สัมผัสความเป็นธรรมชาติที่ไม่เหมือนใครกับ 16 ‘ที่เที่ยวฟุกุโอกะ’ … วัฒนธรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปีหลังนี้ ที่เที่ยวฟุกุโอกะ หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า “Fukuoka” ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ทุกคนควรต้องไปสัมผัสประสบการณ์ดีๆด้วยตัวเองสักครั้งหนึ่ง
ที่เที่ยวฟุกุโอกะ เป็นการผสมผสานระหว่างงานศิลปะ ธรรมชาติที่งดงาม และประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่งได้อย่างลงตัว สถานที่แห่งนี้เป็นเมืองที่เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ อยากพบประสบการณ์ในศิลปะที่ไม่เหมือนใคร และยังมีย่าน ‘ฮากาตะ’ (Hakata) ชื่อดัง ที่เปรียบเสมือนแหล่งวัฒนธรรมแห่งอาหารอันเลิศรสขึ้นชื่อของประเทศญี่ปุ่น เมนูหม้อไฟแห่งฮากาตะมีชื่อเสียงโด่งดัง อย่างเมนู ‘มตสึนาเบะ’ หรือหม้อไฟไส้วัว และเมนูไข่ปลาคอดที่กินกับอะไรก็อร่อย มาแล้วต้องลองกินดูสักครั้ง และไม่พลาดที่จะซื้อกลับเป็นของฝาก … ใครไปเที่ยวฟุกุโอกะถือว่าโชคดี เพราะที่นี่มีอาหารฮากาตะอร่อย ๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ศิลปะ และทางธรรมชาติที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีชุมชนที่อบอุ่นพร้อมที่จะต้อนรับทุกท่านที่มาเที่ยวเมืองฟุกุโอกะอีกด้วย
ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi
#1 teamLab Fukuoka
ที่เที่ยวในฟุกุโอกะแนวพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิตอล รวบรวมผลงานศิลปะอันงดงามที่แสดงออกมาในรูปแบบดิจิตอลไว้ด้วยกันหลากหลายธีม จุดเด่นและความพิเศษของพิพิธภัณฑ์นี้คืองานศิลปะที่ชื่อว่า “ป่าแห่งการรวบรวม” และ “ป่าแห่งการเคลื่อนไหว” ซึ่งเป็นงานศิลปะแบบอินเทอร์แอคทีฟ (Interactive Art) เป็นพื้นที่ทางกายภาพที่สร้างสรรค์ให้กับสมองส่วนฮิปโปแคมปัสและประสาทสัมผัสของร่างกาย!
เวลาเปิด-ปิด: วันธรรมดา เปิด 11:00-20:00 น. | วันเสาร์-อาทิตย์เปิด 10:00-20:00 น.
ค่าเข้า: ประมาณ 547.53 บาท
วิธีการเดินทาง: นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Tōjinmachi Station จากนั้นเดินประมาณ 15 นาทีไปยัง teamLab Forest
แผนที่: https://bit.ly/3PG0ytO
#2 สวนสาธารณะริมทะเลโมโมชิ (Momochi Seaside Park)
สถานที่ท่องเที่ยวฟุกุโอกะ สวนสาธารณะริมทะเลโมโมชิ (Momochi Seaside Park) เป็นอีกแลนมาร์คที่เที่ยวฟุกุโอกะที่ต้องไปในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี สวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่ในตัวเมืองฟุกุโอกะ อยู่ไม่ไกลจาก Fukuoka Tower จึงสามารถวางแผนไปเที่ยวพร้อมกันได้ จุดเด่นของที่นี่คือวิวดีสวยน่าไป มีการตกแต่งดีไซน์ที่แลดูสุดคูล และมีต้นไม้เรียงไปตามแนวทางเดินยาวไปจนสุดสายตา ซึ่งสามารถเลือกเดินบริเวณสวนโมโมชิหรือจะเดินเล่นชิลชิลริมทะเลบนทรายหาดก็ได้ เป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสบรรยากาศชายหาดทะเลของญี่ปุ่นเลย
เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง
ค่าเข้า: ฟรี
วิธีการเดินทาง
- เดินทางด้วยรถบัส: ขึ้นรถบัสจาก Tenjin ใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที
- เดินทางด้วยรถไฟ: ขึ้นรถไฟมาลงที่สถานี Nishijin Station หรือ Tojinmachi subway station แล้วเดินต่อประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์: www.marizon-kankyo.jp
แผนที่: https://bit.ly/46BopSa
#3 ฟุกุโอกะทาวเวอร์ (Fukuoka Tower)
มาถึงฟุกุโอกะแล้ว ที่เที่ยวอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้ก็คือ ‘Fukuoka Tower’ ที่ต้องมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกสักหน่อย และเรายังสามารถขึ้นไปบนตึกเพื่อชมทะเลและเมือง Fukuoka บนจุดชมวิวได้ เป็นจุดแลนด์มาร์คที่ชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองนี้ และเป็นหอคอยริมทะเลที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น รับรองว่าวิวหลักแสนมากเลยค่า
เวลาเปิด-ปิด: 9:30-22:00 น.
วิธีการเดินทาง
-
เดินทางด้วยรถบัส: ขึ้นรถบัสหมายเลข 306 จากสถานี Hakata Station หรือ รถบัสหมายเลข 302 จากสถานี Tenjin Station มาลงที่ Fukuoka Station ได้เลย
-
เดินทางด้วยรถไฟ: นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Nishijin Subway Station แล้วเดินต่อประมาณ 20 นาที
แผนที่: https://bit.ly/48KBs5x
#4 วัดนันโซอิน (Nanzoin Temple)
วัดนันโซอินเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางไสยาสน์(พระนอน) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ที่สำคัญคือพระพุทธรูปองค์นี้หนักถึง 300 ตัน ซึ่งนับว่าใหญ่กว่าหลวงพ่อโตเสียอีก วัดนี้อยู่กลางธรรมชาติซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ และภูเขาโอบล้อมทำให้บรรยากาศดีมากๆ มาถึงฟุกุโอกะแล้วก็ต้องไปเยือนวัดนันโซอินเสียหน่อยนะคะ
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-16:30 น.
ค่าเข้า: ฟรี
วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี Kido Nanzoin-mae Station แล้วเดินต่อประมาณ 3 นาที
เว็บไซต์: https://nanzoin.net
แผนที่: https://bit.ly/3tqPRE3
#5 สวนริมทะเลยูมิโนนะกะ (Uminonakamichi Seaside Park)
เดินเล่นชมดอกไม้ตามฤดูกาลที่สวนริมทะเลยูมิโนนะกะ สถานที่ท่องเที่ยวฟุกุโอกะยอดฮิตอีกแห่งที่นอกจากจะมีสวนดอกไม้สวย ๆ ตามฤดูกาลแล้ว ใกล้กันก็ยังมีสวนสัตว์เล็ก ๆ ให้เพลิดเพลิน ใช้เวลาได้เป็นค่อนวันที่นี่
เวลาเปิด-ปิด: 9:30-17:30 น.
ค่าเข้า: ประมาณ 112 บาท (ขึ้นอยู่กับค่าเงิน)
วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี Uminonakamichi station แล้วเดินต่อประมาณ 1 นาที
แผนที่: https://bit.ly/3ZLkFLA
#6 สวนโอโฮริ (Ohori Park)
สวนโอโฮริแห่งฟุกุโอกะ แลนด์มาร์กที่น่าไปเยือนเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงที่นี่ก็มีต้นแปะก๊วย หรือจะนั่งเล่นชมวิวทะเลสาบสูดกลิ่นอายกันสดชื่นของธรรมชาติและไม้ป่านานาพันธุ์ที่นี่ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน
เวลาเปิด-ปิด: 24 ชั่วโมง
ค่าเข้า: ฟรี
วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี Ohorikoen Station แล้วเดินตามป้ายบอกไปยังสวนสาธารณะ Ohori Park
เว็บไซต์: https://www.ohorikouen.jp
แผนที่: https://bit.ly/3F8oVeJ
#7 ยะไต (Yatai)
เดินเล่นเที่ยวแผงยะไตในฟุกุโอกะ ซดราเมนร้อน ๆ ในร้านแผงลอยข้างทางพร้อมกับบรรยากาศยามเย็นพลบค่ำริมแม่น้ำรอบ ๆ ใจกลางเมือง ลองกินราเมนซุปทงคตสึหรือน้ำซุปกระดูกหมูสีขาวซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของราเมงฮากาตะฉบับฟุกุโอกะ หรือใครอยากจะลองทานราเมงที่ “Ramen Stadium” ก็มีให้ลองอีก 8 ร้าน ในตึก Canal City Hakata
- แผงยะไตริมแม่น้ำนากะฝั่งเหนือ : 1-8-25 Nakasu, Hakata-ku
- Ramen Stadium : ชั้น 5 อาคาร Canal City Hakata | ที่อยู่: 1 Chome-2 Sumiyoshi, Hakata Ward, Fukuoka, 812-0018 (แผนที่)
#8 ย่านไดเมียว (Daimyo)
ย่านเด็กแนว ที่เต็มไปด้วยวัยรุ่นแต่งตัวสไตล์ฮิปสเตอร์ มีคาเฟ่ ร้านอาหาร และร้านขายเสื้อผ้าวินเทจเก๋ ๆ เพียบ
- UNION3 大名店 : ชั้น 1 อาคาร Basic Daimyo (ベイシック大名) , 1-2-20 Daimyo, Chuo-ku +81927378997
- Eureka : 1-14-18 Daimyo, Chuo-ku 092-716-1564
วิธีการเดินทาง
- แผนที่ : https://bit.ly/3rRMTYB
#9 เกาะแมว ญี่ปุ่น (Ainoshima Island)
ในฟุกุโอกะมีคาเฟ่แมวและคาเฟ่สัตว์ต่าง ๆ หลากหลายแห่ง แต่ที่เป็นไฮไลท์และเป็นไวรัลไปทั่วโลกก็คือ “เกาะแมว” หรือ เกาะไอโนะชิมะ (Ainoshima Island) แห่งฟุกุโอกะ ที่มีแมวจรจัดจำนวนมากมาอาศัยอยู่ โดยบรรดาทาสแมวสามารถพบกับเหล่าลูกแมวน่ารักโดยการนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปยังเกาะ ที่ท่าเรือ Shingu เหมาะเป็นทริปผจญภัยสำหรับทาสแมวโดยเฉพาะเลยหละ!
วิธีการเดินทาง
เกาะ Ainoshima Island: นั่งเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือ Shingu Port, 811-0116 Fukuoka-ken, Kasuya-gun, Shingu-machi, Minato
โทร: +81929620238
แผนที่: https://bit.ly/46Hlk31
#10 ตลาดยานากิบาชิ (Yanagibashi Market)
ตลาดยานากิบาชิ รู้จักกันในชื่อ ‘ครัวของฮากาตะ’ เป็นตลาดที่มีเสน่ห์ ตกแต่งด้วยธงหลากสี ตื่นตาตื่นใจกับผลผลิตตามฤดูกาลที่มีทั้ง พืชผัก เนื้อปลา เนื้อสัตว์ ขนมหวาน โดยไฮไลท์อาหารที่คุณอาจลองที่นี่คือลองชิมเบอร์เกอร์ยานากิบาชิที่ทำจากทอดมันปลา เป็นมื้อเที่ยงฟิน ๆ
เวลาเปิด-ปิด: 8:00-18:00 ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้า (ปิดทุกวันอาทิตย์)
ค่าเข้า: ฟรี
วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี JR Hakata Station แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที
เว็บไซต์: https://yanagibashi-rengo.net
#11 ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู (Dazaifu Tenmangu Shrine)
ศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu เป็นศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่เป็น ‘ที่เที่ยวฟุกุโอกะ’ ที่โด่งดังด้านการขอพรเรื่องการเรียนและวิชาการและยังขึ้นชื่อในความสวยงามของด้วยบ๊วยที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ ผู้คนต่างแห่กันมาชมศาลเจ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีชมพูอ่อนที่ปกคลุมทั่วพื้นที่
ภายในบริเวณศาลเจ้า คุณจะ พบกับห้องโถงที่อุทิศให้กับเทพเจ้าต่าง ๆ โดยจุดสำคัญอยู่ที่ห้องโถงหลักที่เป็นที่บูชาวิญญาณของ สุกาวาระ โนะ มิจิซาเนะ ที่ภายหลังได้รับการสักการะบูชาในฐานะเทพ ‘เท็นจินซามะ (天神様 / Tenjin-sama)’ ที่จุดนี้จึงเป็นจุดที่คนมาสวดมนต์และขอพรเรื่องการเรียนและวิชาการกัน เพราะสมัยที่ยังมีชีวิต มิจิซาเนะ แห่งตระกูลสุกาวาระ มีชื่อเสียงในด้านวิชาการและตระกูลแห่งนักปราชณ์นั่นเอง และท่านมิจิซาเนะยังชื่นชอบดอกบ๊วยมาก ที่ศาลแห่งนี้จึงมีการปลูกดอกบ๊วยเอาไว้มากมาย ซึ่งจะบานสวยงามในฤดูใบไม้ผลิค่ะ
ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกุ เป็นที่เที่ยวใก้ลฟุกุโอกะที่เหมาะสำหรับสวดมนต์ขอพรและชมดอกบ๊วยงาม ๆ ที่สุดเลย
เวลาเปิด-ปิด: 6:00-19:30 น.
ค่าเข้า: ฟรี
วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี Dazaifu Station แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
เว็บไซต์: http://www.dazaifutenmangu.or.jp
แผนที่: https://bit.ly/3LUxA8l
#12 ศาลเจ้าคุชิดะ (Kushida Shrine)
‘ศาลเจ้าคุชิดะ’ อีกหนึ่งที่เที่ยวในฟุกุโอกะที่เป็นศาลเจ้าสวยงาม โดดเด่นและมหัศจรรย์ด้วยสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งที่แสดงถึงงานฝีมือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางถนนที่พลุกพล่านและเมืองที่มีชีวิตชีวา เป็นศาลเจ้าที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาวฟุกุโอกะที่นิยมมาแสดงความเคารพและขอพรด้านต่าง ๆ ของชีวิต ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 1,200 ปีที่แล้ว โดยอุทิศให้กับเทพเจ้าสององค์ ได้แก่ อามาเทราสึ-โอมิคามิ และซูซาโนะ-โนะ-มิโคโตะ
หากคุณมาเที่ยวศาลเจ้าคุชิดะ อย่าลืมแวะรับประทานราเม็งเจ้าดังร้าน ‘Ichiran Ramen’ ที่สาขาแรกตั้งอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าแห่งนี้ และทุกปีในเดือนกรกฏาคม ที่ฟุกุโอกะยังมีการจัดเทศกาล ‘ฮากาตะ กิออน ยามาคาสะ’ (Hakata Gion Yamakasa) อลังการและน่าตื่นเต้น ที่จะมีทีมที่วิ่งแข่งแบกสิ่งก่อสร้างลอยสูงตระหง่านกันไปทั่วเมือง ทรงพลังด้วยเสียงกลองดังก้องสนั่น เป็นการเฉลิมฉลองประเพณีที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น น่าไปชมเป็นอย่างยิ่ง
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:00 น.
ค่าเข้า: ฟรี
วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี JR Hakata Station แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที หรือนั่งรถไฟใต้ดินลงที่สถานี Gion Station แล้วเดินอีก 8 นาที
แผนที่: https://bit.ly/3Q7OfYv
#13 กินราเมงข้อสอบ ร้าน Ichiran Ramen สาขาแรก!
หากคุณเป็นคนรักราเมน เมื่อมาเที่ยวจังหวัดฟุกุโอกะในประเทศญี่ปุ่นแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ควรพลาดคือแวะรับประทานบะหมี่ราเม็งที่ร้าน ‘Ichiran’ สาขาแรกของญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ในใจกลางฟุกุโอกะ
ที่ร้านอิจิรัน นาโนคาว่า (Ichiran Nanokawa Store) คุณจะได้ลิ้มลองราเม็งน้ำซุปกระดูกหมู ‘ทงคตสึ’ ที่เลื่องชื่อในเรื่องน้ำซุปที่เข้มข้นอย่าบอกใคร เส้นบะหมี่ที่ลวกสุกกำลังดี ราดด้วยน้ำซุปที่เข้ากับเส้น ปรุงให้เผ็ดเพิ่มขึ้นหรือเพิ่มท็อปปิ้งได้ถึงใจ!
เวลาเปิด-ปิด: 10:00-05:00 น.
ที่อยู่: 2 Chome-2-10 Nanokawa, Minami Ward, Fukuoka, 815-0081
แผนที่: https://bit.ly/46E3ZrM
#14 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอุมิโนะนากามิจิ (Marine World Umino-Nakamichi)
ที่เที่ยวฟุกุโอกะสำหรับเด็กและครอบครัว และผู้คนทุกเพศทุกวัย ‘มารีนเวิลด์ อุมิโนะ-นาคามิจิ ฟุกุโอกะ’ เป็นอควาเรี่ยมแห่งใหญ่ในฟุกุโอกะที่จะทำให้ความมหัศจรรย์ของโลกใต้ทะเลกลับมามีชีวิตอีกครั้ง! สำรวจสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลอันน่าทึ่งและหลากหลายผ่านการจัดแสดงแบบ Interactive, ใกล้ชิดกับปลาโลมาในขณะโชว์การแสดงที่ Dolphin Stadium, ชมความสวยงามของปลาหลากสีในโซนปะการังอันน่าทึ่ง, ตื่นตาตื่นใจกับเต่าทะเลอันยิ่งใหญ่ รวมทั้งนกเพนกวิ้นที่น่ารักและแม้แต่แมวน้ำขี้เล่น! สวรรค์แห่งท้องทะเลแห่งนี้ไม่เคยมีช่วงเวลาที่น่าเบื่อเลย
เวลาเปิด-ปิด: 9:30-17:30 น.
ค่าเข้า: 580-620 บาท (ขึ้นอยู่กับค่าเงินและโปรโมชั่น)
วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี Uminonakamichi station แล้วเดินต่อประมาณ 5 นาที
แผนที่: https://bit.ly/46kS0je
#15 สวนบนเกาะโนะโคะโนะชิมะ (Nokonoshima Island Park)
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งต่อไปในเมือง ‘ฟุกุโอกะ’ ออกเดินทางสู่สวนสาธารณะเกาะโนโคโนะชิมะที่สวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้รักธรรมชาติและผู้แสวงหาการผจญภัยต้องมาเยือน
สวนสาธารณะเกาะโนโคโนะชิมะตั้งอยู่นอกชายฝั่งของเมืองฟุกุโอกะ ทำให้ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวเดินทางมาได้อย่างง่ายดาย เมื่อคุณก้าวเท้าบนเกาะ คุณจะได้รับการต้อนรับด้วยภูมิประเทศที่น่าทึ่งและพืชพรรณที่มีชีวิตชีวาซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกสงบในทันที
จุดเด่นอย่างหนึ่งของอุทยานแห่งนี้คือทุ่งดอกไม้ที่สวยงาม ดอกไม้ต่างๆ บานสะพรั่งสีสันสดใสตลอดทั้งปี ทำให้เกิดบรรยากาศอันงดงามที่จะทำให้คุณหลงใหล ตั้งแต่ทิวลิป ดอกทานตะวัน ไปจนถึงดอกกุหลาบ แต่ละฤดูกาลจะแสดงความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
นอกเหนือจากการชื่นชมดอกไม้บานแล้ว สวนเกาะโนโคโนะชิมะยังมีกิจกรรมสันทนาการต่างๆ อีกด้วย ออกเดินทางบนเส้นทางเดินป่าที่มีทิวทัศน์สวยงามซึ่งจะนำคุณผ่านป่าเขียวชอุ่มและมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของทะเลโดยรอบ คุณยังสามารถผ่อนคลายที่จุดปิกนิกอันเงียบสงบที่กระจายอยู่ทั่วเกาะ
เพื่อให้การมาเยือนของคุณสมบูรณ์แบบ อย่าลืมลิ้มลองอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยที่คาเฟ่อันมีเสน่ห์ของสวนสาธารณะ หรือเลือกซื้อของที่ระลึกที่ร้านขายของที่ระลึก ด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบและความงดงามตามธรรมชาติ สวนสาธารณะเกาะโนโคโนชิมะจึงเป็นอัญมณีที่ซ่อนเร้นรอการสำรวจอย่างแท้จริง
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-17:30 น.
ค่าเข้า: ประมาณ 300 บาท (ขึ้นอยู่กับค่าเงิน)
วิธีการเดินทาง: สามารถเดินทางไปยังเกาะโนโคโนชิมะด้วยการนั่งเรือเฟอร์รี่ โดยขึ้นเรือที่ Meinohama Ferry Passenger Terminal ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที โดยมีเรือออกทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง
แผนที่: https://bit.ly/3PRf69Y
#16 วัดโทโชจิ (Tochoji Temple)
วัดโทโชจิตั้งอยู่ในเมืองฮากาตะ จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นวัดพุทธที่มีชื่อเสียงซึ่งมีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมอันงดงามและบรรยากาศอันเงียบสงบ วัดแห่งนี้ก่อตั้งโดยโคโบ ไดชิ พระภิกษุและนักวิชาการที่มีชื่อเสียงในช่วงศตวรรษที่ 9
เมื่อคุณก้าวเข้าสู่บริเวณวัด คุณจะได้รับการต้อนรับด้วยพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สง่างาม รูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดมหึมานี้มีความสูงถึง 10.8 เมตรที่น่าประทับใจ ทำให้เป็นหนึ่งในพระพุทธรูปไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นที่น่าจับตามองจริงๆ!
ภายในห้องโถงหลักของวัดโทโชจิ คุณจะค้นพบสมบัติที่ซ่อนอยู่อีกมากมาย สำรวจศิลปะทางพุทธศาสนาและรูปปั้นอันวิจิตรประณีตซึ่งแสดงถึงเทพเจ้าและสิ่งมีชีวิตบนท้องฟ้าต่างๆ ใช้เวลาสักครู่เพื่อสูดอากาศอันเงียบสงบขณะที่คุณดำดิ่งลงสู่พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
แต่วัดโทโชจิไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันยาวนานเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้มาเยี่ยมชมอีกด้วย อย่าลืมเข้าร่วมพิธีกรรมตามประเพณีหรือการทำสมาธิซึ่งจัดโดยพระภิกษุประจำถิ่น สัมผัสถึงความกังวลของคุณมลายหายไปเมื่อคุณสัมผัสกับแนวทางปฏิบัติแบบโบราณที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
หลังจากสำรวจบริเวณวัดแล้ว ให้เดินเล่นในวัดโชฟุคุจิที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือนอีกแห่งหนึ่งซึ่งจะช่วยเติมเต็มประสบการณ์ของคุณที่วัดโทโชจิ
เวลาเปิด-ปิด: 9:00-16:45 น.
ค่าเข้า: ฟรี
วิธีการเดินทาง: ขึ้นรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Gion subway station โดยสถานีรถไฟจะตั้งอยู่ด้านหน้าวัด หรือเดินจากสถานี Hakata Station ใช้เวลาประมาณ 10 นาที (ประมาณ 900 เมตร)
แผนที่: https://bit.ly/3tuQV9K
นอกจากจุดเด่นทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ที่เที่ยวฟุกุโอกะยังมีร้านอาหาร ย่าน ผู้คน ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและการออกแบบที่สะดุดตา คุณสามารถเพลิดเพลินกับการสัมผัสอาหารญี่ปุ่นที่นิยม เช่น ซูชิ ราเมน และสุกี้ นอกจากนี้ยังมีสถานที่เช่น ตลาดซามูไร (Samurai Market) ที่คุณสามารถหาของที่ระลึก ของฝาก กลับไปเพื่อเก็บความทรงจำ หรือ ฝากคนที่เรารักได้อีกด้วย อย่าพลาดเมืองแห่งความอบอุ่น ฟุกุโอกะ พร้อมต้อนรับทุกท่านอยู่นะคะ