การท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคมเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสีสัน ความสดใสและสวยงามของบ้านเมืองและธรรมชาติที่เต็มไปด้วยวิวใบไม้เปลี่ยนสี! … GO GO ชิมอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ ถ่ายรูปสวยๆ กับบรรยากาศสุดประทับใจในงานเทศกาลญี่ปุ่นกัน … ญี่ปุ่นคือประเทศที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะในเดือนตุลาคม ญี่ปุ่นมีเทศกาลมากมายที่ไม่ควรพลาด เทศกาลเหล่านี้เป็นโอกาสที่คุณจะสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด และสนุกสนานไปกับกิจกรรมต่างๆ มากมาย รับรองว่าคุณจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน
ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi
เที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคม ไปไหนดี
เดือนตุลาคมที่ญี่ปุ่นเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วงที่ญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวมักนิยมเที่ยวชมทัศนียภาพที่งดงามของใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงนี้ เช่น ที่เมืองฮอกไกโด จังหวัดซัปโปโร, เมืองนิกโก้ จังหวัด โทชิกิ เป็นต้น … อากาศที่ญี่ปุ่นเดือนตุลาคมเป็นช่วงที่อากาศเริ่มเย็นขึ้น อุณหภูมิเฉลี่ยในจังหวัดส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 14-18 องศาเซลเซียสในช่วงเช้า และในช่วงบ่ายอุณหภูมิอาจสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 19-23 องศาเซลเซียสโดยเฉลี่ย แต่อาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศในแต่ละพื้นที่
คุณอาจสนใจ: เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
พูดถึงเทศกาลและไฮไลท์กิจกรรมน่าเที่ยวที่ญี่ปุ่นเดือนตุลาคม นอกจากเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี ชมทุ่งดอกโคเชีย และถ่ายรูปวิวหญ้าแพมพัสแล้ว ก็ยังมีเทศกาลฮาโลวีนที่ชิบูย่า ที่มีไฮไลท์จัดงานเป็นโลกเสมือนจริง ผู้คนต่างคึกคักแต่งตัวแฟนซีหลากหลายมาถ่ายรูปกัน บริเวณห้าแยกชิบูย่าขึ้นชื่อว่าเป็นงานที่คึกคักที่สุดในญี่ปุ่น และแม้ว่าคุณจะไม่ได้ไปเที่ยวที่ฮอกไกโด แต่ในโตเกียวก็ยังมีงานเทศกาลราเม็งและเทศกาลอาหารฮอกไกโด และอีกมากมาย ถ้าหากคุณอยากรู้ว่ารายละเอียดมีอะไรบ้าง สามารถเช็กข้อมูลด้านล่างนี้ได้เลย
#1 เที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคม – ชมใบไม้เปลี่ยนสี นิกโก้ และ ฮอกไกโด
ฤดูใบไม้ร่วง เป็นหนึ่งในฤดูท่องเที่ยวที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น ชมใบไม้เปลี่ยนเป็นสีสันสดใส แดง เหลือง ส้ม ทั่วทั้งประเทศ และหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นคือทางฝั่งเหนือของญี่ปุ่นและนิกโก้
ในการเที่ยวประเทศญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี มีพิกัดหลายแห่งให้คุณได้เพลิดเพลิน โดยใบไม้แต่ละที่อาจเปลี่ยนสีไม่พร้อมกัน เริ่มต้นเป็นจุดแรกบริเวณฝั่งเหนือของเกาะฮอกไกโด ไล่ลงมาจนถึงโตเกียว โอซาก้า เกาะฮอนชู ... ที่ญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้ และต่อไปนี้คือ
รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี ใกล้โตเกียวและทางภาคเหนือของญี่ปุ่น
- ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko Lake) จังหวัดยามานาชิ
- หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go Village) จังหวัดกิฟุ
- ภูเขาทาคาโอะ (Mount Takao) กรุงโตเกียว
- อุทยานแห่งชาติอะโซะ (Aso National Park) จังหวัดคุมาโมโตะ
- อุทยานแห่งชาติไดเซสึซัง (Daisetsuzan National Park) จังหวัดฮอกไกโด
คุณอาจสนใจ: เที่ยวญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี เดือนกันยายน – เดือนตุลาคม ไปไหนดี
ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ผ่อนคลาย และเป็นเมืองท่องเที่ยวพักผ่อน เมืองเหล่านี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีในประเทศญี่ปุ่น ให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างเต็มที่
อุณหภูมิและสภาพอากาศ
อุณหภูมิและสภาพอากาศของเมืองทางฝั่งเหนือของญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะค่อนข้างเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 10-15 องศาเซลเซียส ในช่วงกลางวันอาจอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย แต่ในตอนกลางคืนจะเย็นลง ดังนั้นจึงควรเตรียมเสื้อผ้าที่มีความหนาพอสมควรสำหรับการเดินทาง เช่น เสื้อจัมเปอร์, เสื้อฮู้ด หรือเสื้อที่ทำด้วยผ้าเมอริโนวูล และอาจเตรียมเสื้อแจ็กเก็ตไปเผื่อสวมใส่ในช่วงค่ำ
เคล็ดลับสำหรับการชมใบไม้เปลี่ยนสี
- วางแผนการเดินทางในช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามที่สุด
- เลือกสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับคุณ แต่ละสถานที่มีความสวยงามที่แตกต่างกันไป
- เตรียมเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักปานกลาง และเตรียมเสื้อแจ็กเก็ตกันหนาวไปเผื่อ โดยอุณหภูมิอาจเย็นกว่าปกติในวันที่ฝนตก และอากาศอาจหนาวเย็นในบริเวณพื้นที่ใกล้ป่า ภูเขา แม่น้ำ และทะเลสาบ
- อย่าลืมพกกล้องถ่ายรูปมาบันทึกภาพความประทับใจของคุณ
#2 เที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคม – ชมดอก Kochia ที่จังหวัดอิบารากิ
หากคุณมีแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคม เรามีอีกหนึ่งสวนดอกไม้แนะนำ เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นถ่ายรูปสวย วิวยอดฮิตที่ห้ามพลาดในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งก็คือจังหวัดอิบารากินั่นเอง
จังหวัดอิบารากิ เป็นจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคคันโต ประเทศญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่ตั้งของสวนฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค (Hitachi Seaside Park) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกด้วยทุ่งดอกโคเชีย (Kochia) สีแดงสดอันตระการตา สามารถนั่งรถไฟจากโตเกียวไปได้ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึงสองชั่วโมง เหมาะสำหรับเป็นทริปเที่ยวเช้า-เย็นกลับจากโตเกียว
ดอกโคเชียเป็นพืชตระกูลหญ้าที่มีลักษณะเป็นพุ่มกลมขนาดเล็ก ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ดอกโคเชียจะเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีแดงสด สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกโคเชียอยู่ที่ช่วงปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม
สวน Hitachi Seaside Park มีดอกไม้อะไรให้ชมบ้าง
นอกจากทุ่งดอกโคเชียแล้ว สวนฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค ยังมีดอกไม้นานาชนิดที่สวยงามให้ชมตลอดทั้งปี เช่น ดอกเนโมฟีลา (Nemophila) ดอกทิวลิป (Tulip) ดอกกุหลาบ (Rose) และอื่นๆ อีกมากมาย
วิธีการเดินทางไปสวนดอกไม้ Hitachi Seaside Park จากโตเกียว
สวนฮิตาชิซีไซด์พาร์ค ตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งถึงสองชั่วโมงโดยรถไฟและต่อรถบัส ... การเดินทางจากโตเกียวไปยังสวนฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค สามารถทำได้โดยวิธีดังนี้
1. ขึ้นรถไฟ
จากสถานีโตเกียวสเตชั่นไปสวนดอกไม้ Hitachi Seaside Park คุณสามารถขึ้นรถไฟ JR สาย JR Utsunomiya Line ไป Ueno Station แล้วต่อรถไฟขบวน Limited Express Train ไปสถานี Katsuta Station ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 17 นาที ค่าโดยสารประมาณ 3,820 เยน
2. ต่อรถบัส
เมื่อถึงสถานี Katsuta Station บริเวณด้านนอกสถานีจะมีรถบัสเดินทางไปยัง Hitachi Seaside Park ค่าเดินทางไปกลับประมาณ 1,200 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
แผนที่: https://bit.ly/3DXTJyc
ค่าเข้าชม
ค่าเข้าชมสวนฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค ผู้ใหญ่ 700 เยน เด็ก 300 เยน สวนฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 9:30 น. ถึง 17:00 น. ทุกวัน
การเดินทางไปชมดอกโคเชียที่สวนฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค ไม่ใช่เรื่องยาก สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวและมีการเดินทางที่สะดวกสบาย ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง สวนฮิตาชิ ซีไซด์ พาร์ค จะเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมดอกโคเชียสีแดงสดอันตระการตา นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทุ่งดอกโคเชียได้อย่างเต็มที่และเก็บภาพความประทับใจกลับไปเป็นที่ระลึก คู่รักบางคู่เดินทางมาถ่ายรูปภาพพรีเวดดิ้งที่ทุ่งดอกโคเชียกันด้วยค่ะ
คุณอาจสนใจ
#3 เที่ยวเทศกาลอาหารฮอกไกโด ในโตเกียว ที่ Yoyogi Park เดือนตุลาคม
หมายเหตุ: รูปภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับบทความ
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูเก็บเกี่ยวและการเฉลิมฉลองครั้งยิ่งใหญ่ในญี่ปุ่น เนื่องจากมีอาหารและวัตถุดิบตามฤดูกาลหลากหลายชนิดให้ได้ลิ้มลอง จึงมีการจัดเทศกาลอาหารจำนวนมากที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงฤดูกาลนี้ และงานเทศกาลอาหารที่ใหญ่ที่สุดและเป็นไฮไลท์ในเดือนตุลาคมก็คือเทศกาลอาหารฮอกไกโด 'The Road of Hokkai-Foods' ซึ่งมักจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคมของทุกปี ใครที่มาเที่ยวโตเกียวช่วงนี้ก็ห้ามพลาดเทศกาลนี้เป็นอันขาด
งานเทศกาลอาหารกลางแจ้งนี้จะจัดขึ้นเป็นเวลาประมาณ 4 วัน ที่สวน Yoyogi ในชิบูย่า ใจกลางกรุงโตเกียว คุณจะได้พบร้านค้ากว่า 80 ร้านและเมนูอาหารอร่อยกว่า 100 รายการจากเกาะฮอกไกโด ที่มีตั้งแต่อาหารทะเลไปจนถึงร้านราเม็งชื่อดังระดับภูมิภาค เป็นอีกไฮไลท์ที่แสนสนุกและมอบความอร่อยที่คุณจะสามารถลิ้มรสอาหารฮอกไกโดได้ที่โตเกียว
ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาลอาหารฮอกไกโด ครั้งที่ 33 เดือนกันยายน - ตุลาคม 2023
- สถานที่จัดงาน : สวนโยโยงิ Yoyogi Park Outdoor Music Hall Square (ถัดจากหอกระจายเสียง NHK Broadcasting Hall)
- วันที่ : 28 กันยายน - 1 ตุลาคม 2023
- เวลาจัดงาน : 10:00-19:00 น.
- ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง
- ที่อยู่: 2–3 Jinnan, Shibuya-ward, Tokyo
- การเดินทางด้วยรถไฟ : ลงสถานี Harajuku station (JR Yamanote line) เดินต่อประมาณ 7 นาที
- หรือขึ้นรถไฟสาย Tokyo Metro Chiyoda line ลงสถานี Meiji Jingumae Station และเดินต่อประมาณ 7 นาที
- หรือขึ้นรถไฟ : ลงที่สถานีโยโยงิ (Yoyogi Station) ทางออก 1 หรือ 2
- เดิน : จากสถานีโยโยงิ ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาที
- รถบัส : ลงที่ป้ายโยโยงิโคเอ็น (Yoyogi Koen)
เคล็ดลับ
เทศกาลอาหารฮอกไกโดเป็นงานยอดนิยม ดังนั้นแนะนำให้มาแต่เช้าเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดเตรียมเงินสดให้พร้อม เพราะบูธอาหารส่วนใหญ่ไม่รับบัตรเครดิตอย่าลืมสวมรองเท้าที่สบาย เพราะคุณจะเดินเยอะมากข้อมูลเพิ่มเติมเช็กได้ที่เว็บไซต์ทางการ https://www.hokkai-syokudo.jp/yoyogi
#4 เที่ยวญี่ปุ่นเดือนพฤศจิกายน – ลิ้มรสราเม็งรสเด็ด ในเทศกาลราเม็งในโตเกียว
อีกหนึ่งเทศกาลน่าเที่ยวญี่ปุ่นเดือนพฤศจิกายน กรุงโตเกียว คือ เทศกาลราเม็งในโตเกียว (Tokyo Ramen Festa 2023) หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่า Tokyo Ramen Show! เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในฤดูใบไม้ร่วงที่สวนสาธารณะโคมาซาวะในเขตเซตางายะ โตเกียว เทศกาลนี้รวบรวมร้านราเม็งชั้นนำจากทั่วญี่ปุ่นกว่า 40 ร้านมาให้บริการราเม็งในราคาที่ย่อมเยา นักท่องเที่ยวสามารถเลือกลิ้มลองราเม็งหลากหลายประเภท ตั้งแต่ราเม็งซุปกระดูกหมู ราเม็งซุปไก่ ราเม็งซุปมิโซะ ราเม็งซุปโชยุ ไปจนถึงราเม็งรสเผ็ด นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น การประกวดทำราเม็ง การสาธิตการทำราเม็ง และการแข่งขันกินราเม็ง
เป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ในแต่ละปีมีผู้คนจำนวนมากมาร่วมงาน เทศกาลนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสกับวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นและลิ้มลองราเม็งรสเลิศจากทั่วญี่ปุ่น
ข้อมูลเกี่ยวกับเทศกาลราเม็งในโตเกียว (Tokyo Ramen Festa 2023)
- สถานที่จัดงาน: สวนสาธารณะโคมาซาวะ (Komazawa Olympic Park)
- แผนที่: https://goo.gl/u4qrLG
- วันที่จัดงาน : 26 ตุลาคม - 5 พฤศจิกายน 2023
- เวลา: 10:30 น. - 20:30 น.
- หมายเหตุ: วันที่ 31 ตุลาคม และ 5 พฤศจิกายน งานเลิก 18:00 น.
- ขายตั๋วในวันงานจนถึง 20:00 น. เสิร์ฟออเดอร์สุดท้าย 20:10 น. แต่วันสุดท้ายงานจบ 18:30 น. และเสิร์ฟออเดอร์สุดท้าย 17:40 น.
- การซื้อบัตรล่วงหน้า: จำหน่ายบัตรล่วงหน้าที่ร้าน 7-Eleven ทั่วประเทศ เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2023
- ค่าเข้าชม: ฟรี
- Website: เว็บไซต์ทางการ
- ***หมายเหตุ*** ค่าเข้า Komazawa Olympic Park คือ ฟรี แต่ตั๋วสำหรับซื้อราเม็งราคาประมาณ 1,000 เยน สามารถซื้อตั๋วราเม็งล่วงหน้าได้ที่ร้าน 7-11 ทั่วประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป
วิธีเดินทาง
รถไฟ: สถานี Komazawa Daigaku ทางออก Komazawa Olympic Park (สาย Tokyu Den-en-Toshi)
รถบัส: ป้ายรถเมล์ Komazawa Olympic Park (สาย Tokyu Bus)
ข้อควรรู้
- ฟรีค่าเข้า Komazawa Olympic Park แต่ตั๋วสำหรับซื้อราเม็งราคาประมาณ 1,000 เยน สามารถซื้อตั๋วราเม็งล่วงหน้าได้ที่ร้าน 7-11 ทั่วประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป
- เทศกาลราเม็งในโตเกียวเป็นงานที่มีผู้คนจำนวนมากมาร่วมงาน นักท่องเที่ยวควรเผื่อเวลาในการเดินทางไป-กลับและต่อแถวซื้ออาหาร
- เทศกาลราเม็งในโตเกียวมีร้านราเม็งมากมายให้เลือก นักท่องเที่ยวควรลองชิมราเม็งหลายร้านเพื่อหาร้านที่ตัวเองชอบ
- เทศกาลราเม็งในโตเกียวเป็นงานกลางแจ้ง นักท่องเที่ยวควรเตรียมร่มและเสื้อกันฝนไว้เผื่อฝนตก
กำลังหาแพลนเที่ยวญี่ปุ่นฤดูใบไม้ร่วง?
เรามีแพลนเที่ยวญี่ปุ่นเดือนพฤศจิกายน 5 วัน 4 คืน ในโตเกียวและใกล้ ๆ มาฝาก คุณอาจสนใจ แจกแพลนเที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน แพลนเที่ยวโตเกียว เดือนพฤศจิกายน
#5 เที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคม – เที่ยวฮาโลวีน ชิบูย่า
หากคุณไปเที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคม นอกจากใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว อีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในช่วงปลายเดือนตุลาคมคือเทศกาลฮาโลวีนที่ญี่ปุ่น! ชิบูย่าคือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด
ต่อไปนี้คือกิจกรรมที่คุณสามารถเพลิดเพลินได้ที่ชิบูย่าในช่วงเทศกาลฮาโลวีน
- แต่งตัวเป็นผี ปีศาจ หรือตัวละครต่างๆเข้าร่วมขบวนพาเหรดฮาโลวีน
- ชมการแสดงดนตรีและเต้นรำ
- กินขนมและเครื่องดื่มฮาโลวีน
- เล่นเกมส์ฮาโลวีน
- ถ่ายรูปกับผู้คนแต่งตัวเป็นผีสนุกสนานกับบรรยากาศฮาโลวีนที่คึกคัก
เทศกาลฮาโลวีนชิบูย่าเป็นเทศกาลที่สนุกสนานสำหรับทุกเพศทุกวัย หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่จะเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีน ชิบูย่าคือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด
การเดินทาง
ชิบูย่าเป็นย่านที่ตั้งอยู่ใจกลางโตเกียว สามารถเดินทางได้โดยรถไฟใต้ดิน ลงที่สถานีชิบูย่า (Shibuya Station)
เวลาที่ดีที่สุด
เทศกาลฮาโลวีนชิบูย่าจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือในช่วงเย็น ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. เป็นต้นไป
ข้อควรระวัง
เนื่องจากเทศกาลฮาโลวีนชิบูย่าเป็นเทศกาลที่ได้รับความนิยมมาก จึงอาจมีความแออัดมาก แนะนำให้วางแผนการเดินทางล่วงหน้า และหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงหัวค่ำ
ข้อควรรู้
- การแต่งกายเป็นผี ปีศาจ หรือตัวละครต่างๆ เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ในเทศกาลฮาโลวีนชิบูย่า แต่ควรแต่งกายอย่างสุภาพและเรียบร้อย
- ห้ามดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะ
- ห้ามพกอาวุธหรือสิ่งของอันตรายในที่สาธารณะ
- โปรดเคารพสิทธิและทรัพย์สินของผู้อื่น
ยังไม่จุใจ? ที่ญี่ปุ่นยังมีเทศกาลฮาโลวีนจัดขึ้น ณ สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ และนี่เป็นลิสต์รายชื่อและพิกัดที่เที่ยวฮาโลวีน ที่ญี่ปุ่น ที่คุณสามารถไปร่วมแจมได้
- ชิบูย่า ฮาโลวีน
- งานฮาโลวีน ที่สวนสนุก Universal Studios Japan โอซาก้า
#6 เที่ยวเกาะฮอนชู ญี่ปุ่น เดือนตุลาคม – Shimanami Kaido
Shimanami Kaido เป็นเส้นทางจักรยานที่ทอดยาวผ่าน 6 เกาะในทะเลเซโตะอินาริ (Seto Inland Sea) เชื่อมต่อระหว่างเมือง Onomichi ในจังหวัดฮิโรชิมากับเมือง Imabari ในจังหวัดเอฮิเมะ ระยะทางทั้งหมดประมาณ 70 กิโลเมตร
เส้นทางนี้ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักปั่นจักรยานจากทั่วโลก ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลเซโตะอินาริ สะพานแขวนที่ทอดยาว และหมู่บ้านชาวประมงที่น่ารัก
เส้นทางการท่องเที่ยว Shimanami Kaido
จุดเริ่มต้นของเส้นทางจักรยาน Shimanami Kaido คือที่เมือง Onomichi ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ Honshu เมือง Onomichi เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เต็มไปด้วยวัดวาอารามและศาลเจ้ามากมาย หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมือง Onomichi คือ วัด Itsukushima ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ Miyajima
จากเมือง Onomichi เส้นทางจักรยานจะมุ่งหน้าไปยังเกาะต่างๆ ได้แก่ เกาะ Mukaishima, เกาะ Innoshima, เกาะ Ikuchijima, เกาะ Omishima และเกาะ Honjima แต่ละเกาะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป เกาะ Mukaishima เป็นเกาะที่มีสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก เกาะ Innoshima เป็นเกาะที่มีวัดมากมาย เกาะ Ikuchijima เป็นเกาะที่มีหมู่บ้านชาวประมงที่น่ารัก เกาะ Omishima เป็นเกาะที่มีทะเลสาบที่สวยงาม และเกาะ Honjima เป็นเกาะที่มีชายหาดที่สวยงาม
จุดสิ้นสุดของเส้นทางจักรยาน Shimanami Kaido คือที่เมือง Imabari ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ Shikoku เมือง Imabari เป็นเมืองที่มีสะพานแขวนที่ยาวที่สุดของญี่ปุ่น สะพานแขวนนี้เชื่อมระหว่างเกาะ Shikoku กับเกาะ Honshu
Shimanami Kaido เป็นเส้นทางจักรยานที่เหมาะสำหรับทุกระดับประสบการณ์ เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางเรียบและลาดชันน้อย ตลอดเส้นทางมีจุดพักจักรยานมากมาย รวมถึงห้องน้ำ ร้านอาหาร และร้านขายของชำ
คุณสามารถเช่าจักรยานได้จากบริษัททัวร์ต่างๆ ในเมือง Onomichi หรือ Imabari คุณสามารถปั่นจักรยานได้ตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงเย็น ใช้เวลาในการปั่นประมาณ 4-5 ชั่วโมง
#7 เที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคม ทาคายาม่า – ชมเทศกาล Takayama Festival
เทศกาลทาคายาม่า (Takayama Festival) เป็นเทศกาลประจำปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองทาคายาม่า จังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น เทศกาลนี้จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน) และฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม) เทศกาลทาคายาม่าเป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 เทศกาลที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่น ร่วมกับเทศกาลกิออน (Gion Festival) ที่เกียวโต และเทศกาลชิชิบุ (Chichibu Festival) ที่ไซตามะ
เทศกาลทาคายาม่ามีจุดเด่นอยู่ที่ขบวนแห่รถทรงสูง (Yatai) กว่า 10 คัน ซึ่งประดับประดาอย่างสวยงามด้วยกระดาษและไม้แกะสลัก แต่ละคันมีน้ำหนักกว่า 10 ตัน และต้องใช้คนลากกว่า 100 คน ขบวนแห่รถทรงสูงจะเคลื่อนขบวนไปตามถนนสายหลักของเมืองทาคายาม่า ท่ามกลางเสียงดนตรีและเสียงเชียร์จากผู้คนที่มาชมเทศกาลกันอย่างคับคั่ง
นอกจากขบวนแห่รถทรงสูงแล้ว เทศกาลทาคายาม่ายังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การแสดงระบำพื้นเมือง การแสดงดนตรี และการแสดงคาบูกิ เทศกาลทาคายาม่าเป็นเทศกาลที่สนุกสนานและมีชีวิตชีวา นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองทาคายาม่าไม่ควรพลาดโอกาสชมเทศกาลทาคายาม่า
ข้อมูลการเที่ยวเทศกาลทาคายาม่า
ช่วงเวลาจัดงาน: เทศกาลทาคายาม่าจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง คือ
- ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน)
- ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม)
ที่ตั้ง: เมืองทาคายาม่า จังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น
วิธีการเดินทาง: เมืองทาคายาม่าสามารถเดินทางโดยรถไฟจากโตเกียวได้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ค่าใช้จ่าย: ค่าเข้าชมเทศกาลทาคายาม่าฟรี
ที่พัก: เมืองทาคายาม่ามีที่พักให้เลือกมากมาย ทั้งโรงแรม เรียวกัง และโฮสเทล
อาหารขึ้นชื่อ ที่ควรกิน เมื่อไปเที่ยวคาทายาม่า
อาหารท้องถิ่นของเมืองทาคายาม่าที่ห้ามพลาดคือ
- ทาโกะยากิ (ลูกชิ้นปลาหมึกย่าง)
- ฮิดะโกเบจิ (เนื้อฮิดะย่าง)
#8 ชมดอกไม้ไฟญี่ปุ่น เดือนตุลาคม – Tamagawa Fireworks Festival 2023
เทศกาลดอกไม้ไฟ Tamagawa เป็นหนึ่งในเทศกาลดอกไม้ไฟที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น จัดขึ้นทุกปีในช่วงต้นเดือนตุลาคมของทุกปีริมแม่น้ำ Tamagawa ในกรุงโตเกียว เทศกาลนี้ขึ้นชื่อเรื่องดอกไม้ไฟที่มีสีสันสดใสและรูปแบบที่หลากหลาย ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวหลายพันคนมาชมเทศกาลนี้
เทศกาลดอกไม้ไฟ Tamagawa เวลา 19:00 น. เป็นต้นไป สถานที่จัดงานคือริมแม่น้ำ Tamagawa ใกล้กับสถานี Futakotamagawa คุณสามารถเดินทางมายังสถานที่จัดงานได้โดยการนั่งรถไฟสาย Keio Inokashira Line มาลงที่สถานี Futakotamagawa จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที
ค่าเข้าชมเทศกาลดอกไม้ไฟ Tamagawa คือ 1,000 เยนสำหรับผู้ใหญ่และ 500 เยนสำหรับเด็ก คุณสามารถซื้อตั๋วเข้าชมได้ที่หน้างานหรือซื้อล่วงหน้าทางออนไลน์
ภายในงานจะมีร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มมากมาย คุณจึงสามารถซื้อของกินและเครื่องดื่มมารับประทานระหว่างชมดอกไม้ไฟได้ นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดงดนตรีสดอีกด้วย
ข้อมูลงาน เทศกาลดอกไม้ไฟทามากาวะ (Tamagawa Fireworks Festival) ปี 2566
- ชื่อภาษาญี่ปุ่น: 世田谷区たまがわ花火大会
- พิกัด: Futakotamagawa Station
- วันที่: 21 ตุลาคม 2023 / 2566
- เวลา: 18:00 - 19:00 น.
- ค่าเข้า: ฟรี
- สภาพอากาศ: อุณหภูมิเฉลี่ย 13-23 องศาเซลเซียส
- หมายเหตุ: ทางออแกไนเซอร์อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกงาน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศหรือปัจจัยที่เกี่ยวข้อง สามารถเช็กข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ทางการของผู้จัดงาน
#9 ถ่ายรูปวิวทุ่งหญ้าซูซูกิ ที่ Sengokuhara Pampas Grass Field
ทุ่งหญ้าซูซูกิเซนโงกุฮาระ (Sengokuhara Pampas Grass Field) เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมือง Hakone จังหวัด Kanagawa ประเทศญี่ปุ่น ทุ่งหญ้าแห่งนี้มีต้นหญ้าซูซูกิ หรือ หญ้าแพมพัส (Pampas Grass) ปกคลุมทั่วพื้นที่ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นหญ้าซูซูกิจะเปลี่ยนเป็นสีทองอร่าม ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าใส ทำให้เกิดทิวทัศน์ที่สวยงามราวกับภาพวาด
ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยว
Sengokuhara Pampas Grass Field เป็นหนึ่งในจุดชมวิวยอดนิยมของเมือง Hakone นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมทุ่งหญ้าแห่งนี้ได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาชมคือในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณเดือนกันยายน - พฤศจิกายน) ในช่วงนี้ต้นหญ้าซูซูกิจะเปลี่ยนสีเป็นสีทองอร่ามสวยงามที่สุด
กิจกรรมน่าทำที่ Sengokuhara Pampas Grass Field
เมื่อมาถึงทุ่งหญ้า Sengokuhara Pampas Grass Field นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมทุ่งหญ้า ถ่ายรูปกับต้นหญ้าซูซูกิ หรือนั่งปิกนิกบนเนินหญ้า บรรยากาศที่ทุ่งหญ้าแห่งนี้เงียบสงบและร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
สถานที่ท่องเที่ยวในฮาโกเน่ ใกล้ ๆ ทุ่งหญ้าซูซูกิ
นอกจากทุ่งหญ้าซูซูกิแล้ว บริเวณใกล้เคียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น Hakone Open-Air Museum, Hakone Ropeway และ Hakone Shrine นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาทั้งวันในการเที่ยวชมทุ่งหญ้า Sengokuhara Pampas Grass Field และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในเมือง Hakone
วิธีการเดินทาง
การเดินทาง : ตั้งอยู่ห่างจากสถานี Hakone-Yumoto ประมาณ 30 นาทีโดยรถบัส นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถบัสสาย Hakone Tozan Bus Line T หรือ Odakyu Bus ลงที่ป้ายรถบัส Sengoku Kogen
ช่วงเวลาในการเข้าชม
- เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี
- ในช่วงฤดูร้อน (ประมาณเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม) ทุ่งหญ้าแห่งนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 9:00 น. ถึง 18:00 น.
- ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณเดือนกันยายน - พฤศจิกายน) ทุ่งหญ้าแห่งนี้จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 9:00 น. ถึง 19:00 น.
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย ในการเข้าชมทุ่งหญ้า
ข้อควรปฏิบัติ
- ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าทุ่งหญ้า
- ห้ามเก็บต้นหญ้าซูซูกิไป
- ห้ามทิ้งขยะ
- โปรดช่วยกันรักษาความสะอาดของทุ่งหญ้า
This post was created with our nice and easy submission form. Create your post!