รีวิวที่พักในคาวากุจิโกะ ฉบับปี 2023 นี้ เรานำมาฝากเพื่อน ๆ ที่ TravelDiDi.com กับ รีวิวที่พักแบบโรงแรมเรียวกัง ชื่อ ‘Hotel Kaneyamaen‘ ซึ่งเป็นโรงแรมในคาวากุจิโกะที่เราไปพักมาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว นอกจากบริการรถรับ-ส่งไปยังสถานี Kawaguchiko Station และ Fujisan Station แล้ว โรงแรมแห่งนี้ยังมีห้องพักหลากหลายสไตล์ บางห้องมีอ่างออนเซ็นสำหรับแช่ส่วนตัวในห้องพัก และยังมีอาหารเย็นเสิร์ฟแบบไคเซกิอีกด้วย มาดูกันเลยว่าจะน่าพักขนาดไหน!

ติดตามเราได้ที่ Facebook TravelDiDi

รีวิว ข้อดีของการพักที่ โรงแรมเรียวกัง Hotel Kaneyamaen เมื่อไปเที่ยวคาวากุจิโกะ

ทำไมถึงเลือกพักกับโรงแรมเรียวกัง Hotel Kaneyamaen

กำเงินคนละหมื่นแล้วไปพักที่ห้อง Yuraku Yamabiko-tei Mount Fuji View Japanese Style Room with Open-Air Bath กันค่ะ คุ้มมากเกินกว่าที่จะบรรยาย!

รีวิวนี้เป็นรีวิวแบบลูกค้าจ่ายเงินเอง เลือกเอง ไม่มีสปอนเซอร์ใด ๆ ทั้งนั้น มารีวิวเพราะความประทับใจจริง ๆ ค่ะ … ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่เรามาพักที่โรงแรม Kaneyamaen ค่ะ เราเคยมาพักที่นี่ครั้งแรกเมื่อปี 2017 (ฤดูใบไม้ผลิ) ตามมาด้วยปี 2022 (ฤดูหนาว) และปี 2023 (ฤดูใบไม้ผลิ) สาเหตุที่เลือกพักที่นี่เพราะในครั้งแรกเราค้นหาที่พักในคาวากุจิโกะที่เป็นเรียวกัง และอยากได้ที่เห็นวิวฟูจิ เราสะดุดตากับภาพโฆษณาของ Agoda ที่มีรูปบ่อน้ำพุร้อนเอาท์ดอร์ที่สามารถเห็นวิวฟูจิขณะแช่ได้

รูปภาพ Hotel Kaneyamaen

ที่นี้พอเข้าไปดูรายละเอียดโรงแรมก็พบว่า แม้ว่าโรงแรมแห่งนี้จะตั้งอยู่ค่อนข้างไกลจากสถานี Kawaguchiko และ Fujisan Station ประมาณ 4 กิโลเมตร แต่สาเหตุที่เลือกมาพักที่เรียวกังแห่งนี้ (และมาพักซ้ำหลายรอบ) ก็มีเหตุผลมากมายดังนี้

1. บริการรถ Shuttle Bus รับส่งแบบฟรี!

Source: TravelDiDi.com รูปภาพตอนเข้าพักปี 2022 ฤดูหนาว

จากสถานี Kawaguchiko Station และ Fujisan Station (ไม่ใช่ Mt. Fuji 5th Station) ไปยังโรงแรม Hotel Kaneyamaen ทางโรงแรมเรียวกังมีรถรับส่งฟรี! และถ้าหากเข้าไปพักในโรงแรมแล้วก็สามารถนั่งรถนี้ออกไปยัง 2 สถานีนี้ได้ด้วย ไปเที่ยวคาวากุจิโกะได้สบายเลย ซึ่งถูกจริตคนแบบเราที่ไม่ได้ขับรถเที่ยวเอง และไม่ถนัดขับรถเอง

โดยปกติเมื่อจองโรงแรมกับที่นี่ ทางโรงแรมจะส่งข้อความในแอพ Agoda กลับมาแจ้งรายละเอียดห้องพักและวันที่เข้าพัก และบอกรายละเอียดเรื่องรถ Shuttle Bus ซึ่งเมื่อเราเดินทางไปถึงสถานีที่เป็นจุดนัดพบก็ให้โทรเข้าเบอร์โรงแรมและแจ้งชื่อผู้จอง ซึ่งในส่วนนี้ก็จำเป็นต้องเปิดโรมมิ่งหรือมีซิมที่สามารถโทรหาโรงแรมไว้ด้วยค่ะ หรือ หากไปถึงจุดนัดพบก่อนช่วงเย็นและ Tourist Information ใกล้สถานียังไม่ปิดก็สามารถให้พนักงานที่นั่นช่วยโทรได้ค่ะ

ปี 2017 ส่งรถตู้อัลพาร์ทมารับ (พักกับเพื่อนผู้หญิง 2 คน) ส่วนปี 2022 และ 2023 ที่ไปพักล่าสุดนี้ ส่งเป็นมินิบัสมารับค่ะ รถสะอาด เดินทางปลอดภัย

2. ห้องพักเห็นวิวฟูจิ

วิวจากห้องที่เราพักค่ะ ใช้กล่องไฟโฟนถ่ายโหมด Portrait รูปตอนไปพักฤดูหนาวปี 2022

โรงแรม Hotel Kaneyamaen มีห้องพักให้เลือกหลายเรทและหลายราคามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักสไตล์เรียวกังญี่ปุ่นดั้งเดิม มีอ่างออนเซ็นส่วนตัว วิวภูเขาไฟฟูจิ หรือจะเป็นแบบวิวสวนก็มี และยังมีห้องพักแบบสไตล์กึ่ง Western ราคาก็จะแตกต่างกันไป ส่วนคนที่อยากได้ห้องพักวิวฟูจิแบบปัง ๆ เห็นชัด ๆ และมีเล้าจ์แบบวีไอพีส่วนตัวสุด ๆ ที่นี่ก็มีห้องแบบ VIP และห้องพักโซน BESSHO SASA ชั้น 4 และ ชั้น 5 ที่เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิแบบชัดเจนอีกด้วยค่ะ

© Hotel Kaneyamaen & Bessho SASA

ห้องพักที่เราเลือกจองทั้ง 3 ครั้ง เป็นห้องพักแบบ Yuraku Yamabiko-tei Mount Fuji View Japanese Style Room with Open-Air Bath – Non-Smoking Mountain view  ขนาดห้องอยู่ที่ประมาณ 68 m²/732 ft² สามารถนอนพักได้สูงสุด 6 คนค่ะ

 

มีโต๊ะอุ่นเท้าให้ มาพักในฤดูหนาว ฟินมาก ๆ หลังแช่น้ำพุร้อนเสร็จ ก็มาดื่มชานั่งโซฟาอุ่นขาตรงนี้ต่อ ฟินจนเผลอหลับไปเลย

ราคาห้องพัก หากพัก 2 คนจะอยู่ที่ประมาณ 14,000-18,000 บาท ขึ้นอยู่กับฤดูกาลที่ไปพัก แต่เมื่อมีเด็กอายุมากกว่า 7 ขวบไปเพิ่มด้วยราคาที่จองได้ก็จะเป็น 26,684 บาท เพิ่มขึ้นมาประมาณ​ 8,000 บาทค่ะ

แต่ถ้าอยากได้ห้องพักแบบเห็นวิวฟูจิแบบอลังการก็มีห้องพักสไตล์อื่น ๆ และมีแบบวีไอพีและห้องเล้าจ์ ซึ่งยังไม่เคยพักค่ะ แต่แน่นอนว่าราคาห้องวีไอพีน่าจะสูงกว่า

© Hotel Kaneyamaen & Bessho SASA

3. มีอ่างออนเซ็นส่วนตัวให้แช่ในห้อง

ข้อดีของห้องพักแบบ Yuraku Yamabiko-tei Mount Fuji View Japanese Style Room with Open-Air Bath ที่เรียวกัง Kaneyamaen คือมีอ่างออนเซ็นส่วนตัว แช่ได้ยาว ๆ ทั้งคืนไม่มีเวลาปิด มีห้องอาบน้ำและห้องแต่งตัวแยกส่วนตัว รวมทั้งมีห้องน้ำแยกส่วนด้วยค่ะ ขนาดห้องกว้าง 68 m² ซึ่งกำลังดีสำหรับการมาพักผ่อนเลยค่ะ สามารถชมวิดิโอซึ่งเราจะทยอยอัปโหลดลงโซเชียลมีเดีย @khun.panisa

4. เสิร์ฟมื้อเย็น แบบไคเซกิ วัตถุดิบดีมาก

แพ็กเกจที่มากับห้องพักแบบ Yuraku Yamabiko-tei Mount Fuji View Japanese Style Room ที่เราจองไว้คือมีอาหารเย็นเสิร์ฟแบบไคเซกิ เมนูอาหารตามฤดูกาล ตอนที่เราไปพักเมื่อเดือนเมษายนปี 2017 ซึ่งเป็นฤดูใบไม้ผลิก็มีเสิร์ฟเป่าฮื้อเช่นกันแต่เป็นแบบนึ่ง ส่วนปี 2023 เดือนเมษายนก็เสิร์ฟเป่าฮื้อ แต่รอบนี้มาแบบสด ๆ มาโชว์แบบสด ๆ ให้ดู คนละ 1 ตัวก่อนจะนำไปประกอบอาหารต่อค่ะ ส่วนของเด็ก 7 ขวบ จะได้เป็นอาหารเด็กแทน

ความตื่นเต้นของอาหารไคเซกิที่โรงแรมเรียวกังก็คือ เวลาเราจองเราจะไม่รู้ว่าเราจะได้เจออะไรบ้าง เพราะฉะนั้นมันจะเต็มไปด้วยความรู้สึกลุ้นว่าวันนี้โรงแรมจะเตรียมอะไรไว้ให้เรากินตอนมื้อเย็นกันนะ? ซึ่งพอมาเสิร์ฟที่ละเมนูและมากขึ้นเรื่อย ๆ มันก็จะเต็มไปด้วยความว้าว ความเพลิน ความฟินค่ะ

เมนูอาหารวันนี้ค่ะ

สำหรับลำดับการเสิร์ฟอาหารเราจะจำไม่ค่อยได้ รูปที่โพสต์ด้านล่างนี้คือโพสต์จากความทรงจำ ใครอ่านภาษาญี่ปุ่นออกก็สามารถดูจากรูปภาพด้านบนได้ และด้วยความที่มากับเด็ก อาหารในรูปอาจจะไม่ครบ เพราะจริง ๆ แล้วโดนลูกแย่งกินตลอด แม้แต่เป่าฮื้อก็คือเสร็จลูกเกือบหมด และก่อนเริ่มทานอาหารก็จะมีพนักงานมาสอบถามว่าอยากได้เครื่องดื่มอะไร จะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสิร์ฟให้พิเศษท่านละ 1 กรึบด้วยค่ะหากเลือก เพิ่มความอยากอาหาร

รูปภาพอาหารที่นำมาลงอาจจะไม่ครบทั้งหมด เพราะจริง ๆ คนเขียนก็จำไม่ได้เนื่องจากอาหารเยอะมาก แต่เคยถามพนักงานเสิร์ฟว่าเราจำเป็นต้องทานให้หมดห้ามเหลือมั้ย พนักงานก็บอกว่าไม่จำเป็น เพราะปกติพวกเขาก็ไม่ได้กินกันเยอะขนาดนี้ แต่ถามว่าเรากินหมดมั้ย ก็ปรากฏว่ากินหมดไม่เหลือ!

ส่วนของปี 2017 ที่เคยมาพักนั้น ห้องอาหารจะยังเป็นแบบเก่าค่ะ แต่ของปี 2022-2023 ที่กลับไปพัก ก็พบว่ามีการปรับปรุงโรงแรมไปหลายส่วนแล้วทั้งห้องอาหารและที่อื่น ๆ เลยนำรูปภาพที่ไปพักช่วงปี 2017 มาให้ดู การเสิร์ฟอาหาร จาน ช้อน ถ้วย จะดูแบบโบราณมากกว่าปัจจุบัน ปัจจุบันจะดูหรูหรามากขึ้นค่ะ

รูปภาพอาหารสมัยปี 2017 โรงแรม Hotel Kaneyamaen ฤดูใบไม้ผลิเดือนเมษายน

รูปภาพอาหารสมัยปี 2017

รูปภาพอาหารสมัยปี 2017 ใส่ชุดยูกาตะมาทานอาหารเย็น

ห้องอาหารเย็น Hotel Kaneyamaen ปี 2023

5. นอนฟูกญี่ปุ่นนุ่ม ๆ อุ่น ๆ เป็นการพักผ่อนนอนหลับที่สบายมากเลย

ต้องบอกก่อนว่า ตอนไป Check-in เข้าพักโรงแรม ทางพนักงานจะมีการสอบถามว่าเราจะมาทานอาหารเย็นในเวลาใด และให้รูปภาพแผนที่ภายในโรงแรมมาให้อีกด้วย ต้องบอกตรง ๆ ว่าโรงแรมแห่งนี้กว้างใหญ่และมีห้องอาหารหลายห้อง มีห้องแช่น้ำพุร้อนแบบสำหรับแขกในโรงแรมก็หลายห้อง รายละเอียดการตกแต่งแบบเรียวกังดั้งเดิมต่าง ๆ ทำให้รู้สึกว่าอยากถ่ายรูปทุก ๆ ที่ที่เดินไปเลยค่ะ

และเมื่อเรารับประทานอาหารเสร็จ กลับเข้าที่พัก ก็จะมาเจอเซอร์ไพรส์ว่ามีพนักงานเข้ามาจัดฟูกปูเบาะให้เรียบร้อยแล้ว

ทีนี้เราจะเลือกอาบน้ำและนอนต่อเลยก็ได้ หรือจะไปแช่ออนเซ็นในห้องของเราต่อก็ได้

6. อาหารเช้าดีงาม อาหารให้เลือกเกินกว่าจะบรรยาย

ตื่นมาตอนเช้า ยังไม่ทันจะหิวแต่ทางโรงแรมก็มีอาหารเช้าเสิร์ฟแล้ว โดยสำหรับอาหารเช้าจะเป็นการทานรวมกันทุกประเภทห้องพัก ไม่มีแยกกันเหมือนตอนทานอาหารเย็น

อาหารเช้าที่โรงแรม Hotel Kaneyamen มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ ทั้งอาหารเช้าแบบ Western และอาหารญี่ปุ่นที่มีทั้งซาชิมิ ไข่ลวก มันโทโรโระ ปลานึ่ง ซึ่งเราก็ค่อนข้างเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปไลน์อาหารต่าง ๆ มา เพราะว่าใหญ่มาก ๆ มีให้เลือกเยอะมาก ในรูปถ่ายอาหารที่เราตักมานี้ก็ยังไม่ถึงครึ่งของเมนูที่โรงแรมมีเสิร์ฟค่ะ ไม่ว่าจะหมี่เย็น บะหมี่โฮโตะ แบบยามานาชิ (Hoto Noodles) ที่นี่ก็มี แกงกะหรี่ ซีเรียล ผลไม้ แพนเค้ก ฯลฯ ทั้งหมดทั้งมวลอลังการเกินกว่าที่จะบรรยายออกมาได้หมด เกินกว่าที่ท้องของเราจะรับได้ จึงเลือกทานเฉพาะที่ทานหมด แต่อยากแนะนำให้ทาน “ซาชิมิปลาหมึก” ของที่นี่ เพราะอร่อยมาก สด ไม่คาว เลยค่ะ เราถูกใจปลาหมึกทั้งแต่ตอนมื้อเย็น พอถึงมื้อเช้าก็เลยมาทานที่ห้องอาหารเช้าต่อ

นัตโตะมีให้เลือกหลายยี่ห้อค่ะ แต่เราเลือกอันนี้

ความสุขมื้อเช้าของฉันคือการทานข้าวและนัตโตะกับผักดองต่าง ๆ ไข่ลวก และบ๊วย พร้อมซุปมิโสะ อิ่มไปจนถึงเย็น พร้อมที่จะไปเที่ยวต่อค่ะ

• รีวิว เที่ยวโอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai) ชมซากุระ เมษายน 2023 (ตอนที่ 1)
• รีวิว เที่ยวคาวากุจิโกะ เทศกาลซากุระ & เจดีย์แดง Chureito (ตอนที่ 2)

7. เที่ยวได้ 4 ฤดู และแค่เที่ยวในโรงแรมก็ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกแล้ว

อีกเหตุผลหนึ่งที่เรากลับมาพักที่โรงแรม Hotel Kaneyamaen ซ้ำ ก็คือโรงแรมมีพื้นที่และ Facility ครบสำหรับการพักผ่อน คือแค่พักในโรงแรมก็ไม่อยากออกไปข้างนอกอีกแล้ว และอย่างที่กล่าวไปข้างต้น เรียวกังแห่งนี้มีห้องอาบน้ำแช่ออนเซ็นแบบ Open-Air ให้เลือกหลายบ่อค่ะ นอกจากรูปด้านล่างนี้แล้ว ก็ยังมีบ่ออื่น ๆ และบ่อแช่เท้าในขณะชมสวนอีกด้วยค่ะ

สวนภายในโรงแรม Hotel Kaneyamaen เป็นสวน 4 ฤดู ที่เราไปในฤดูใบไม้ผลิที่นี่จะมีดอกซากุระบานออกดอกสวยงาม และในฤดูหนาว ถ้าหากคุณโชคดีไปในช่วงหิมะตก ก็จะได้เห็นสวนแห่งนี้ในทิวทัศน์ภายใต้หิมะสีขาวโพลนค่ะ และอีกฤดูที่น่าไปก็คือฤดูใบไม้ร่วงที่ต้นไม้จะเปลี่ยนใบผลัดเป็นสีส้ม แดง เหลือง การไปพักที่นี่ในฤดูใบไม้ร่วงจึงเป็นอีกหนึ่ง Wish List ที่เรารออยากไปพักอีกครั้งค่ะ

มีต้นซากุระปลูกในโรงแรม จริง ๆ ก็ไม่ต้องออกไปที่อื่นก็ได้ สำหรับคนที่ชอบอยู่ในโรงแรม

• รีวิว เที่ยวโอชิโนะฮักไก (Oshino Hakkai) ชมซากุระ เมษายน 2023 (ตอนที่ 1)
• รีวิว เที่ยวคาวากุจิโกะ เทศกาลซากุระ & เจดีย์แดง Chureito (ตอนที่ 2)

© Hotel Kaneyamaen & Bessho SASA

อ่างแช่เท้าน้ำพุร้อนจากภูเขาไฟฟูจิ มีวิวด้านบนเป็นดอกซากุระ

 

ไฮไลท์อีกอย่างคือเซ็ทของว่างต้อนรับของเรียวกังที่นี่ คือจะมีชาเขียวเสิร์ฟพร้อมขนมหวานญี่ปุ่นในห้องดื่มชาวิวแม่น้ำลำธารไหลผ่าน ซึ่งวิวทิวทัศน์และอุณหภูมิอากาศจะให้ความรู้สึกแตกต่างกันไปในแต่ละฤดูค่ะ ส่วนเมนูขนมหวานในแต่ละฤดูก็จะแตกต่างกันออกไปเช่นกัน เราเคยมาพักในปี 2022 ฤดูหนาวและพบว่าขนมอร่อยมาก จนต้องไปตามหาซื้อที่ในร้านขายของภายในโรงแรมเลยค่ะ

รูปภาพฤดูใบไม้ผลิ เดือนเมษายน ปี 2023

รูปภาพฤดูใบไม้ผลิ เดือนเมษายน ปี 2023

และนอกจากบริเวณในสวนแล้ว ทางโรงแรมยังมีโบถส์ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานด้วย และที่ใกล้ ๆ ห้องดื่มชาก็มีบริเวณที่สามารถเดินข้ามสะพานไปชมธรรมชาติริมลำธารและบริเวณภายในพื้นที่ได้อีกด้วยค่ะ

8. มีโชว์ตีกลองตอนกลางคืน

ในช่วงกลางคืนที่โรงแรม Hotel Kaneyamaen ก็จะมีการแสดง “Reiho Taiko” เป็นการแสดงตีกลองเสียงดังคึกคักได้ใจมากเลยค่ะ และยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกเล่นบิงโกได้รับรางวัลกันอีกด้วย ตอนไปช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2023 พวกเราเล่นบิงโกชนะได้รางวัลเป็นน้ำองุ่นขวดใหญ่กลับมาด้วยค่ะ

 

เด็กดีใจมีความสุขมากที่ได้รับรางวัลค่ะ

9. ร้านสะดวกซื้อและขายของที่ระลึกในโรงแรม และจุดส่งกระเป๋าแมวดำ

ที่โรงแรม Hotel Kaneyamaen หากเราไป Check-in ก่อนเวลาก็สามารถฝากกระเป๋าเอาไว้ได้ ส่วนในวันกลับที่นี่จะไม่รับฝากกระเป๋าค่ะ แต่มีบริการของบริษัทแมวดำที่สามารถช่วยส่งกระเป๋าข้ามจังหวัดได้ค่ะ เราเคยใช้บริการนี้ที่โรงแรมแห่งนี้ตอนไปเที่ยวฤดูหนาวเดือนธันวาคมปี 2022 ค่ะ ขาไปเราพกกระเป๋าใบใหญ่ไปด้วย และเมื่อพักเสร็จก็จะนำเสื้อผ้าที่ต้องใช้ในวันถัดไปแบ่งมาใส่ในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก แล้วฝากกระเป๋ากับบริษัทแมวดำให้ไปส่งที่โรงแรมในโตเกียว จุดที่ส่งกระเป๋าเดินทางอยู่ในร้านขายของที่ระลึกในโรงแรมนี้เองค่ะ ส่วนเราก็ไปเที่ยวรอบ ๆ คาวากุจิโกะต่อแบบชิว ๆ เอาแค่กระเป๋าใบเล็กขึ้นรถแท็กซี่ไปค่ะ

 

10. Customer Service ดี พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้

อีกอย่างที่ประทับใจเกี่ยวกับโรงแรม Hotel Kaneyamaen ก็คือพนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ ตอบ Inbox ในแอพอะโกด้าค่อนข้างเร็ว และโรงแรมสามารถช่วยเรียกแท็กซี่ทั้งแบบ Chartered Taxi และแบบไปรับส่งเฉพาะจุดให้ได้อีกด้วยค่ะ เราเคยส่งข้อความไปถามเรื่องเหมารถแท็กซี่เที่ยวคาวากุจิโกะประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งทางโรงแรมก็ช่วยแนะนำเว็บไซต์บริการแท็กซี่ที่พูดภาษาอังกฤษได้มาให้ ทำให้การไปเท่ียวคาวากุจิโกะของเราสะดวก สบาย และประทับใจมากค่ะ

Link สำหรับจอง: https://bit.ly/3t3QSCe

 

---

---