สารบัญเนื้อหา
สำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 20 ปลาย ๆ ไปจนถึง 30 ต้น ๆ คุณคงกำลังรู้สึกว่าชีวิตเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง เนื่องจากต้องอยู่ในช่วงของการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ซึ่งนั่นถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับทุกคน ยิ่งเป็นคนที่อยู่ในวัยทำงาน เมื่อเริ่มมีทุนทรัพย์ก็อยากไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ทุกแพลนที่วางเอาไว้ก็ต้องพับเก็บ เมื่อทั้งโลกถูกแช่แข็งเอาไว้ถึง 3 ปีเลยทีเดียว
แต่วันนี้ ! ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถท่องเที่ยวในประเทศที่คุณต้องการได้แล้ว บทความนี้จะพาคุณไปเที่ยวดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย พร้อมแนะนำว่าการเที่ยวที่ญี่ปุ่นต้องใช้เงินเท่าไหร่ ? ซึ่งจะเป็นตามแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน ไม่แพงเกินไปจนกระเป๋าฉีกอย่างแน่นอน
ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi
อยากเที่ยวญี่ปุ่นให้สนุก อย่านึกถึงแต่คำว่า “ใช้เงินเท่าไหร่”
ถึงแม้ว่าเรื่องเงินจะเป็นสิ่งสำคัญต่อการเดินทาง ไม่ว่าจะเดินทางต่างประเทศ หรือเดินทางออกไปแค่ปากซอยต่างก็ใช้เงินทั้งนั้น แต่เราไม่อยากให้คุณโฟกัสแค่ว่า “เที่ยวญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่ ?” เพราะอาจทำให้ทริปนี้ไม่ได้เป็นทริปในฝันอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ การเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกควรเป็นความทรงจำที่ดีที่สุด ถึงแม้การประหยัดอดออมจะเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่เราอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามความพอดี ไม่ตึงเครียดจนเกินไป เพราะฉะนั้นเรื่องของเงินเราจะขอเอาไว้พูดถึงช่วงหลัง ๆ เรามาทำความเข้าใจกับการเดินทางครั้งนี้กันก่อนดีกว่า
เรื่องที่ควรศึกษา ก่อนเดินทางท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น
อย่างที่เราเกริ่นไปข้างต้น เราอยากให้คุณลืมคำว่า “เที่ยวญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่” ไปสักครู่ เพราะยังมีอีกหลายอย่างให้เราต้องทำการบ้าน การเที่ยวให้สนุกไม่ใช่แค่การไปผลาญเงินที่ต่างประเทศ แต่เป็นการเดินทางเพื่อซึมซับวัฒนธรรม บรรยากาศ และความรู้สึก ดังนั้นเพื่อให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด มีสิ่งที่คุณต้องศึกษาเอาไว้ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น ดังต่อไปนี้
- วัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น คุณควรศึกษาวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง การทานอาหาร การทักทาย ไปจนถึงอาหารการกิน และควรศึกษาในแหล่งท่องเที่ยวที่คุณจะไป เนื่องจากวัฒนธรรมของญี่ปุ่นค่อนข้างซับซ้อน แม้จะเป็นประเทศเดียวกัน แต่แค่ต่างถิ่นฐานก็จะมีสิ่งใหม่ ๆ รอให้คุณประหลาดใจอีกเพียบ
- มารยาททางสังคมที่ควรรู้ นิสัยดั้งเดิมของคนญี่ปุ่นจะเป็นคนสุภาพ ยึดหลักความเคารพกันและกัน เมื่อคุณได้รับสิ่งของ ความช่วยเหลือ หรือคำแนะนำต่าง ๆ คุณควรโค้งคำนับทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการสบตาโดยตรง และไม่ควรทำเสียงดังในที่สาธารณะ
- ห้วงการท่องเที่ยวที่เหมาะสม ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พิเศษด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี สภาพอากาศไม่ค่อยเลวร้ายสักเท่าไหร่ แต่ต้องทำการบ้านเพิ่มเติมในแหล่งท่องเที่ยวที่จะไป ว่าเหมาะกับช่วงอากาศแบบไหน
- ภาษาญี่ปุ่นเบื้องต้นบางคำ คอนนิจิวะ , ซาโยนาระ , อะริงาโตะ คำพวกนี้เป็นคำพื้นฐานที่คุณควรเรียนรู้ แต่ที่จริงยังมีคำศัพท์อีกหลาย ๆ คำที่ควรต้องจดจำไปบ้าง เพราะชาวญี่ปุ่นจะใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก แม้จะมีการใช้ภาษาอังกฤษมากกว่าเดิมแล้วก็ตาม
- ต้องหาอินเทอร์เน็ตจากไหน สิ่งแรกที่คุณควรนึกถึงหลังจากก้าวเท้าเข้าประเทศใดประเทศหนึ่ง คือการตามหาอินเทอร์เน็ต คุณอาจต้องซื้อซิมการ์ดสำหรับระยะสั้น ไปจนถึงการมี Pocket WIFI แบบพกพาก็สะดวกไม่แพ้กัน
- ระยะเวลาในการพำนักในญี่ปุ่น ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ หากคุณมีแผนที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่น 3-7 วัน เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า แต่หากคุณไปเที่ยวนานกว่า 15 วัน ก็จำเป็นต้องทำวีซ่าก่อนไป
รู้แล้วเหยียบเอาไว้ ! เทคนิคที่ช่วยให้การเที่ยวญี่ปุ่นด้วยงบประมาณที่คุ้มค่าที่สุด
เอาล่ะ ! ตอนนี้เริ่มเข้าใกล้ที่จะพูดคำว่า “เที่ยวญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่” เข้าไปอีกนิดแล้ว แต่ยังก่อน.. เพราะเราต้องการเดินทางด้วยงบที่ไม่บานปลาย การท่องเที่ยวแบบตามใจฉัน มักจะทำให้งบประมาณเกินความจำเป็นไปมาก ดังนั้นมาเรียนรู้เทคนิคดี ๆ ที่ช่วยทำให้งบประมาณของการท่องเที่ยวควบคุมได้ แถมยังไม่ทำให้ทริปของคุณต้องกระเบียดกระเสียรจนเกินไปอีกด้วย
#1 จองทุกอย่างที่จองได้เอาไว้ล่วงหน้า
เมื่อคุณเริ่มมีความสงสัยว่า การเที่ยวญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่ ? “ค่าเครื่องบิน” และ “ค่าที่พัก” คือ 2 รายจ่ายใหญ่ ๆ ที่คุณควรจัดการให้เร็วที่สุด เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะเดินทางไปเที่ยวที่ไหน ปักหมุดเอาไว้เลยว่าจะไปช่วงเวลาไหน จากนั้นจองทุกอย่างที่สามารถจองได้เอาไว้แต่เนิ่น ๆ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าจองข้ามเดือนอาจยังไม่พอ แต่จะจองข้ามปีมันก็กะไรอยู่ ดังนั้นต้องเลือกช่วงเวลาการจองที่เหมาะสม ติดตามโปรโมชั่นและข่าวสารส่วนลดอย่างต่อเนื่อง
#2 อาหารริมทางใช่ว่าไม่อร่อย
ฉันจะไปกินอูนิ !! โอมากาเสะครอสสุดหรู !! ไปจนถึง เนื้อวากิว A5 แกล้มเบียร์ฟิน ๆ !! ทุกอย่างนี้เราไม่ได้ห้ามเลยแม้แต่น้อย หากมันอยู่ในงบประมาณที่คุณรับไหว เราจะถือว่าเป็นการให้รางวัลตัวเอง แต่อย่าลืมว่า “อาหารญี่ปุ่นอร่อยมาก” แม้จะเป็นเพียงอาหารในร้านสะดวกซื้อ ก็สามารถทำให้คุณตื่นตาตื่นใจได้ รวมไปถึงร้านรวงที่อยู่ข้างทางก็รสชาติไม่ได้แย่อะไร แถมยังราคาไม่ได้แตกต่างจากการทานอาหาร บนแหล่งท่องเที่ยวบ้านเราสักเท่าไหร่ด้วย
แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกอย่าง คือเมนูอาหารลดราคาในซุปเปอร์มาร์เก็ตยามค่ำคืน หรือแม้กระทั่งเบนโตะหรือข้าวกล่องลดราคาในช่วงค่ำ ๆ แค่เห็นก็ตื่นตาตื่นใจแล้ว ทุกอย่างแปลกใหม่ น่าลองไปหมด
#3 เดินทางด้วยวิถี Slow Life
อีกหนึ่งสิ่งที่คุณต้องจดเอาไว้ เมื่อเริ่มสงสัยว่า การท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นต้องใช้เงินทั้งหมดเท่าไหร่คือ “ค่าเดินทางในประเทศ” เนื่องจากการท่องเที่ยวคือการเดินทาง คุณคงไม่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วเดินไปเดินมาแถว ๆ โรงแรม 3 วัน 2 คืน ใช่ไหมล่ะ ? ในระหว่างการวางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ควรศึกษาว่าในแหล่งท่องเที่ยวนั้น ๆ มีระบบขนส่งอะไรรองรับบ้าง นั่งรถไฟสายไหน ซึ่งราคาแม้จะแพงกว่าบ้านเรา แต่ถ้าไม่ใช่ชินคันเซ็นก็ถือว่าเป็นราคาที่ไม่แย่เลยสะทีเดียว
#4 วางแผนลำดับสถานที่ท่องเที่ยวอย่างรอบคอบ
เทคนิคสุดยอดสำหรับนักเดินทางมืออาชีพ (แม้คุณจะเพิ่งเที่ยวครั้งแรกก็ตาม) คือการปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยว จากนั้นจัดลำดับว่าจะไปที่ไหนก่อน ต่อด้วยที่ไหนตาม จากนั้นวางแผนที่พัก วางแผนการเดินทาง ทำทุกอย่างจนมาบรรจบที่ “ขากลับ” เปรียบเสมือนการเล่นเกมบันไดงู คุณต้องวางแผนตั้งแต่ต้นจนจบว่าต้องทำอะไรบ้าง และอย่าลืมคิดแผนสำรองเอาไว้สักหน่อย เนื่องจากไม่มีอะไรแน่นอนเสมอไป หากมีอะไรผิดคาด จะได้เที่ยวต่อได้ในแผนที่เตรียมเอาไว้
#5 หาเพื่อนรู้ใจช่วยแชร์ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
เป็นเรื่องจริงที่หลายคนกล่าวว่า “มากคน.. ก็มากความ” แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า “หลายหัวดีกว่าหัวเดียว” หากคุณกำลังนั่งกังวลว่าการเที่ยวญี่ปุ่นต้องใช้เงินเท่าไหร่ ลองหาคนมานั่งคิดกับคุณดูไหม ? ถ้าคุณไม่ใช่คนโสด หรือชื่นชอบการเดินทางแบบ Solo Traveling การหาเพื่อนเที่ยวก็ไม่ได้เป็นเรื่องแย่อะไร ดีเสียด้วยซ้ำไป เพราะจะได้แชร์ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากเดิมที่ต้องรับผิดชอบเองคนเดียว การมีคนรู้ใจไปด้วยอาจช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายมาได้เกือบครึ่ง มีเงินใช้จ่ายสิ่งที่อยากได้มากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
มนตร์เสน่ห์อันน่าลุ่มหลงของญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่แสงสี
ต่อจากนี้เราจะมาโฟกัสกันไปที่หัวข้อหลักในบทความนี้ การเที่ยวญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่ ? คำตอบที่เราอยากมอบให้คือ “แล้วแต่คุณ” ซึ่งเราไม่ได้กวนโอ๊ยแต่อย่างใด แต่งบประมาณการท่องเที่ยวนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณสบายใจที่เท่าไหร่ แต่อย่างที่เรากล่าวมาเสมอในช่วงต้นของบทความ การที่คุณอ่านมาจนถึงตอนนี้ แสดงว่าคุณเป็นผู้ที่เริ่มทำงานมาได้สักระยะแล้ว คงมีเงินเก็บพอประมาณ เพราะฉะนั้นเราจะไม่ใช้คำว่า “เที่ยวญี่ปุ่นแบบประหยัด” แต่จะเป็นการ “เที่ยวญี่ปุ่นอย่างไรให้คุ้มค่า” แทน
สำหรับบทความนี้เราจะพาคุณออกไปเที่ยวในโซนต่างจังหวัด ไม่ได้อยู่แค่ในเมืองหลวง เนื่องจากมนตร์เสน่ห์ที่แท้จริงของญี่ปุ่นไม่ใช่แสงสี ไม่ใช่ชิบูย่า ไม่ใช่โตเกียว แต่เป็น “วัฒนธรรม” เรามั่นใจว่าในประเทศแห่งนี้ ยังมีอะไรดี ๆ รอคุณอยู่อีกมากมาย ยิ่งคุณอยากท่องเที่ยวด้วยงบที่มีอยู่จำกัด การไปเมืองรองต่าง ๆ ของญี่ปุ่นก็ช่วยเซฟค่าใช้จ่ายได้พอสมควร ถ้าคุณเห็นด้วยกับเรา ไปต่อกันได้เลยในหัวข้อถัดไป
แพลนเที่ยวญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกที่ “โอกินาว่า” สวรรค์แดนใต้ของญี่ปุ่น
เตรียมเครื่องคิดเลขเอาไว้ให้ดี เพราะใกล้เวลาแล้วที่คุณจะได้รู้ ว่าการเที่ยวญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่ ? แต่ก่อนจะไปรู้ถึงตัวเลขอันแน่ชัด เราต้องขอปักหมุดปลายทางเสียก่อน ทริปญี่ปุ่นครั้งแรกที่เราอยากแนะนำจะเป็นในส่วนของ “เกาะโอกินาว่า” ดินแดนที่ถูกขนานนามว่าสวรรค์แดนใต้แห่งเมืองปลาดิบ เมืองที่มีวัฒนธรรมอันสวยงาม ธรรมชาติอันร่มรื่น ไปจนถึงชายหาดทรายขาวสุดสวยยาวสุดลูกหูลูกตา ไปดูกันว่าถ้ามาเที่ยวเมืองนี้ มีแหล่งท่องเที่ยวไหนต้องไปเยือนกันบ้าง
1. เยี่ยมชม “ปราสาทชูริ” มรดกโลกของญี่ปุ่น
เริ่มต้นกันที่ “ปราสาทชูริโจ” ปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใจกลางดินแดนที่เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของเกาะโอกินาว่า เป็นหนึ่งในปราสาทที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “มรดกโลก” แม้จะผ่านระยะเวลามาแล้วกว่าหลายร้อยปี ความงดงามของตัวปราสาทก็ไม่ได้เลือนหายไป ระหว่างเยี่ยมชมคุณอาจเคลิบเคลิ้มเหมือนหลุดไปในซีรีส์ย้อนยุค จนลืมนึกไปเลยว่าตอนนี้คุณกำลังสงสัยว่า เที่ยวญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่ ?
2. “ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ” แหล่งท่องเที่ยวสายมู ที่สวยจนลืมกะพริบตา
คนไทยอย่างเราจะหนีเรื่องสายมูไปก็ไม่ได้ แม้จะเป็นต่างชาติ ต่างศาสนา แต่การได้เยี่ยมเยียนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างแดนก็เป็นอะไรที่ Unseen ไม่ใช่น้อย “ศาลเจ้านามิโนะอุเอะ” เป็นศาลเจ้านิกายชินโต เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนพื้นถิ่นของโอกินาว่าให้ความเคารพเป็นอย่างมาก ไปจนถึงชาวญี่ปุ่นต่างก็เดินทางยังที่แห่งนี้ เพื่อขอพรเกี่ยวกับความร่ำรวย การค้าขาย รวมไปถึงการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ให้หลุดพ้นไปจากร่างกายและจิตใจ
3. สูดโอโซนให้ฉ่ำปอดที่ “น้ำตกฮิจิ”
ถ้าคุณยังวนเวียนคิดถึงแต่เรื่องที่ว่า เที่ยวญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่ ? คุณอาจลืมนึกถึงสถานที่แห่งนี้ไป “น้ำตาฮิจิ” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แต่ผู้ที่มาเยือนสถานที่แห่งนี้ต้องเตรียมร่างกายเอาไว้สักหน่อย เพราะจำเป็นต้องเดินเท้ากว่า 15 กิโลเมตร (เฉพาะขาไป) เส้นทางค่อนข้างสูงชัน แต่ก็มีการทำทางเดินเอาไว้ให้เดินได้สะดวกปลอดภัย นอกจากการได้ชมน้ำตกที่สวยงามแล้ว ยังมีไฮไลท์เป็นสะพานแขวนที่ต้องเดินผ่าน ซึ่งเบื้องล่างเป็นหุบเขาลึกกว่า 10 เมตร นอกจากได้ความสวยงามของบรรยากาศ ยังแอบหวาดเสียวนิดหน่อย ช่วยกระตุ้นอะดรีนาลีนในร่างกายอีกด้วย
4. ท่องโลกใต้ทะเลที่โอกินาว่า “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ”
เมื่อขึ้นชื่อว่า “มาเที่ยวเกาะ” การไม่ได้เห็นอะไรเกี่ยวกับทะเล คงทำให้การเดินทางในครั้งนี้กร่อยลงไปในทันที “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ” เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น ภายในเต็มไปด้วยสัตว์ทะเลน้อยใหญ่กว่า 70 ชนิด คุณจะได้เห็นภาพอันสวยงามที่หาไม่ได้จากที่อื่น พร้อมเก็บภาพในจุดไฮไลท์ในบริเวณตู้ปลาขนาดยักษ์ ซึ่งทำให้คุณเหมือนอยู่ใต้ท้องทะเล แล้วคุณจะรู้ได้เลยว่ามนุษย์เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ เพียงเท่านั้น
5. เที่ยว “แหลมซัมปะ” แล้วไปลิ้มรสโซบะร้านดัง
แหล่งท่องเที่ยวสุดท้ายที่เราจะแนะนำ แต่ไม่ใช่ที่เที่ยวสุดท้ายที่คุณจะต้องมาเที่ยว คือ “แหลมซัมปะ” อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเกาะโอกินาว่า เป็นอีกหนึ่งแหล่งชมวิวที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในเกาะ มีประภาคารสูงตระหง่าน สามารถชมวิวทะเลได้ทั้งตอนกลางวัน และในช่วงพระอาทิตย์ตก หลังจากเที่ยวจนท้องหิวก็ต้องไปลิ้มลองของอร่อย “NAKAMURA SOBA” ร้านโซบะชื่อดังที่พร้อมมอบรสชาติแห่งโอกินาว่าให้กับคุณ เป็นร้านที่ดังมาก ๆ เนื่องจากหารสชาติแบบนี้ไม่ได้ที่ไหนอีกแล้ว ว่ากันว่านี่คืออาหารที่เมื่อมาโอกินาว่าต้องได้ลิ้มลองสักครั้งหนึ่ง
ทริปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกในคราวนี้ ใช้เงินไปเท่าไหร่ ?
ได้เวลากดเครื่องคิดเลขแล้วในตอนนี้ สำหรับคำตอบของข้อสงสัย เที่ยวญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่ ? ในทริปนี้เราใช้ระยะเวลาประมาณ 4 วัน 3 คืน ในงบประมาณ 30000 บาท ++ ซึ่งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็จะมีดังต่อไปนี้
- ค่าตั๋วเครื่องบิน เลือกเดินทางด้วยสายการบินราคาประหยัดที่บินตรงกรุงเทพ-ญี่ปุ่น ราคาเที่ยวบินละประมาณ 5,000-8,000 บาท รวมแล้วไป-กลับ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 ต้น ๆ
- ค่าที่พัก ที่พักที่นี่ไม่ได้แพงมาก หากเลือกพักแบบโรงแรมทั่วไปอาจจะได้ราคาสัก 2,000 บาท/คืน หรือถ้าอยากประหยัดกว่านั้นก็มีโฮสเทลต่าง ๆ ที่มีราคาแค่หลัก 1,000 นิด ๆ ต่อคืนเท่านั้นเอง หากคุณไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วหารกัน ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลงอีก
- ค่าเดินทาง แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ อยู่ใกล้สถานีรถประจำทาง และเกาะโอกินาว่ามีพื้นที่แค่ประมาณ 1,200 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ในส่วนนี้เราคิดแบบนั่งสบาย ๆ ไปเลย ประมาณ 500 บาท/วัน
- ค่าอาหาร ค่าอาหารก็ขึ้นอยู่กับที่ว่าคุณจะเลือกทานอย่างไร ถ้าเป็นผู้ที่ทานมื้ออาหารทั่ว ๆ ไป ก็จะตกอยู่ที่ 250-400 บาท/มื้อ แต่ถ้าเป็นมือพิเศษก็จะมีราคาสูงขึ้นมาสักหน่อย
สรุปสุดท้ายแล้ว จากการประเมินราคาแบบไม่ยากลำบากจนเกินไป แม้จะพยายามให้ค่าใช้จ่ายไม่บานปลาย แต่ก็จะไม่ประหยัดจนเที่ยวไม่สนุก กินแต่อาหารสำเร็จรูปทุกมื้อ ทั้งหมดแล้วจะใช้เงินอยู่ที่ประมาณ 30,000-40,000 บาท เพียงเท่านั้น
บทส่งท้าย
เราหวังเป็นอย่างมากว่าสิ่งที่คุณจะได้รับจากบทความนี้ จะเป็นมากกว่าแค่คำตอบที่ว่า “เที่ยวญี่ปุ่นใช้เงินเท่าไหร่” การเที่ยวญี่ปุ่นไม่ได้ใช้เงินมากมายอย่างที่คุณคิดเอาไว้เลยใช่ไหมล่ะ ที่จริงยังสามารถประหยัดกว่านี้ได้อีกพอสมควร แต่อย่างที่เราบอกไปข้างต้น เราอยากให้ทริปนี้เป็นประสบการณ์ครั้งแรก ที่สร้างความประทับใจให้คุณในญี่ปุ่น สุดท้ายนี้ก่อนจากกัน ประเทศญี่ปุ่นยังมีอะไรอีกหลายอย่างให้คุณได้ค้นหา หากคุณมีโอกาสได้มาเยือนประเทศแห่งนี้ เราอยากให้คุณเก็บความทรงจำดี ๆ เอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สวัสดีครับ