ๆ ปี แต่อย่างไรก็ตามยังมีพื้นที่สำหรับผู้เล่นมือใหม่เช่นเดียวกัน

  • แนะนำการเดินทาง : นั่งชินคันเซ็นจากโตเกียวไปลงที่สถานี “นากาโนะ” ด้วยระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นนั่งรถบัสต่อมาที่หุบเขาฮาคุบะ
  • แนะนำประเภทบัตร JR PASS : แนะนำให้ใช้บัตร JR East Pass สำหรับนากาโนะและนีงาตะ ราคาเริ่มต้น 6,382 บาท
 
 

หลังจากทำความรู้จักกับ 8 ลานสกีใกล้โตเกียวกันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าในทุก ๆ การเดินทางเรามีการแนะนำ JR Pass (Japan Rail Pass) ซึ่งเป็นบัตรสำหรับจ่ายค่าเดินทางด้วยรถไฟในประเทศญี่ปุ่น อาจใช้คำที่เข้าใจง่ายที่สุดคือ “การจ่ายแบบเหมา” ซื้อเพียงครั้งเดียวสามารถเดินทางได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปได้เยอะเลยทีเดียว หากคุณอยากเดินทางมาเล่นสกีที่ญี่ปุ่น เราแนะนำให้เลือกซื้อ JR Pass ในแบบที่คุณชื่นชอบเอาไว้สักใบ รับรองว่าช่วยให้การเดินทางสะดวกมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าอย่างแน่นอน



The post แนะนำ 8 ลานสกีใกล้โตเกียว แหล่งท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์ตรีมของประเทศญี่ปุ่น appeared first on TravelDiDi.

]]>
https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b9%82%e0%b8%95%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7/feed/ 0
Gala Yuzawa เปิดเดือนไหน 2023 – 2024 | รู้ก่อนไปเที่ยว กาล่า ยูซาว่า https://traveldidi.com/travel/japan/gala-yuzawa-2023-2024/ https://traveldidi.com/travel/japan/gala-yuzawa-2023-2024/#respond Wed, 18 Oct 2023 03:55:20 +0000 https://traveldidi.com/?p=7575 เมื่อเข้าสู่เดือนธันวาคมของแต่ละปี นักท่องเที่ยวและชาวญ […]

The post Gala Yuzawa เปิดเดือนไหน 2023 – 2024 | รู้ก่อนไปเที่ยว กาล่า ยูซาว่า appeared first on TravelDiDi.

]]>
เมื่อเข้าสู่เดือนธันวาคมของแต่ละปี นักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นมักจะรอคอยถึงการเปิด Gala Yuzawa Snow Resort ให้เข้าไปเล่นหิมะ กิจกรรมฤดูหนาว สโนว์บอร์ด สกี และถาดเลื่อน ในบทความนี้ TravelDiDi.com พาคุณมาเช็กว่าGala Yuzawa เปิดเดือนไหน‘ ในปี 2023 และ 2024 รวมทั้งวิธีการเดินทางจากโตเกียว และข้อควรรู้อื่น ๆ ก่อนไปเที่ยวกาล่ายูซาว่า มาติดตามกันได้เลยค่ะ

ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi

 

Gala Yuzawa เปิดเดือนไหน 2023 - 2024 | รู้ก่อนไปเที่ยว กาล่า ยูซาว่า
Gala Yuzawa เปิดเดือนไหน 2023 – 2024 | รู้ก่อนไปเที่ยว กาล่า ยูซาว่า

Gala Yuzawa คืออะไร น่าเที่ยวไหม

GALA Yuzawa ตั้งอยู่ในเมืองยูซาว่า จังหวัดนีงาตะ เป็นสถานที่ที่นักสกีทั้งมือใหม่และระดับ Advance สามารถเพลิดเพลินกับการเล่นสกีและสโนบอร์ดได้อย่างเต็มที่ รีสอร์ทแห่งนี้เป็นของ JR-Group (the Japan Railway Group) และด้วยความที่ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 77 นาทีด้วยรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวมาจังสถานีของรีสอร์ทซึ่งอยู่ห่างจากเมือง Echigo Yuzawa เพียงไม่กี่ไมล์ และสามารถเดินทางโดยใช้บัตรโดยสารรถไฟ TOKYO WIDE PASS ได้ จึงทำให้สถานที่แห่งนี้ กลายเป็นที่เที่ยวใกล้โตเกียวยอดนิยมในฤดูหนาว

เมืองยูซาว่ารายล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น มีชื่อเสียงด้านทิวทัศน์ที่สวยงาม มีสกีรีสอร์ทยอดนิยม และน้ำพุร้อนเช่นกัน จึงเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวใกล้โตเกียวที่น่าไปเที่ยวในฤดูหนาว แม้ว่าคุณจะไม่เล่นกีฬาฤดูหนาวอย่างสกี แต่แค่เพียงได้ไปชมวิวทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์และวิวหิมะที่ปกคลุมพื้นที่จนเป็นสีขาวก็ถือว่าคุ้มค่าแก่การมาเยือน

Gala Yuzawa เปิดเดือนไหน 2023 - 2024 | รู้ก่อนไปเที่ยว กาล่า ยูซาว่า

Gala Yuzawa เปิดเดือนไหน 2023

สำหรับซีซั่น 2023/2024 ทาง GALA Yuzawa Snow Resort ได้ประกาศว่าจะเปิดทำการในวันที่ 16 ธันวาคม 2023 เป็นต้นไป ซึ่งหากหิมะตกเร็วก็จะไม่มีการเปลี่ยนกำหนดการ แต่หากหิมะตกช้ากว่าปกติก็จะมีการเลื่อนวันเปิด ซึ่งทางรีสอร์ทจะคอนเฟิร์มอีกครั้ง 2 วันล่วงหน้าก่อนกำหนดการณ์ค่ะ

Gala Yuzawa เปิดเดือนไหน 2024

โดยปกติ Gala Yuzawa จะเปิดถึงประมาณกลางเดือนเมษายนหรือจนถึงประมาณต้นเดือนพฤษภาคมขึ้นอยู่กับปริมาณหิมะในแต่ละปี สำหรับ Season ปี 2023/2024 นี้ ทาง Gala Yuzawa Snow Resort ได้ประกาศวันเปิดทำการณ์วันแรกของซีซั่นนี้เป็นวันที่ 16 ธันวาคม 2023 แต่หากหิมะตกช้าหรือตกน้อยกว่าปกติก็จะเลื่อนวันเปิด โดยจะยืนยันให้ทราบอีกครั้ง 2 วันล่วงหน้าก่อนกำหนดค่ะ

Gala Yuzawa เปิดเดือนไหน 2023 - 2024 | รู้ก่อนไปเที่ยว กาล่า ยูซาว่า

Gala Yuzawa มีหิมะถึงเดือนไหน

โดยปกติ Gala Yuzawa Snow Resort จะมีหิมะให้เล่นกิจกรรมได้ถึงประมาณช่วงเดือนเมษายน โดยบางปีอาจยาวนานไปถึงต้นเดือนพฤษภาคม จึงควรเช็กวันเปิดทำการจากเว็บไซต์ทางการทุกครั้งก่อนเดินทาง

จาก Ueno ไป Gala Yuzawa เดินทางยังไง

จาก Ueno Station และ Tokyo Station คุณสามารถเดินทางไป Gala Yuzawa Snow Resort ได้ด้วยการนั่งรถไฟชินคันเซ็น Joetsu Shinkansen Tanigawa ตรงไปยังสถานี Gala Yuzawa Station (สุดสาย) ซึ่งมีบริการประมาณ 12 รอบต่อวัน และสามารถใช้บัตร Tokyo Wide Pass ในการเดินทางได้

   

เล่นสกี หิมะ สโนว์บอร์ดที่ Gala Yuzawa มีค่าใช้จ่ายเท่าไร

สำหรับซีซั่น 2022/2023 คุณสามารถอ่านรีวิว เล่นสกีที่ Gala Yuzawa พร้อมค่าใช้จ่ายได้ที่ 


ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi


The post Gala Yuzawa เปิดเดือนไหน 2023 – 2024 | รู้ก่อนไปเที่ยว กาล่า ยูซาว่า appeared first on TravelDiDi.

]]>
https://traveldidi.com/travel/japan/gala-yuzawa-2023-2024/feed/ 0
Top 6 ที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว 2024 https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%ae%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%94-%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%ab-2/ https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%ae%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%94-%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%ab-2/#respond Sat, 30 Sep 2023 03:21:18 +0000 https://traveldidi.com/?p=7429 สารบัญเนื้อหา TravelDiDi ถือโอกาสนี้รวบรวมมาให้ กับ 6 ท […]

The post Top 6 ที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว 2024 appeared first on TravelDiDi.

]]>

สารบัญเนื้อหา

TravelDiDi ถือโอกาสนี้รวบรวมมาให้ กับ 6 ที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว ที่มีทั้งเทศกาลหิมะกับความน่าประทับใจของประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งเทศกาลหิมะและแสงไฟต่าง ๆ ในโอตารุและรอบเกาะฮอกไกโด! นับว่าเป็นเป้าหมายสำคัญอีกแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวยอมรับและวางแผนไปตะลุยดินแดนอาทิตย์อุทัย ใครวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นหน้าหนาวนี้ไม่ควรพลาด

ฮอกไกโด อีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นจุดเช็คอินน่าสนใจ พร้อมอากาศราวๆ -4 องศา เทศกาลหิมะขาวโพลนเตรียมตัวชุดกันให้ดี เสื้อกันหนาวหิมะต้องพร้อม ไม่งั้นทนหนาวไม่ได้แน่ๆ มาดูที่เที่ยวกันเลย

ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi

Top 5 ที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว 2024

#1 เทศกาลหิมะ ฮอกไกโด 2024 (Sapporo Snow Festival 2024)

เริ่มกันที่ ‘เทศกาลหิมะซัปโปโร’ ซึ่งเป็นไฮไลท์ ‘ที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว’ ที่ทุกคนรอคอ! ที่จัดขึ้นทุกปีเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยในปี 2024 นี้ เทศกาลหิมะซัปโปโร ตรงกับ วันที่ 4-11 กุมภาพันธ์ 2024มาพร้อมความพิเศษทั้งผลงานและการแกะสลักหิมะที่มีการแข่งขันแบบนานาชาติ เรียกได้ว่าตื่นเต้นและน่าสนใจไปพร้อมกับประติมากรรมน้ำแข็งสุดตระการตา ละลานไปด้วยอาหารแสนอร่อยอีกเพียบ จัดภายใน 3 สถานที่หลัก ได้แก่ Odori Park, Tsudome และ Susukino เป็นไฮไลท์การท่องเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาวที่ไม่ควรพลาด

เทศกาลหิมะซัปโปโรจัดที่ไหนบ้าง

สวนโอโดริ (Odori Park)

สวนโอโดริ เป็นสถานที่หลักในการจัดงานเทศกาลหิมะซัปโปโร ที่นี่ คุณจะได้พบกับประติมากรรมหิมะและน้ำแข็งไฮไลท์เกือบทั้งหมด รวมทั้งมีการจัดงาน ซุ้มขายเครื่องดื่มอุ่น ๆ และอาหารมากมาย โดยรวมประติมากรรมน้ำแข็งจะมีความสูงถึงประมาณ 15 เมตร และกว้างถึง 25 เมตร

แผนที่: https://bit.ly/3rwzOnz

สึโดเมะ (Tsudome)

สีโดเมะ เป็นไฮไลท์สถานที่จัดงานเทศกาลหิมะซัปโปโรที่ใหญ่เป็นอันดับสอง จะเปิดให้เข้าชมในปี 2567 นี้ โดยรวมที่นี่จะเต็มไปด้วยหิมะฟูฟู และกิจกรรมมากมาย เช่น สไลเดอร์หิมะ, ล่องแพหิมะ และกิจกรรมสำหรับครอบครัว

แผนที่: https://bit.ly/3Q2uYrK

ซูซูกิโนะ (Susukino)

ที่ซูซูกิโนะ เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหิมะซัปโปโรที่เล็กที่สุดในสามที่ แต่คุณยังสามารถพบกับประติมากรรมน้ำแข็งประมาณ 100 ชิ้น! และเป็นสถานที่ที่ใช้ในการจัดประกวดประติมากรรมน้ำแข็งอีกด้วยค่ะ

แผนที่: https://bit.ly/3F1aQQa

<<ค้นหาที่พักในซัปโปโร เรทดีที่สุด>>

สภาพอากาศ

  • สูง: -4 เซลเซียส
  • ต่ำ: -11 เซลเซียส

เทศกาลหิมะซัปโปโร 2024 ตรงกับวันไหน

วันที่ : เทศกาลหิมะ ฮอกไกโด 2024 จัดตรงกับวันที่ 4-11 กุมภาพันธ์ 2024

ค่าเข้าชม : ไม่มี

เวลาเปิด-ปิด : 08.30 – 22.30 น.

วิธีการเดินทาง เทศกาลหิมะซัปโปโร

  • เดินเท้า 330 เมตร จากสถานี Bus Center-Mae Station | รถไฟ Tozai Line (T10)
  • เดินเท้า 348 เมตร จากสถานี Odori Station | รถไฟสาย Namboku Line (N7), Tozai Line (T9), Toho Line (H8)
  • เดินเท้า 0.6 กิโลเมตร จากสถานี Susukino Station | รถไฟสาย Namboku Line (N8)

หมายเหตุ: ผู้จัดงานอาจยกเลิกกิจกรรม เปลี่ยนแปลงตารางเวลา หรือเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการเข้าชมงานโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า จึงควรตรวจสอบเว็บไซต์ทางการของผู้จัดก่อนเดินทางไปร่วมงานทุกครั้ง

Top 5 ที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว 2024

#2 Chitose Lake Shikotsu Ice Festival

อีกหนึ่งไฮไลท์ ที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ‘เทศกาลเฮียวโด’ จัดขึ้นที่ ทะเลสาบชิโคสึ ชิโตเซะ ระหว่าง วันที่ 27 มกราคม – 25 กุมภาพันธ์ 2024 โดดเด่นด้วยการมีงานประติมากรรมน้ำแข็งซึ่งใช้น้ำจากทะเลสาบแห่งนี้เพราะขึ้นชื่อเรื่องความใสสะอาด มาพร้อมกับกิจกรรมเล่นสไลเดอร์น้ำแข็ง ลานสเก็ต ยิ่งถ้าวันสุดสัปดาห์จะจุดดอกไม้ไฟเพิ่มแสง สี เสียง ให้งดงามยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย นำความมหัศจรรย์หลากสีสันมาสู่เกาะฮอกไกโด

งานเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 20.00 น. ทุกวัน แต่การประดับไฟจะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.30 น. ค่าเข้าชมอยู่ที่ 500 เยน

วันที่: 27 มกราคม – 25 กุมภาพันธ์ 2024

ค่าเข้าชม : 500 JPY

เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 20.00 น. (เปิดไฟ 16:30 น.)

แผนที่: https://bit.ly/3Q0NW1U

วิธีการเดินทาง ไป Chitose Lake Shikotsu Ice Festival มี 3 วิธี ดังนี้

  1. คุณสามารถเดินทางไปยังเทศกาลน้ำแข็งทะเลสาบชิคตสึได้ภายในเวลาประมาณ 40 นาที โดยรถแท็กซี่จากสนามบินชิโตเสะแห่งซัปโปโร
  2. มีบริการรถบัสจากสนามบินในราคา 1,050 เยน ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากว่าแท็กซี่อย่างแน่นอน (ประมาณ 7,000 เยน!) และใช้เวลาเดินทางนานกว่าเล็กน้อยเพียงประมาณ 55 นาที
  3. ขึ้นรถบัสสาย Lake Shikotsu Line หรือ นั่งรถบัสสาย Metro Line จากสถานี Sapporo Station ไปลงที่ป้าย Marukoma Onsen แล้วโบกแท็กซี่ไปส่งต่อที่ทะเลสาบ Lake Shikotsu

<<ค้นหาที่พักในซัปโปโร เรทดีที่สุด>>


Top 5 ที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว 2024

#3 Otaru Snow Light Path Festival

อลังการ โรแมนติก และอบอุ่นใจ กับที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว ในเมืองโอตารุ! ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ตรงกับหน้าวหนาวของทุก ๆ ปี ที่โอตารุจะมีการจัดเทศกาล Otaru Snow Light Path Festival 2024 (小樽雪あかりの路 อ่านว่า ‘โอตารุ ยูกิ อาคาริ โนะ มิจิ’) ปี 2024 นี้ จัดตรงกับวันที่ 10-17 กุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งในระหว่างนั้นในเมืองจะถูกตกแต่งด้วยแสงไฟและรูปปั้นหิมะขนาดเล็ก โดยปกติเทศกาลนี้มักจะจัดขึ้นในเวลาเดียวกันกับเทศกาลหิมะซัปโปโรที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้นักท่องเที่ยวในฮอกไกโดสามารถเที่ยวชมทั้งสองเทศกาลได้ในทริปเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ควรเช็กวันที่และรายละเอียดจากเว็บไซต์ทางการเสมอเผื่อมีการเปลี่ยนแปลง

เทศกาลเส้นทางแสงหิมะโอตารุ (Otaru Snow Light Path Festival) เป็นประเพณีในฤดูหนาวในเมืองท่าโอตารถ ที่ถนนต่าง ๆ โคมไฟที่ส่องประกายระยิบระยับ อบอุ่น โรแมนติก ทำให้เกิดบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์ในฤดูหนาว

วันที่จัดกิจกรรม: 10 – 17 กุมภาพันธ์ 2567

สถานที่จัดงาน

  • คลองโอตารุ (Otaru canal)
  • ทางรถไฟสายเทมิยะเก่า (Old Temiya Line)
  • อาซาริกาวะออนเซ็น (Asarigawa Onsen)
  • และสถานที่อื่น ๆ ในเมือง

แผนที่: https://bit.ly/3Q0NPU2

<<ค้นหาที่พักในโอตารุ เรทดีที่สุด!!>>

Top 5 ที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว 2024

#4 Shirogane Blue Pond

สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กอันดับต้น ๆ ของฮอกไกโดที่ไม่ควรพลาดในหน้าหนาวบ่อน้ำสีฟ้าชิโรงาเนะ’ จุดชมธรรมชาติอันลึกลับ ที่ต้องไปชมให้ได้สักครั้งในชีวิต … ในช่วงฤดูหนาว บ่อน้ำนี้จะเต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพลนตัดกับสีฟ้าของน้ำ เพิ่มความน่าหลงใหล ซึ่งในยามค่ำคืนจะมีการประดับไฟให้ได้ชมกันอีกด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว 2024 ที่พลาดไม่ได้อีกแห่ง!

เวลาเปิด-ปิด : ตลอด 24 ชม.

วิธีเดินทาง

  • นั่งรถไฟ JR จากสถานี Sapporo Station ลงสถานี Asahikawa แล้วขึ้นรถบัส Dohoku Bus ลงที่ป้าย Shirogane Blue Pond
  • สามารถเรียกรถแท็กซี่จากสถานี Asahikawa ได้เช่นกัน หรือ เดินทางด้วยรถยนต์

แผนที่: https://bit.ly/3PZmIbO


Top 6 ที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว 2024

Copyright © 2012–2018 十勝観光連盟

#5 Lake Shikaribetsu Kotan

อีกหนึ่งที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบหิมะ! ทะเลสาบชิคาริเบ็ตสึ โคตัน (しかりべつ湖コタン) เป็นเทศกาลฤดูหนาวประจำปีที่ทะเลสาบชิคาริเบ็ตสึ ในเมืองชิคาโออิ ใจกลางเกาะฮอกไกโด เทศกาลนี้จัดขึ้นบนทะเลสาบซึ่งกลายเป็นน้ำแข็งในช่วงฤดูหนาว หมู่บ้านเอสกิโม และบริเวณโดยรอบก็เต็มไปด้วยหิมะ

เทศกาลนี้ประกอบด้วยหมู่บ้านที่สร้างด้วยหิมะและน้ำแข็ง พร้อมด้วยกระท่อมน้ำแข็ง บาร์ ห้องแสดงคอนเสิร์ต ห้องอาบน้ำออนเซ็นแบบเปิดโล่ง ซึ่งจะปรากฏเพียง 2 เดือนเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเชิงปฏิบัติมากมาย เช่น การทำแก้วน้ำแข็ง การแกะสลักน้ำแข็ง รถเลื่อนหิมะ การเดินข้ามประเทศ และอื่นๆ

แผนที่: https://bit.ly/3RG2OUo

วันที่: รอการประกาศอย่างเป็นทางการ

ค่าธรรมเนียม: 500 เยน

<<ค้นหาที่พักในซัปโปโร เรทดีที่สุด!!>>

Top 6 ที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว 2024

#6 Hoshino Resort Tomamu Ice Village

ดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวในฝันที่สร้างจากน้ำแข็งและหิมะ หมู่บ้านน้ำแข็ง “Ice Village (アイスヴジレッジ)” จะเปิดตัวที่ Hoshino Resort Tomamu ในฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว จะมีกิจกรรมหิมะและน้ำแข็งและความบันเทิงมากมายให้กับผู้เข้าชม รวมถึง Ice Bar, Ice Church, ลานสเก็ตน้ำแข็ง, Ice Hotel และอีกมากมาย หมู่บ้านหิมะเปิดให้เข้าชมโดยเสียค่าเข้าชม 500 เยน

แผนที่: https://bit.ly/3RLagh5

วันที่: 10 ธันวาคม 2023 ถึง 14 มีนาคม 2024

เวลาทำการ: 17:00~22:00 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 21:30 น.)

<<จองที่พักใกล้ Hoshino Resort Tomamu เรทดีที่สุด!!>>


▽ ลองเที่ยวกับทัวร์ ▽

The post Top 6 ที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว 2024 appeared first on TravelDiDi.

]]>
https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%ae%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%94-%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%ab-2/feed/ 0
แจกพิกัด 7 ที่เที่ยว ฮอกไกโด หน้าหนาวไปไหนดี https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%ae%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%94-%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%99/ https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%ae%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%94-%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%99/#respond Thu, 10 Aug 2023 10:12:37 +0000 https://traveldidi.com/?p=6859 อยู่ไทยเจออากาศร้อนทั้งปี งั้นไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน หนีไปห […]

The post แจกพิกัด 7 ที่เที่ยว ฮอกไกโด หน้าหนาวไปไหนดี appeared first on TravelDiDi.

]]>
อยู่ไทยเจออากาศร้อนทั้งปี งั้นไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน หนีไปหนาว ที่ ฮอกไกโด เหมาะสำหรับการไปเที่ยวหน้าหนาวเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญในช่วงฤดูหนาวก็จะมีหิมะ ขาวๆ ฟูๆ อยู่ทั่วพื้นที่ทั้งเกาะฮอกไกโด ไปง่าย ไม่ต้องขอวีซ่า แถมยังไม่ลำบากในการเดินทางไปไหนมาไหน เป็นหนึ่งเกาะในญี่ปุ่นที่พร้อม ทั้งเรื่องกิน เรื่องเที่ยว และแม้กระทั่งเรื่องช้อป แต่จะไปที่เมืองไหนบ้าง เราคัดมาให้แล้ว กับ 7 ที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว น่าไป มาดูกันเลยว่าจะมีเมืองอะไรบ้าง

ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi

<<เช็กราคาที่พัก โรงแรมในซัปโปโรเรทดีที่สุด!!>>

แจกพิกัด 7 ที่เที่ยว ฮอกไกโด หน้าหนาวไปไหนดี

#1 ซัปโปโร – เที่ยวงานเทศกาลหิมะและน้ำแข็งแกะสลัก

เมืองหลวงของเกาะฮอกไกโด เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าทันสมัยที่สุดในฮอกไกโด และเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย ในช่วงหน้าหนาว หรือประมาณเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีงานเทศกาลฤดูหนาวที่ยิ่งใหญ่ และเป็นไฮไลท์ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวหลายคนอยากมาชมด้วยตัวเอง นั่นก็คือ เทศกาลหิมะและน้ำแข็งแกะสลัก Sapporo Snow Festival นี่แหละค่ะ ซัปโปโรจึงเป็นที่เที่ยวยอดฮิตของเกาะฮอกไกโด ที่มีสายการบินหลายสายบินตรงมาถึงที่นี่อย่างสะดวกสบายเลย

  • เทศกาลหิมะ ซัปโปโร 2024 / 2567 ตรงกับวันที่ 4-11 กุมภาพันธ์ 2024

แจกพิกัด 7 ที่เที่ยว ฮอกไกโด หน้าหนาวไปไหนดี

#2 โอตารุ – เที่ยวงานเทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ

อีกหนึ่งที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว ที่แนะนำ คือ บริเวณคลองโอตารุ ซึ่งจะมีการจัดงานเทศลกาลที่เหมาะสำหรับการพาคุณพ่อคุณแม่มาเที่ยวมากๆ อย่างเช่น เทศกาลแสงไฟริมคลองโอตารุ หรือ Otaru Snow Light Path Festival ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์

โดยในช่วงนั้น ร้านค้าทั่วทั้งเมือง รวมทั้งริมคลองโอตารุจะถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟ และรูปปั้นหิมะเล็กๆ อย่างสวยงาม นอกจากนี้โอตารุก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งการล่องเรือชมคลองโอตารุ ชมและเลือกซื้อเครื่องแก้วสวยๆ ที่ Otaru Canalside Glass Factory เดินเล่นถนนซาไกมาจิ ฯลฯ

แจกพิกัด 7 ที่เที่ยว ฮอกไกโด หน้าหนาวไปไหนดี

#3 ฮาโกดาเตะ – ชมวิวยามค่ำคืนที่สวยงามติด 1 ใน 3 ของโลก

ที่นี่เป็นเมืองท่าแห่งแรกของญี่ปุ่น และมีวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามติด 1 ใน 3 เมืองของโลก ร่วมกับเมืองเนเปิลส์แห่งประเทศอิตาลี และเกาะฮ่องกงนั่นเอง จึงไม่แปลกใจว่าทำไมที่นี่จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนฮอกไกโด

<<เช็กราคาที่พัก โรงแรมในฮาโกดาเตะ เรทดีที่สุด!!>>

แจกพิกัด 7 ที่เที่ยว ฮอกไกโด หน้าหนาวไปไหนดี

#4 นิเซโกะ – เมืองแห่งสกีรีสอร์ท

สถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาว นิเซโกะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสกีรีสอร์ทชื่อดังของฮอกไกโด อีกทั้งเนื้อหิมะของที่นี่ยังได้ชื่อว่าดีและมีความละเอียดมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น จึงรับรองได้ว่าถึงจะหกล้มหกลุกขนาดไหน ก็ไม่เจ็บตัวอย่างแน่นอน หลาย ๆ คนเลือกมาเที่ยวพักผ่อนฤดูหนาวที่นิเซโกะเพราะเป็นเมืองหิมะ เต็มไปด้วยรีสอร์ทพร้อมกับคลาสเรียนสกี ทำให้สามารถสนุกเพลิดเพลินกับกีฬาฤดูหนาวและอาหารอันแสนอร่อยของเกาะฮอกไกโด

<<เช็กราคาที่พัก โรงแรมในนิเซโกะ เรทดีที่สุด!!>>

แจกพิกัด 7 ที่เที่ยว ฮอกไกโด หน้าหนาวไปไหนดี

#5 โนโบริเบทสึ – แช่ออนเซ็นเพื่อสุขภาพ

ที่นี่เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำพุร้อนประจำภูมิภาคฮอกไกโด โดยมีบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงก็คือ บ่อจิโงคุดานิ ที่คนไทยชอบเรียกติดปากว่า หุบเขานรกจิโงคุดานินั่นแหละค่ะ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วที่นี่มีความสวยงามซึ่งตรงข้ามกับชื่อเหลือเกิน แถมยังเป็นสถานที่ที่น่ารักมากๆ เพราะในหน้าหนาวจะมีลิงภูเขาลงมาแช่ออนเซ็นที่นี่ เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดู ใครเห็นเป็นต้องหยิบกล้องมาถ่ายรูปกันรัวๆ เลยล่ะ

น้ำแร่ร้อนของที่นี่ได้รับการกล่าวขานว่าดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดของญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีน้ำร้อนที่แตกต่างกันถึง 11 ชนิด ทั้งนี้เค้ามีโรงแรมและที่พักแบบเรียวกัง ที่มีห้องอาบน้ำออนเซ็นแบบเป็นส่วนตัวเปิดให้บริการในราคาประมาณ 700-2,000 เยนด้วยล่ะค่ะ

<<จองที่พัก โรงแรมในโนโบริเบทสึ ฮอกไกโด เรทดีที่สุด!!>>

แจกพิกัด 7 ที่เที่ยว ฮอกไกโด หน้าหนาวไปไหนดี

#6 ล่องเรือชมธารน้ำแข็งอะบาชิริ

ลืมการล่องเรือธรรมดาไปได้เลย เมื่อได้ล่องเรือตัดน้ำแข็งผ่านธารน้ำแข็งอะบาชิริ คุณจะรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นเจ้าหญิงเอลซ่าที่เพลิดเพลินบนลานน้ำแข็งในชีวิตจริง จนไม่เชื่อสายตาตัวเองว่ากำลังท่องเที่ยวอย่างตื่นเต้นอยู่ ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สถานที่น่าเที่ยวในหน้าหนาวที่ฮอกไกโดที่มอบประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นให้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นกิจกรรมที่เหมาะกับการท่องเที่ยวแบบครอบครัว

<<เช็กที่พัก โรงแรมในอะบาชิริ เรทดีที่สุด!!>>

แจกพิกัด 7 ที่เที่ยว ฮอกไกโด หน้าหนาวไปไหนดี

#7 คาบสมุทรชิเรโตโกะ – ชมวิวทะเลสาบ

ที่คาบสมุทรอันสวยงามนี้เป็นอีกสถานที่สำคัญและเป็นความภาคภูมิใจของชาวญี่ปุ่น เพราะที่นี่ถูกบันทึกไว้เป็นมรดกโลก และเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสัตว์ป่านานาพันธุ์อย่าง แมวน้ำ หมี นกอินทรี หมาป่า และอื่น ๆ มากมาย สายธรรมชาติต้องหลงใหลที่นี่ชัวร์

และนี่ก็เป็นที่เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว ที่เรารวบรวมมาฝากเพื่อน ๆ อยากไปเที่ยวเมืองไหนสามารถเลือกได้เลย! แต่ถ้าหากยังไม่พบเมืองที่ถูกใจ เราก็มีบทความแนะนำที่เที่ยวญี่ปุ่นมาฝากเพื่อน ๆ สามารถดูได้ที่ลิสต์ด้านล่างนี้เลยค่ะ


ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi



The post แจกพิกัด 7 ที่เที่ยว ฮอกไกโด หน้าหนาวไปไหนดี appeared first on TravelDiDi.

]]>
https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%ae%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%94-%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%99/feed/ 0
รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b5-gala-yuzawa/ https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b5-gala-yuzawa/#respond Thu, 27 Jul 2023 04:14:29 +0000 https://traveldidi.com/?p=6555 ความฝันจะไปเล่นหิมะ เล่นสกี เป็นความฝันของหลาย ๆ คน และ […]

The post รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว appeared first on TravelDiDi.

]]>
ความฝันจะไปเล่นหิมะ เล่นสกี เป็นความฝันของหลาย ๆ คน และบางคนก็อยากจะพาลูกและครอบครัวไปเล่นหิมะ หรือ เล่นสกีกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาด้วยทีมงาน TravelDiDi มารีวิว ประสบการณ์ เล่นสกี เล่นหิมะ ที่ Gala Yuzawa Snow Resort (กาล่า ยูซาว่า สโนว์รีสอร์ท) แบบวันเดียว ไปเช้าเย็นกลับ นั่งรถไฟชินคันเซ็น จากสถานี Tokyo Station หรือ Ueno Station ไปได้ พร้อมรีวิวค่าใช้จ่าย วิธีเดินทาง สิ่งที่ควรเตรียมตัวสำหรับมือใหม่หัดเล่นสกีครั้งแรก การเตรียมชุด เสื้อผ้า เล่นสกี เล่นหิมะ ต้องเตรียมยังไง และรายละเอียดความสนุกอีกมากมาย สามารถติดตามได้ที่นี่ค่ะ

ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi

 

▼ ขอแนะนำก่อนอ่านนะ ~ ▼

รีวิว เล่นสกีใกล้โตเกียว ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ

Gala Yuzawa ไปยังไง

จาก Ueno และ Ginza ไป GALA Yuzawa

จากโตเกียวเดินทางไปลานสกีที่กาล่า ยูซาว่า (Gala Yuzawa) สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟชินคันเซ็นขบวน Joetsu Shinkansen ไปลงที่สถานี Gala Yuzawa Station ได้โดยตรง เมื่อถึงสถานีปุ๊บ เดินออกมา ก็จะเจอกับทางเข้าและที่ซื้อตั๋ว Gala Yuzawa Snow Resort เลยค่ะ สะดวกมาก! … และสำหรับรถไฟชินคันเซ็นนั้น ก็สามารถขึ้นได้ที่สถานี Tokyo Station และ Ueno Station ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันค่ะใครพักย่านอูเอโนะก็ไปขึ้นรถได้ที่สถานีอูเอโนะ ส่วนใครพักย่านกินซ่า ก็สามารถขึ้นชินคันเซ็นได้ที่สถานีโตเกียว ตามความสะดวกได้เลยค่ะ

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว

คนที่มี JR Tokyo Wide Pass สามารถใช้พาสนี้ เดินทางไปกาล่ายูซาว่าได้ และสามารถนำพาสไปเป็นส่วนลดในการซื้อตั๋วลิฟท์ขึ้นเล่นสกีและเช่าชุดอุปกรณ์ได้ค่ะ แต่ตัวตั๋วจะค่อนข้างทริคกี้นิดนึง เมื่อซื้อแล้วจะมีใบเสร็จใบยาว ๆ มาให้ 1 ใบ บวกกับตั๋วพาสใบเล็ก ๆ ขนาดใกล้เคียงสี่เหลี่ยมจตุรัสหนึ่งใบต่อคน อย่าทำหาย หรือ ทิ้งสลับกันเป็นเด็ดขาดนะคะ เพราะว่ากระดาษใบเล็กที่ได้มานั้นคือตั๋ว JR Tokyo Wide Pass สำหรับใช้เข้าสถานีค่ะ!

ตั๋ว Tokyo Wide Pass จะมีอายุใช้งาน 3 วัน สามารถระบุได้ตอนซื้อว่าจะเริ่มใช้วันไหน สามารถใช้เดินทางเที่ยวรอบ ๆ โตเกียวได้ เช่น นั่งรถไฟไป Kawaguchiko, ขึ้นชินคันเซ็นไป Gala Yuzawa และอีกมากมายค่ะเพื่อน ๆ สามารถซื้อตั๋ว Tokyo Wide Pass ได้ล่วงหน้าทางแอพลิเคชั่นขายบัตร เช่น Klook เป็นต้น แต่ควรศึกษาเงื่อนไขการรับตั๋วให้ดี เพราะถ้าซื้อจากแอพบางแอพอาจจะเจอเงื่อนไขให้รับที่สถานี Ueno Station เท่านั้น และในกรณีที่ต้องการไปซื้อตั๋วด้วยตัวเองที่สถานี ก็ควรเช็กข้อมูลก่อนว่าห้องขายตั๋วเปิดกี่โมง โดยเฉพาะช่วงโควิดระบาดและญี่ปุ่นปิดประเทศค่ะ สามารถเช็กเวลาทำการได้ที่เว็บไซต์ค่ะ

 

แวะซื้อข้าวกล่องรถไฟเอกิเบ็น ก่อนไปกาล่า ยูซาว่า

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว

ข้าวกล่องเอกิเบ็น กล่องนี้ ราคากล่องละ 1,400 เยนค่ะ

ร้านข้าวกล่องรถไฟ Ekiben จะมีขายทั้งในสถานีก่อนขึ้นชานชาลา และมีขายบนชานชาลาก่อนขึ้นรถไฟ ซึ่งร้านบนชานชาลาจะอยู่คนละห้องกับร้านสะดวกซื้อ หากใครหาไม่เจอก็สามารถลองชะเง้อหน้าไปดูข้าง ๆ ร้านสะดวกซื้อ จะสังเกตเห็นว่าที่ร้านอีกห้อง (ฝั่งตรงข้ามอยู่คนละบล็อก) จะมีร้านขายข้าวกล่องเอกิเบ็นวางขายอยู่ค่ะ

ของเรากับลูก เราเลือกข้าวกล่องที่มีหอยเชลล์ ปู อิคุระ ฯลฯ ลูกชายเลือกปลาไหล กับ ข้าวกล่องรูปรถไฟชินคันเซ็น ส่วนสามีเลือกหน้าปลาและอาหารทะเลเหมือนกัน รู้สึกว่าเติมเต็มความรู้สึกตอนเด็ก ๆ ที่ชอบดูรายการทีวีญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ตอนเด็ก ๆ เคยดูรายการทีวีแช้มเปี้ยนแล้วรู้สึกอยากทานข้าวกล่องรถไฟเอกิเบ็นมากค่ะ พอมีลูกแล้วได้มีโอกาสมาเที่ยวพร้อมกันก็อยากพาลูกไปทำกิจกรรมแบบในรายการทีวีแชมป์เปี้ยน นั่งรถไฟ กินข้าวกล่องรถไฟค่ะ

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว

ก่อนเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น และก่อนขึ้นรถไฟทุกครั้ง เราจะอธิบายให้เด็ก ๆ ทราบก่อน ว่ากฏกติกา สิ่งที่ทำได้ สิ่งที่ทำไม่ได้ สิ่งที่ไม่ควรทำมีอะไรบ้าง เพื่อให้เขารับรู้ เตรียมตัว เตรียมใจ … ไม่ใช้การขู่ว่าจะไม่ให้ดูโทรศัพท์ Youtube หรือลบแอปต่าง ๆ ค่ะ เพราะว่ามันไม่เกี่ยวกัน … ถ้าเด็กไม่ทำตาม แบบไม่ฟังจริง ๆ ก็จะบอกแค่ว่าจะพูดแค่ครั้งเดียว ถ้ายังทำอีก ต่อไปจะไม่พามาเที่ยวแล้วรอบหน้าค่ะ … ซึ่งเวลาอธิบายกฏ-กติกาก่อนล่วงหน้า ก็จะทำให้พฤติกรรมเด็กดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ว่าไม่ได้ดีเพอร์เฟ็กภายในครั้งเดียวค่ะ … ต้องพูดเรื่อย ๆ ต่อไปก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ … จะพาเด็กไปเที่ยวไหน อย่าลืมพูดคุยกฏกติกากันก่อนล่วงหน้าค่ะ

เป็นการเดินทางจากโตเกียวไปกาล่า ยูซาว่า ที่ใช้เวลาประมาณ 90 นาที มีวิวข้างทางให้ชม และเมื่อเข้าใกล้สถานีกาล่า ยูซาว่า อากาศก็จะเริ่มเย็นหนาวขึ้นและมองเห็นบรรยากาศข้างทางที่ปกคลุมไปด้วยหิมะค่ะ เมื่อถึงปลายสถานีก็ลงจากรถ ซื้อตั๋วเข้าเล่นสกีต่อได้เลย เป็น 1 Day Trip แบบไปเช้าเย็นกลับ เล่นสกีใกล้โตเกียว ที่สะดวก สบาย รู้สึกได้เปลี่ยนบรรยากาศดีมากค่ะ

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว

บรรยากาศวันที่ 23 ธันวาคม 2022 ปีนี้หิมะยังน้อยค่ะ แต่ลานสกีเปิดให้เล่นได้แล้ว ยังดีที่ได้ไปค่ะ

ไป Gala Yuzawa ไม่เล่นสกี

ถ้าไปเที่ยวกาลายูซาว่า แต่ไม่เล่นสกี จะเล่นแค่หิมะที่ลานสโนว์รีสอร์ทก็ได้เหมือนกัน ซื้อเพียงแค่ตั๋วกระเช้า และมีบริเวณให้เล่นสเลดหรือถาดเลื่อน ไปสัมผัสอากาศหนาว ลุยหิมะ เล่นหิมะกันได้ หรือแม้กระทั่งขี่รถสโนว์โมบิล ชมวิวที่หอระฆัง The Bell of Dream Observation Deck … เพื่อน ๆ สามารถเช็ก กิจกรรมที่ Gala Yuzawa ได้ที่ลิ้งค์ข้างต้นเลยค่ะ

ติดตามเราได้ที่ TikTok: @jellymimi_family

 

View this post on Instagram

 

A post shared by PP Diary (@pm.cm.mm)

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว

หรือ ใกล้ ๆ โตเกียว ก็จะมีลานสกี และที่เล่นหิมะอีกแห่งหนึ่ง อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบ Kawaguchiko ก็คือ Fujiten Snow Resort ค่ะ รอบนี้เราไปมาด้วย แต่ไม่ได้ไปเล่นสกีที่นั่นค่ะ แวะไปฟูจิเทนไปเล่นหิมะค่ะ บังเอิญจองทริปตกปลาไว้แล้วมีการยกเลิก ก็เลยไปเล่นหิมะที่ลานของ Fujiten แทนค่ะ บรรยากาศสวย น่าถ่ายรูปไม่แพ้กันค่ะ

▼ เล่นสกีที่ญี่ปุ่น ~ ▼

รีวิว เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa Snow Resort เตรียมตัวยังไงบ้าง

มือใหม่หัดเล่นสกี ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง? เนื่องด้วยเป็นการไปเล่นสกีที่กาล่า ยูซาว่า สโนว์ รีสอร์ท เป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกไปกับสามีสองคนแบบชิว ๆ สบาย ๆ ผู้ใหญ่รับผิดชอบตัวเองได้ แต่รอบนี้ไปกับลูกเป็นครั้งแรก และลูกยังเล็ก จึงใช้เวลาเตรียมตัวล่วงหน้าและหาข้อมูลก่อนเป็นเวลาพอสมควร ซึ่งทีมงาน TravelDiDi ก็คิดว่าสิ่งที่ควรเตรียมตัวล่วงหน้ามีดังนี้ค่ะ

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว

1. การเรียนสกีที่ Gala Yuzawa Snow Resort

กรณีที่ต้องการเรียนสกี ที่ Gala Yuzawa Snow Resort จะมี Gala Ski School สอนอยู่แล้ว มีทั้งภาษาอังกฤษ ไทย จีน ฯลฯ และมีแบบกลุ่มและแบบส่วนตัว ซึ่งแบบกลุ่มแชร์กับคนอื่นจะมีราคาถูกกว่า ราคาประมาณ 8,000 เยนต่อคน (2 ชั่วโมง) แต่ถ้าเป็นกลุ่มส่วนตัว ราคาจะอยู่ที่ 30,000 เยน ต่อกลุ่ม/2 ชั่วโมงค่ะ … แต่ว่าเนื่องด้วยช่วงโควิดเป็นต้นมา เราก็รู้สึกกังวลทั้งเรื่องโควิดและก็เรื่องเวลาเปิดกรุ้ป กล่าวคือ ปกติแบบเรียนรวมกับคนอื่น มันไม่ใช่ว่าจะไปเรียนกี่โมงก็ได้ ทางรีสอร์ทจะมีเวลาสอน ถ้าหากไม่สะดวกจองไปล่วงหน้าก็อาจจะลองถามข้อมูลในแฟนเพจ Gala Yuzawa ซึ่งมีแฟนเพจภาษาไทยได้ค่ะ จะได้ทราบข้อมูลอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องการเปิดกลุ่มสอนค่ะ

เราเคยเรียนสกีแบบกลุ่มภาษาอังกฤษมาแล้วครั่งหนึ่งในปี 2018 ค่ะ ตอนนั้นเรียนกับสามีและนักท่องเที่ยวชาติอื่นตอนแรกลองเล่นเองก่อนแล้วเบรคไม่เป็น เวลาล้มก็ลุกลำบาก เลยอยากได้ครูสอน ซึ่งเราก็เล่นเองตั้งแต่ประมาณ 9.00 – 12.00 . แล้วไปสมัครเรียน แต่ตอนจะเรียนปรากฏว่าต้องลงลิฟท์ไปซื้อคอร์สด้านล่าง และเวลาเรียนก็มีเวลาเปิดคอร์สชัดเจน ต้องรอเรียนตามเวลา ตอนนั้นเลยรู้สึกวุ่นวายมาก ถ้าเตรียมตัวไปก่อนล่วงหน้าก็จะไม่เหนื่อยเท่าตอนนั้น รอบหลังที่พาลูกไปด้วยก็เลยตัดสินใจว่าจะสมัครเรียนแบบกลุ่มส่วนตัว แบบ Private ค่ะ และก็จองโอนเงินไปก่อนล่วงหน้าเลยกับเพจ Japanmase โดยล็อกวันที่และเวลาไว้ เพื่อที่จะได้วางแผนการเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว

2. ข้อดีของการเรียนสกี ที่กาล่า ยูซาว่า แบบไพรเวทหรือกลุ่มส่วนตัว

ไปรอบนี้ ปี 2022 เราลองหาข้อมูล และเลือกจองเรียนสกีไพรเวทกับครูจักร เพจ Japanmase เพราะรู้สึกว่าอยากได้ครูที่พูดภาษาไทยได้ และอยากเรียนเป็นกลุ่มส่วนตัวเพราะพาลูก 7 ขวบไปด้วย จะได้ไม่รบกวนหรือเป็นภาระหากไปเรียนรวมกลุ่มกับคนอื่น และก็จะได้ใช้เวลากับครอบครัวไปอย่างเต็มที่

พูดย้อนกลับไปถึงประสบการณ์ตอนเรียนสกีแบบกลุ่มแชร์กับนักท่องเที่ยวท่านอื่น ครูจะสอนตามระดับ อย่างเช่น Beginner จะสอนตั้งแต่เริ่มต้น ให้ทำแต่ละสเต็ปพร้อม ๆ กันทีนี้พอมีเด็กไปด้วย คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องลำบากสำหรับลูกเรา เพราะว่าบางทีเขาอยากจะสนุกแบบของเขาตามวัย ซึ่งรอบนี้จองเรียนกับครูสกี ครูจักร Japanmase ก็รู้สึกแฮ้ปปี้ถูกใจมาก เพราะครูมีประสบการณ์ และรู้วิธีสอนเด็กด้วย รู้ว่าเด็กชอบทำอะไร และไม่ชอบทำอะไร อะไรเป็นอุปสรรค รู้สึกว่าครูจะรู้หมด เรียนไป 2 ชั่วโมง ลูกก็กล้าเล่นสกีคนเดียวแล้ว ก็รู้สึกว่าคุ้มค่ามากอย่างไรก็ตาม เห็นมีโรงเรียนสกีสำหรับเด็กโดยเฉพาะด้วยนะคะ แต่ไม่แน่ใจเรื่องข้อมูล ลองสอบถามที่ Gala Yuzawa Snow Resort ดูได้ค่ะ มีแฟนเพจเฟสบุ้คภาษาไทยอยู่ค่ะ

ติดตามเราได้ที่ TikTok: @jellymimi_family

@jellymimi_family พาเด็กน้อยไปเล่นสกีครั้งแรก ที่ญี่ปุ่น 🥰🥰🩵❄🤪 ล้มไปกี่รอบให้ทาย เล่นเสร็จบอกไม่อยากไปอีกแล้วว แต่ผ่านไป 3 เดือนบอกอยากไปอีก 😅😂 อิหยัง #พาลูกเที่ยว #เที่ยวญี่ปุ่น #เล่นสกี #เล่นสกีครั้งแรก #หิมะ #japan #กาล่ายูซาว่า #galayuzawa #เด็กน้อย #เที่ยวโตเกียว #ญี่ปุ่น #พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น ♬ Cupid – Twin Ver. (FIFTY FIFTY) – Sped Up Version – sped up 8282

 

3. ตอนเล่นสกี ต้องเตรียมเสื้อผ้ากันหิมะไปเองมั้ย หรือ เช่าได้?

ชุดเล่นสกี ลุยหิมะ ประกอบด้วยชุด Outerwear และชุดเลเยอร์ด้านในสำหรับเสื้อคลุมด้านนอกหรือ Outerwear ควรเป็นชุดที่กันน้ำแบบ Waterproof และระบายอากาศได้แบบ Breathable … สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายเสื้อผ้ากีฬาเฉพาะทาง, ร้านอุปกรณ์สกี หรือถ้าหากไม่ต้องการซื้อ ก็สามารถเช่าได้ ที่ Gala Yuzawa ค่ะ มีชุดสกีให้เช่าตั้งแต่หัวจรดเท้าค่ะ ยกเว้นถุงมือที่ไม่มีให้เช่าแต่มีขายค่ะ และชุด Base Layer ด้านในก็ไม่มีให้เช่าเช่นกันค่ะ ต้องเตรียมไปเอง ซึ่งถ้าหากจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะมีร้านขายเสื้อผ้าสกีในนั้นด้วยนอกเหนือจากที่ให้เช่าอุปกรณ์ค่ะ

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว

4. อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ในการเล่นสกี และมีให้เช่า

ที่ Gala Yuzawa Snow Resort มีให้เช่าอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเล่นสกีสำหรับผู้ที่เริ่มเล่นทั้งหมด โดยไม่จำเป็นต้องเตรียมไปเองค่ะ

  • Skis, Ski Fix, Ski Pole
  • Ski Mask ถ้าจำไม่ผิดคือมีให้ฟรี ถ้าเช่าอุปกรณ์
  • หมวกสกี Ski Helmet
  • รองเท้าสกี Ski Boots
  • แว่น Ski Goggle
  • Ski Suit หรือ เสื้อสกี มีให้เช่า
  • กางเกงสกี
  • ถุงมือกันน้ำ (มีขาย ไม่มีเช่า)

รีวิวประสบการณ์เล่นสกีแบบมือใหม่ Beginner! ที่ กาล่า ยูซาว่า

จากประสบการณ์ส่วนตัว รู้สึกว่าสิ่งสำคัญในการเล่นสกี จะมีเรื่องต่อไปนี้ค่ะ

1. การแต่งตัวเล่นสกีและเช่าอุปกรณ์สกี

ตอนไปครั้งแรกปี 2018 นั้น เราไม่ค่อยรู้เรื่อง กว่าจะเตรียมเช่าชุดเสร็จ ก็เสียเวลาไปเป็นชั่วโมง ทางที่ดี ควรเผื่อเวลาเรื่องการเช่าชุด เช่าล็อกเกอร์ กรอกข้อมูลในใบเช่าอุปการณ์ไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือ ชั่วโมงครึ่งค่ะสำหรับครั้งแรกในการไปเช่าอุปกรณ์ บางคนอาจจะไม่แน่ใจ จึงกรอกเลือกเช่าอุปกรณ์ทั้งหมดครบทั้งชุด แต่พอได้ของมาแล้ว บางคนอาจจะเพิ่งคิดได้ว่าจริง ๆ แล้วของบางชิ้นอาจจะไม่จำเป็นถ้ามีของตัวเองมาแล้วอย่างเช่นเสื้อ ก็สามารถเอาใบเสร็จ บัตรเครดิต (ถ้าไม่ได้จ่ายเงินสด) ไปทำเรื่องยกเลิก ขอคืนของก่อนใช้งานได้ค่ะแต่ทางที่ดีคือถ้าไม่แน่ใจก็ถามเจ้าหน้าที่ก่อนเช่าได้ค่ะ จะได้ประหยัดเวลาของตัวเองและเจ้าหน้าที่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางวันที่มีลูกค้าเยอะ ก็อาจจะต้องไปเข้าแถวต่อคิวใหม่ซึ่งใช้อาจเวลาพอสมควรค่ะ

2. บัตรขึ้นลิฟท์ลานสกี

ปี 2022 นี้ มีตู้สแกนบัตรอัตโนมัติแล้วค่ะ สามารถใส่บัตรไว้ที่ด้านซ้ายของเสื้อสกี หรือ แขนเสื้อสกี เวลาเดินผ่านจุดตรวจ จะมีตู้สแกนอัตโนมัติ สแกนผ่านไปได้เลย (เช็ก ราคา ตั๋วลิฟท์ Gala Yuzawa)

3. สิ่งสำคัญในการเล่นสกี สำหรับมือใหม่

เรารู้สึกว่าสิ่งสำคัญคือการเบรค และเรียนรู้วิธีลุกหลังจากล้มค่ะ บางทีล้มผิดท่าไปหลังหมดเวลาเรียน ไม่มีครูคอยช่วย ก็จะต้องหาทางลุกเอง ใส่อุปกรณ์ใหม่ด้วยตัวเองค่ะ

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว

วิวจากฟู้ดคอร์ทใกล้ลานสกี สวยมากค่ะ

4. การพาเด็กเล็กไปเล่นสกี

ด้วยความที่เด็กแต่ละคนก็จะมีความชอบและนิสัย รวมถึงพัฒนาการไม่เหมือนกันค่ะ บางคนก็ชอบเล่น บางคนไม่ชอบเล่น บางคนกลัว บางคนไม่กลัว บางคนอยากนอนกลิ้งหิมะ บางคนชอบเอา Ski Pole จิ้มหิมะเล่นไม่ยอมสไลด์ ทำให้กว่าจะเล่นสกีได้ก็ใช้เวลานานกว่าปกติเวลาที่ผู้ใหญ่เรียนเอง ก็รู้สึกว่ารอบนี้ โชคดีมากที่จองกลุ่มไพรเวทส่วนตัว เพราะว่าครูใช้เวลาสอนเด็กเต็มที่เลยค่ะ เวลาที่ผู้ใหญ่สอนผู้ใหญ่กันเอง เราพูดแปบเดียวก็ฟังก็เข้าใจเนาะ แต่เด็กเล็กบางทีเขาอยากจะเล่นในแบบของเขา ครูก็จะมีเทคนิคสอนค่ะ อันนี้ก็ประทับใจครูจักร Japanmase มากค่ะ

5. อาหารเที่ยง ที่ กาล่า ยูซาว่า สโนว์รีสอร์ท

ตอนปี 2018 เราไม่ได้ทานอาหารมื้อหลัก ตอนนั้นทานเครปเย็น แต่รอบเดือนธันวาคมปี 2022 นี้ เราเล่นเสร็จก็พักเที่ยง ซื้ออาหารทานในฟู้ดคอร์ท รู้สึกชอบราเม็งที่นั่นอร่อยดีค่ะ ในเครื่องกดสั่งอาหารจะมีเมนูแนะนำของแต่ละร้านค่ะ ที่ชอบก็จะมีราเม็งน้ำซุปปลา กับอีกร้านที่ชอบคือเมนูปลาหมึกอบหรือทอดนี่หละค่ะ ไม่แน่ใจ อร่อยมากค่ะ

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว6. การเดินทางกลับโตเกียว

จากสถานี Gala Yuzawa Station จะมีรถไฟออกเป็นรอบ สามารถเช็กตารางเดินทางได้ค่ะ สามารถซื้อตั๋วที่ตู้กดอัตโนมัติได้ หรือจะจองกับเจ้าหน้าที่ที่ช่องขายตั๋วก็ได้ แต่แนะนำว่า ถ้าหากจะซื้อกับเจ้าหน้าที่ ก็ควรเผื่อเวลาไว้ล่วงหน้าค่ะ และประตูทางเข้า Gate ก็จะเปิดให้เข้าก่อนรถไฟออกประมาณ 15 นาทีค่ะ ในสถานีมีร้านขายขนม ขายน้ำ ขายของฝากให้เดินเล่นรอค่ะถ้าหากไม่อยากนั่งรถรอไฟเฉย ๆ

เสื้อกันหนาวเล่นสกี เล่นหิมะ แบบกันน้ำได้ ต้องเตรียมยังไง

มาทำความเข้าใจกับเสื้อกันหนาว ลุยหิมะ เล่นสกี แบบกันน้ำกันค่ะพอเป็นเสื้อ Ski Suit ก็ควรเลือกที่ความคล่องตัวและเหมาะกับสภาพอากาศและกีฬาที่เล่น เพราะว่าสกีเป็นกีฬา แต่ถ้ากันหิมะธรรมดา เราเลือกที่ Waterproof และ Breathable ก็สบายแล้ว คำว่ากันน้ำในวงการเสื้อกันหนาวจะมีอยู่ 3 ระดับค่ะ

1. Water-resistant

เสื้อผ้าที่เราสวมใส่ปกติ บางแบรนด์อาจจะมีเขียนว่า Water-resistant กล่าวคือ สามารถกันน้ำไม่ให้โดนตัวเรา ถ้ามีฝนตกหรือโดนน้ำปรอย ๆ ผ้าก็จะซับน้ำ ทำให้ไม่เปียกถึงตัวเรา แต่ถ้าหากปริมาณน้ำมีมากขึ้นผ้าก็อาจจะชุ่มน้ำและโดนตัวเราได้ในที่สุด ถ้าเล่นสกีหรือหิมะ ควรมองหาชุดกันน้ำแบบ Waterproof และ Breathable แทน

2. Water-repellent

เสื้อกันหนาวแบบ Water-repellent คือเสื้อที่ผ่านการใช้เทคโนโลยี บางครั้งเป็นสารเคลือบ ที่ทำให้โดนน้ำหยดใส่แล้วไม่ซึมลงผ้า น้ำจะรวมกันเป็นหยดแทน สารเหล่านี้สามารถมีประสิทธิภาพลดลงได้ตามการใช้งาน การซัก หรือ ตามระยะเวลาค่ะ

3. Waterproof

ชุดเล่นสกี ควรเป็นผ้ากันน้ำแบบ Waterproof และ Breathable ที่สามารถกันน้ำและระบายอากาศได้ ลองจินตนาการภาพดูว่า ถ้าหากเราใส่ชุดที่กันน้ำได้ แต่ไม่ระบายอากาศ ก็อาจจะทำให้รู้สึกเหมือนกับเวลาที่เอาพลาสติกคลุมมือไว้ แต่ไม่มีรูระบายอากาศ ก็อาจจะทำให้รู้สึกร้อนชื้นได้

ด้านในเสื้อกันหนาวสกี ต้องใส่กี่ชั้น ใส่เสื้อแบบไหน

ตอนเล่นสกี แม้ว่าจะใส่เสื้อกันหนาว แต่ก็สามารถทำให้เหงื่อออกได้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้น หากหิมะไม่ตก ไม่มีลม มีแดดแรง บางครั้งก็อาจจะทำให้บางคนรู้สึกว่าร้อนจนเหงื่ออบอยู่ในเสื้อกันหนาวได้เช่นกันค่ะ แต่สำหรับคนที่กลัวหนาว ก็สามารถใส่ด้านในไปหลายชั้นได้ เพราะในเวลานั้น รู้สึกร้อนก็คงดีกว่ารู้สึกหนาว ถ้าร้อนเกินไปก็สามารถถอดออกทีหลังได้ และทีมงาน TravelDiDi ได้รวบรวมคำแนะนำในการแต่งตัวใส่เสื้อด้านใน ชั้น Base Layer และ Mid Layer มาฝากทุกคนค่ะซึ่งก็ต้องอธิบายไว้ก่อนว่าในความเป็นจริงแล้ว สามารถปรับใช้ ใส่ชั้นเดียว หรือสองชั้นก็ได้ตามความรู้สึกว่าเหมาะสมของแต่ละคนค่ะ รอดูเหตุการณ์วันเล่นสกีจริงได้ค่ะ

Base Layer

ชุดเบสเลเยอร์ชั้นแรกด้านในของชุดสกี มีขายตามร้านขายอุปกรณ์กีฬา เป็นเสื้อแขนยาวที่มีเนื้อผ้าระบายออกอากาศได้ สังเกตตัวที่มีเนื้อผ้าเป็นลายวาฟเฟิล แต่ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ ไปเล่นครั้งเดียวก็ไม่เป็นไร ถ้าพกเสื้อฮีทเทคไปแล้วก็ใส่เสื้อฮีทเทคก็ได้ แต่ควรเลือกกางเกงสกีแบบลักษณะเอี๊ยมหรือปิดป้องกันหิมะเข้ากางเกง และเสื้อสกีที่ปิดด้านหลังไม่ทำให้หิมะโดนผิวหนังด้านหลังเวลาล้มค่ะ (สำหรับ Beginner) เพราะถ้าชุดด้านในสุดโดนหิมะสัมผัสเมื่อไรแล้วละก็ จะสามารถทำให้รู้สึกเย็นได้เหมือนมีน้ำแข็งแปะอยู่ที่หลังตลอดเวลา บางคนอาจป่วยได้หลังเล่นเสร็จ หรืออาจจะรู้สึกเล่นไม่สนุกในขณะที่เล่นค่ะ เพราะว่ามันเย็นเหมือนมีน้ำแข็งแปะอยู่ตลอดเวลา

Mid Layer

ชุดเลเยอร์กลางสำหรับกีฬาสกีเฉพาะทาง บางแบรนด์จะเป็นชุดที่มีเนื้อผ้ายืดหยุ่นได้ ใส่แล้วคล่องตัวคล้ายกับชุดว่ายน้ำค่ะ ทีนี้ สำหรับมือใหม่หัดเล่น หรือนักท่องเที่ยวที่ไปเล่นครั้งเดียว ก็ไม่ต้องกังวลใจหาซื้อชุดใหม่ ใส่เท่าที่มีได้ หรือ ลองสอบถามที่เคาน์เตอร์เช่าอุปกรณ์ที่บานสกีกาล่า ยูซ่าได้ ที่นั่นมีร้านขายอุปกรณ์สกีด้วยค่ะ บางอย่างไม่มีให้เช่า แต่มีขายค่ะ แต่หากไม่แน่ใจก็หาซื้อไปจากเมืองไทยได้ค่ะ


แนะนำที่พักในโตเกียว สำหรับทริปเล่นสกี หิมะ ที่ Gala Yuzawa

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว

รอบนี้เราพักที่โรงแรม Mitsui Garden Hotel Ginza Gochome เพราะโรงแรมอีกแห่งที่พักประจำห้องเต็ม แต่ก็ค้นพบว่าโรงแรมมิตซุยการ์เด้นอยู่ไม่ไกลกัน ก็เลยลองจอง ขอเน้นที่เดินทางสะดวก ใกล้สถานีรถไฟ และใกล้สถานี Tokyo Station ที่สามารถขึ้นชินคันเซ็นไปกาล่า ยูซาว่า สโนว์รีสอร์ทได้เมื่อถึงวันพักก็รู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิด ที่พักโอเคมากเลย คนไม่พลุกพล่านด้วย แต่รู้สึกว่าล้อบบี้จะขนาดเล็กกว่าโรงแรม Millenium Mitsui Garden Hotel ซึ่งส่วนตัวก็รู้สึกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร นอนที่ไหนก็ได้ขอทำเลสะดวกไว้ก่อนใครกำลังหาที่พักในโตเกียวที่เดินทางสะดวก เราก็ขอแนะนำ 2 โรงแรมนี้เป็นอีกตัวเลือก เพราะว่าใกล้สถานี ทั้งรถไฟใหญ่และรถไฟใต้ดิน เดินทางไปเที่ยวโซนโอไดบะที่มีพิพิธภัณฑ์และสวนสนุกในร่มสำหรับเด็กก็สะดวก และมีร้านอร่อยรวมถึงห้างใหญ่ใกล้โรงแรมเพียบค่ะ หรือจะนอนย่านอูเอโนะก็ได้ เพราะว่าสามารถขึ้นชินคันเซ็นจากสถานี Ueno Station ไปได้เช่นกัน สะดวกเหมือนกันขึ้นอยู่กับว่าคุณสะดวกที่ไหน และวางแผนท่องเที่ยวไว้อย่างไร

<<เช็กราคาที่พักในโตเกียว เรทดีที่สุด!!>>

 

การเดินทางจากโรงแรมย่านกินซ่าไปสถานี Tokyo Station

เราตัดสินใจนั่งรถแท็กซี่จากโรงแรม Mitsui Garden Hotel Ginza Gochome ไปที่พักสถานี Tokyo Station โดยออกเดินทางช่วงประมาณ 6 โมงเช้า ถึงสถานีรถไฟตอนประมาณ 6.05 . ค่าใช้จ่าย แท็กซี่ ประมาณ 600-750 เยน โดยประมาณ นั่งไป 3 คนพ่อแม่ลูก เพราะรู้สึกว่าตอนเช้ากำลังง่วงอยู่ ถ้าต้องคะยั้นคะยอหอบลูกให้รีบเดินก็อาจจะเสียเวลาได้ และราคาก็ไม่ได้ต่างกว่ากันมากกับขึ้นรถไฟใต้ดินไป เพราะระยะทางไม่ไกล เน้นไปถึงเร็วดีกว่าจะได้มีเวลาเดินเลือกข้าวกล่องและของกินใหม่ ๆ ที่อยากลองไปถึงก็ซื้อข้าวกล่องรถไฟเอกิเบ็น (Ekiben) ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที บวกกับแวะซื้อน้ำ ของกินเล่นสำหรับฆ่าเวลาบนรถไฟ รอรถไฟเที่ยว 6.44 . เพื่อออกเดินทาง

ข้อควรระวัง & ควรทราบ ในการซื้อข้าวกล่องรถไฟ หรือ รอขึ้นชินคันเซ็น

ควรระมัดระวังการสลับกระเป๋าในสถานีรถไฟ โดยเฉพาะกระเป๋าลากใบเล็ก ควรเอามือคล้องกระเป๋าเดินทางแบบลากไว้กับตัวตลอดเวลาที่เลือกของ เพราะว่าในช่วงที่รีบหรือรถไฟกำลังจะออก อาจจะทำให้เกิดการสลับกระเป๋าเดินทางได้ค่ะ

สรุป ค่าใช้จ่าย เล่นสกี Gala Yuzawa

  • ตั๋วลิฟท์สกี Gala Yuzawa ราคาปกติที่ยังไม่ลด จะอยู่ที่ประมาณ 6,000 เยน/วัน สำหรับผู้ใหญ่ และ 3,000 เยน/วัน สำหรับราคาตั๋วเด็กอายุ 6-12 ปีค่ะ)
  • ค่าเรียนสกีกับครูไทย (เรียนกับครูจักร Japanmase) 2 ชั่วโมง เรียน 3 คนพ่อแม่ลูก ค่าใช้จ่าย 7,560 บาท
  • เปรียบเทียบ ถ้าเรียนกลุ่มส่วนตัว Private กับ Gala Ski School 2 ชั่วโมงจะอยู่ที่ 30,000 เยน แต่ถ้าเรียนแบบไปจอยกลุ่มกับนักท่องเที่ยวคนอื่น ราคาจะตกอยู่ที่ 8,000 เยน ต่อคนค่ะ (ระยะเวลาเรียน 2 ชั่วโมง)
  • ตั๋วรถไฟชินคันเซ็น หากซื้อตั๋ว Tokyo Wide Pass ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 10,180 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 5,090 เยนสำหรับเด็ก แต่ถ้าหากไม่ซื้อ Tokyo Wide Pass ก็สามารถซื้อตั๋วชินคันเซนรายเที่ยวเป็นรอบไปได้ค่ะ
  • กรณีไม่ซื้อบัตร Tokyo Wide Pass ค่าตั๋วชินคันเซ็นพร้อมที่นั่งแบบ Reserved จะอยู่ที่ 10,880 เยน โดยประมาณ สำหรับผู้ใหญ่ และ 5,440 เยน สำหรับเด็กอายุ 6-11 ปี ค่ะ
  • ค่าเช่าชุดสกีที่กาล่า ยูซาว่า ถ้าหากมีบัตร Tokyo Wide Pass ไปโชว์ ก็จะได้ส่วนลดค่าเช่าชุด อุปกรณ์สกี และตั๋วลิฟท์สกีด้วยค่ะ เรทปกติมีเรทราคาดังนี้ค่ะ (เช็ก ค่าใช้จ่าย เช่าชุดสกี Gala Yuzawa ล่าสุด)
  • MSIG: ประกันเดินทาง Travel Easy เพื่อนเดินทางตัวจริง

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว

  • ถ้าเช่าเซ็ทสกี ประกอบด้วย สกี, รองเท้าสกี, และไม้ Pole สกี ราคาเซ็ทผู้ใหญ่วันเดียว จะอยู่ที่ 6,000 เยน ส่วนของเด็ก ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 3,500 เยนค่ะ (เช็กราคาล่าสุด)
  • สำหรับคนที่ต้องการเช่าเสื้อผ้าสำหรับใส่เล่นสกีด้วย ประกอบด้วย แจ็กเก็ตสกี, กางเกง, หน้ากาก ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 5,000 เยน สำหรับผู้ใหญ่ และ 3,000 เยนสำหรับเด็ก
  • และนอกจากนี้ จะมีหมวก Helmet ที่จำเป็นควรเช่าด้วย และแว่นตากันแดดกันลมกันหิมะค่ะ

สรุป ค่าใช้จ่าย เล่นสกี Gala Yuzawa สำหรับผู้ใหญ่ ทั้งค่าลิฟท์ ค่าตั๋วชินคันเซ็น ค่าเช่าชุดและอุปกรณ์ทั้งหมด เตรียมไว้คร่าว ๆ ประมาณ 10,000 – 12,000 บาท ต่อคน โดยประมาณ ไม่รวมค่าโรงแรมและค่าอาหารค่ะ แต่ถ้าหากมีตั๋ว Tokyo Wide Pass ก็จะทำให้ค่าใช้จ่ายถูกลงมากกว่านี้ได้ค่ะ เพราะว่าประหยัดค่าตั๋วรถไฟไป-กลับ และได้ส่วนลดค่าเช่าและลิฟท์ต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ

ส่วนใครที่ไป Gala Yuzawa แบบไม่เล่นสกี ก็สามารถทำได้เช่นกัน จ่ายเพียงค่ากระเช้าสำหรับขึ้นไปลานหิมะ ไปถ่ายรูปสวย ๆ ซึ่งวิวสวยมากได้ … บางช่วงที่หิมะตกเยอะก็จะได้เห็นหิมะปกคลุมต้นสนและต้นไม้แบบ Snow Monster ค่ะ นอกจากนี้ กิจกรรมที่ Gala Yuzawa ยังมีอีกมากมาย ทั้งขี่ Snow Mobile Sleigh, เล่นหิมะ และเล่นถาด Sled รวมทั้งขึ้นไปจุดชมวิว The Bell of Love Observation Deck ที่สวยงามเห็นวิวหิมะ หุบเขา สีขาวตระการตาในช่วงฤดูหนาว

รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว

หลังกลับจากเล่นสกี เราแวะลงสถานี Tokyo Station ที่มีร้านอาหาร ขนมหวาน Pokemon Center และของเล่นเด็กให้ช้อปปิ้งมากมาย แวะทานหม้อไฟ Motsunabe ใส่ไข่ปลาค็อดเมนไทโกะ ไส้วัวอร่อย น้ำซุปร้อน ๆ ทำให้เป็นทริปฤดูหนาวที่ฟินและอุ่นสบายท้องมากค่ะ แนะนำว่า ถ้าหากไปเล่นสกีแบบพาเด็กไปด้วย ทางที่ดีก็อย่าเพิ่งหวังว่าจะเอาคุ้ม แต่เน้นสร้างเวลาที่มีคุณภาพและมีความสุข ได้รับประสบการณ์ที่ดีกับลูกและครอบครัวจะดีกว่า และอย่าลืมเผื่อเวลารอคิวร้านอาหาร หรือจองคิวล่วงหน้าไว้ เพราะเมื่อเล่นสกีเสร็จเหนื่อย ๆ ท้องก็อาจจะพร้อมรับประทานหม้อไฟร้อน ๆ หม้อโต ๆ ได้เลยค่ะ

ติดตามเราได้ที่ TikTok: @jellymimi_family และ Instagram @Khun.Panisa

 

<<เช็กราคาที่พักในโตเกียว เรทดีที่สุด!!>>


บทความดีดีที่น่าอ่านต่อ~ ▼


ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi


The post รีวิว เที่ยวญี่ปุ่น เล่นสกี ที่ Gala Yuzawa ไปเช้า-เย็นกลับ ใกล้โตเกียว appeared first on TravelDiDi.

]]>
https://traveldidi.com/travel/japan/%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7-%e0%b9%80%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b5-gala-yuzawa/feed/ 0
5 สกีรีสอร์ท ในฮอกไกโด เล่นสกีที่ญี่ปุ่น ลุยหิมะฟิน ๆ https://traveldidi.com/travel/japan/5-%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%97-%e0%b8%ae%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%94/ https://traveldidi.com/travel/japan/5-%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%97-%e0%b8%ae%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%94/#respond Sun, 23 Jul 2023 09:38:51 +0000 https://traveldidi.com/?p=6526 สัมผัสความตื่นเต้นในการเล่นสกี กีฬาแห่งฤดูหนาว บนหิมะขา […]

The post 5 สกีรีสอร์ท ในฮอกไกโด เล่นสกีที่ญี่ปุ่น ลุยหิมะฟิน ๆ appeared first on TravelDiDi.

]]>
สัมผัสความตื่นเต้นในการเล่นสกี กีฬาแห่งฤดูหนาว บนหิมะขาวโพลน ที่สกีรีสอร์ทในฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น พักผ่อนหย่อนใจเล่นหิมะ คลุกในผงหิมะที่แสนนุ่มเป็นปุยสีขาว พักผ่อนและคลายเครียดได้ในบรรยากาศอบอุ่นของสกีรีสอร์ทเหล่านี้ มาดูกันว่า 5 สกีรีสอร์ท ชั้นนำ ในฮอกไกโดมีที่ใดบ้าง มาชมกันได้เลย

ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi

5 สกีรีสอร์ท ในฮอกไกโด เล่นสกีที่ญี่ปุ่น ลุยหิมะฟิน ๆ

1. Park Hyatt Niseko Hanazono นิเซโกะ

สกีรีสอร์ทหรูชั้นนำในฮอกไกโด ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาโยเท (Mt. Yotei) และเทือกเขานิเซโกะ (Niseko) อันโด่งดัง เป็นสกีรีสอร์ทที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก ตัวอาคารถูกออกแบบสไตล์ร่วมสมัย มีความหรูหราแต่ก็เข้ากันได้ดีกับทัศนียภาพของธรรมชาติรอบๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวที่ปกคลุมไปด้วยความงามของหิมะสีขาวบริสุทธิ์ ไฮไลท์เด็ดของการเล่นสกีที่นี่ คือสามารถขี่ข้ามลานสกีจากภูเขาอันนุปุริไปยังฮานะโซโนะ!

จองที่พัก: สกีรีสอร์ท Park Hyatt Niseko Hanazono นิเซโกะ ฮอกไกโด

5 สกีรีสอร์ท ในฮอกไกโด เล่นสกีที่ญี่ปุ่น ลุยหิมะฟิน ๆ

2. The Vale Rusutsu นิเซโกะ

The Vale Rusutsu หนึ่งในสกีรีสอร์ทที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด การันตีด้วยรางวัล สกีรีสอร์ท ยอดเยี่ยมในญี่ปุ่นติดต่อกันนานถึง 3 ปี แม้จะเพิ่งเปิดได้ไม่นานนัก แต่ก็เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ที่จะช่วยให้วันหยุดช่วงหน้าหนาวกลายเป็นวันพักผ่อนกับธรรมชาติที่แสนพิเศษและน่าจดจำ ไฮไลท์ของรีสอร์ทแห่งนี้คือจุดชมวิวบนดาดฟ้า ที่ได้เตรียมไว้สำหรับผู้เข้าพักได้มานั่งคุยเล่นกับเพื่อนๆ ในชั้นบนสุดพร้อมสูดดมบรรยากาศของธรรมชาติ และชื่นชนกับวิวจากมุมสูงสุดหรูหราตระการตาที่หาที่ไหนไม่ได้

ที่สกีรีสอร์ท The Vale Rusutsu มีกิจกรรมผ่อนคลายมากมาย ทั้งขี่ม้า เรียนสกี สปาและซาวน่า ห้องอบไอน้ำ กีฬาทางน้ำ สนามเทนนิส สวนและสวนน้ำ เส้นทางเดินเขา สระว่ายน้ำในร่ม รวมทั้งสระว่ายน้ำพร้อมวิวและห้องอาบน้ำสาธารณะ เรียกได้ว่าเที่ยวได้ทุกฤดูเลย

จองที่พัก: สกีรีสอร์ท The Vale Rusutsu นิเซโกะ ฮอกไกโด

5 สกีรีสอร์ท ในฮอกไกโด เล่นสกีที่ญี่ปุ่น ลุยหิมะฟิน ๆ

3. Hoshino Resorts Bandaisan Onsen อินะวะชิโระ

Hoshino Resorts Bandaisan Onsen เป็นสกีรีสอร์ทที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันกว้างใหญ่ของภูเขาบันได (Mt. Bandai) ในอุทยานแห่งชาติบันไดอาซาฮิ (Bandai-Asahi National Park) หนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่มีทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติสุดลูกหูลูกตา เรียกได้ว่าไปพักผ่อนอย่างแท้จริง

จองที่พัก: สกีรีสอร์ท Hoshino Resorts Bandaisan Onsen อินะวะชิโระ ฮอกไกโด

5 สกีรีสอร์ท ในฮอกไกโด เล่นสกีที่ญี่ปุ่น ลุยหิมะฟิน ๆ

4. Hoshino Resorts RISONARE Tomamu ฟุระโนะ

สกีรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่มีห้องพักอยู่ในตึกสูงตระหง่านกลางเทือกเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว รายล้อมไปด้วยทิวทัศน์สวยงามที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้นุ่มฟูเหมือนกับหิมะที่ปกคลุมรีสอร์ท สามารถมองเห็นวิวลานสกี ห้องพักมีความเป็นส่วนตัว และสามารถเดินจากสถานีโทมามุ (Tomamu Station) ได้สะดวก ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่คือจุดชมวิวบนภูเขาโทมามุที่ตั้งอยู่ที่ความสูง 1,088 เมตร ที่ชื่อว่าอุนไคเทอเรซ (Unkai Terrace) เป็นจุดชมวิวขอบฟ้าที่มองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาที่ถูกย้อมขาวไปด้วยหิมะจำนวนมากมาย และพอตกดึกก็ยังมีอีเว้นท์สุดพิเศษคือหมู่บ้านน้ำแข็งที่จะถูกจัดขึ้นในหน้าหนาวของทุกปี

จองที่พัก: สกีรีสอร์ท Hoshino Resorts RISONARE Tomamu ฮอกไกโด

แต่ถ้าหากอยากได้โรงแรมที่ใกล้ลานสกีมากกว่า ก็ยังมีอีกโรงแรมที่ใกล้กัน คือ Hoshino Resorts TOMAMU the Tower ค่ะ

5 สกีรีสอร์ท ในฮอกไกโด เล่นสกีที่ญี่ปุ่น ลุยหิมะฟิน ๆ

5. Shizukuishi Prince Hotel โมริโอกะ

Shizukuishi Prince Hotel โรงแรมสกีรีสอร์ท วิวภูเขาอิวาเตะ (Mt. Iwate) ที่ถูกเรียกว่านัมบุฟูจิ (Nambu Fuji) รายล้อมไปด้วยพื้นที่ธรรมชาติที่มีป่าสนต้นใหญ่ พอเข้าสู่ฤดูหนาวก็ถูกย้อมเป็นสีขาวด้วยหิมะไปทั่วอาณาบริเวณ คุณสามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติแบบเปิดโล่งให้ผู้เข้าพักได้ใช้บริการ ช่วยฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี

โรงแรม Shizukuishi Prince Hotel มีให้เช่าทั้งอุปกรณ์สกี และยังมีคลาสเรียนสกีในฤดูหนาว ส่วนในฤดูร้อนและทั่วไปสามารถเล่นกีฬากอล์ฟได้อีกด้วย

ราคา: เริ่มต้นที่ประมาณ 2,600 บาท

จองที่พัก: สกีรีสอร์ท Shizukuishi Prince Hotel โมริโอกะ ฮอกไกโด

สำหรับใครที่กำลังสนใจหรือมีทริปฮอกไกโด ต้องไม่พลาดที่จะไปสัมผัส ประสบการณ์สุดตื่นเต้น เล่นสกีท่ามกลางหิมะ เพื่อเก็บความทรงจำดี ๆ และภาพสวย ๆ พร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ที่คุณต้องตรึงใจ


ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi


The post 5 สกีรีสอร์ท ในฮอกไกโด เล่นสกีที่ญี่ปุ่น ลุยหิมะฟิน ๆ appeared first on TravelDiDi.

]]>
https://traveldidi.com/travel/japan/5-%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%97-%e0%b8%ae%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%94/feed/ 0